Trends / แม้เป็นประเทศขนาดไม่ใหญ่โต แต่นิวซีแลนด์ ก็ได้รับการจดจำในหลาย ๆ ด้าน เช่น ประเทศทิวทัศน์งดงาม ถิ่นกำเนิดนกกีวี ประชากรมีชีวิตความเป็นอยู่ดี และเคยมีผู้นำหญิงเก่งอายุน้อย โดยจากนี้จะได้รับการจดจำเพิ่มอีก ในฐานะ “สวรรค์ของเหล่าอินฟลูเอนเซอร์”
รัฐบาลนิวซีแลนด์เริ่มอนุญาตให้กลุ่มชาวต่างชาติผู้ประกอบอาชีพด้านออนไลน์ที่เดินทางท่องเที่ยวไปเรื่อย ๆ และทำงานจากที่ไหนก็ได้ ซึ่งเรียกโดยรวมว่า Digital Nomad เช่น อินฟลูเอนเซอร์ อยู่ในประเทศได้ 90 วัน
นอกจากนี้ ยังสามารถต่ออายุวีซ่าเพิ่มเป็น 9 เดือน แต่ต้องจ่ายภาษีตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของ นิโคล่า วิลลิส รัฐมนตรีเศรษฐกิจ ที่เชื่อว่าจะดีต่อเศรษฐกิจของประเทศเพราะคงมีรายได้หลั่งไหลเข้ามา แต่ก็ไม่ได้แย่งงานคนในประเทศ
รัฐมนตรีหญิงวัย 43 ปี ยังกล่าวอีกว่า “นี่จะทำให้มีคนเก่ง ๆ ระดับหัวกะทิรายได้ดีหลั่งไหลมาทำงานและพักอาศัย ซึ่งยิ่งพวกเขาอยู่นานเท่าไรก็ยิ่งส่งผลดีต่อประเทศมากเท่านั้น โดยเป้าหมายหลัก ๆ อยู่ที่คนทำงานสายนี้จากสหรัฐฯ และกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออก อันได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวัน”
นโยบายดังกล่าวถือว่าเข้ากับยุคสมัย เพราะมีข้อมูลออกมาอย่างต่อเนื่องว่า อินฟลูอินเซอร์และงานสายออนไลน์ต่าง ๆ ที่ทำจากที่ไหนก็ได้ เป็นงานในฝันของคนรุ่นใหม่กลุ่ม Gen Z ที่รักอิสระและใช้เทคโนโลยีได้อย่างคล่องแคล่ว
รัฐบาลนิวซีแลนด์เชื่อว่า แนวทางนี้จะสามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งปี 2024 ซบเซา จนได้ชื่อว่าเป็นประเทศพัฒนาแล้วที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ (จีดีพี) หดตัวมากสุดในโลก จากผลกระทบของเงินเฟ้อ ค่าครองชีพ การว่างงานในกลุ่ม Gen Z จนกลุ่มนี้พากันไปต่างประเทศ เพื่อท่องเที่ยวและหางานแทบทันทีเรียนจบเมื่อปี 2024
นี่เป็นการสะท้อนปัญหาสมองไหล ทั้งที่ไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ โอ๊กแลนด์และเวลลิงตัน คือเมืองน่าไปอยู่ ไปทำงาน อันดับต้น ๆ ของโลกที่ใคร ๆ ก็อยากไป
ยังมีสองประเด็นที่ต้องตามต่อจากเรื่องนี้ โดยประเด็นแรกคือ จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากน้อยแค่ไหน ท่ามกลางการวิจารณ์ของพรรคฝ่ายค้านนิวซีแลนด์ว่า ไม่มีตัวเลขเป้าหมายชัดเจน
ส่วนประเด็นถัดมาคือ นี่เป็นนโยบายสวนทางกับบรรดาประเทศที่รายได้หลักมาจากการท่องเที่ยว โดยปี 2025 สเปน เดนมาร์ก สวีเดน อิตาลี ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น หรือแม้กระทั่งเนปาล ต่างก็กำลังเดินหน้าจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวและบริหารจัดการอุตสาหกรรมท่องเที่ยว หลังได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ และสังคม จากการรับนักท่องเที่ยวมากเกินไป (Overtourism)/theguardian
–