ลมหายใจใหม่ของโรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์

โรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ ถึงเวลาเปลี่ยนมือและกลับมามีชีวิตชีวาในทุก ๆ ด้านอีกครั้ง

ในวันนี้โรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ ได้เปลี่ยนมือสู่เจ้าของใหม่ ภายใต้บริษัท อิกไนท์ เวนเจอร์ จำกัด หลังจากเข้าซื้อธุรกิจต่อจาก บริษัท ตันตกิตติ์ จำกัด ผู้ถือสิทธิ์เดิม

การเข้ามาของ อิกไนท์ เวนเจอร์ ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ในการจัดตั้งบริษัทใหม่ เพื่อเข้าต่อลมหายใจให้โรงแรม มณเฑียร สุรวงศ์ กลับมามีชีวิตชีวาในทุก ๆ ด้านอีกครั้ง จากช่วงเวลาที่ผ่านมาโรงแรมมณเฑียรถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่องเพียง ข้าวมันไก่ ที่มีรสชาติประทับใจ

โดย บริษัท อิกไนท์ เวนเจอร์ จำกัด เป็นบริษัทที่ก่อตั้งใหม่ จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า 14 มีนาคม 2567 ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 20,000 บาท ก่อนเพิ่มทุนเป็น 200 ล้านบาทในปัจจุบัน

และบริษัท อิกไนท์ เวนเจอร์ จำกัด มีสำนักงานใหญ่ที่ 54 ถนนสุรวงศ์ แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร ที่อยู่เดียวกับบริษัท ตันตกิตติ์ จำกัด เจ้าของเดิม

ส่วนคณะกรรมการ ประกอบด้วย อัครพัชร์ คุ้มคณิศร์, พนล ลีลามานิตย์, ฐาภพ คลี่สุวรรณ, นิโคลัส ตัน ซี จุน และมณเฑียร ตันตกิตติ์ ซึ่ง มณเฑียรเป็นคณะกรรมการผู้เดียวที่ไม่มีอำนาจในการลงลายมือชื่อ อาจด้วยเหตุผลถือหุ้นส่วนน้อยใน อิกไนท์ เวนเจอร์

ส่วนพนล ลีลามานิตย์ อดีตเคยเป็นหนึ่งในคีย์แมน บริษัท ไรมอนแลนด์ จำกัด (มหาชน)

สำหรับการเปลี่ยนแปลงของโรงแรมมณเฑียร ภายใต้เจ้าของใหม่ นอกเหนือจากการซื้อโรงแรมในส่วนของโรงแรมที่มีห้องพักกว่า 500 ห้อง ยังประกอบด้วยสุรวงศ์เรสซิเดนซ์ที่มี 179 ห้อง และซื้อมณเฑียร ช้อปปิ้งมอลล์ รวมไปถึงพื้นที่จอดรถ พร้อมสิทธิการเช่าพื้นที่ 10 ไร่ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ที่โรงแรมและส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเช่าอยู่เป็นเวลา 25 ปี ด้วยมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 2,500 ล้านบาท

การยกระดับและปรับโฉมโรงแรมมณเฑียร ของบริษัท อิกไนท์ เวนเจอร์ ในครั้งนี้ยังมี บริษัท เจด พาร์ทเนอร์ส จำกัด บริษัทลงทุนในหลักทรัพย์นอกตลาด ที่มี พนล ลีลามานิตย์ เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท และบริษัท ออร่า กรุ๊ป บริษัทสัญชาติสิงคโปร์ให้บริการที่ปรึกษาองค์กรและผู้จัดการกองทุนทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เข้าร่วมสนับสนุน

พร้อมกับแต่งตั้ง Conduit House ผู้ประกอบการโรงแรมไทยที่มีประสบการณ์ เข้ามาบริหารโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อผสานมุมมองเชิงกลยุทธ์กับความเชี่ยวชาญภาคสนาม เสริมสร้างชื่อเสียงของมณเฑียรในฐานะแบรนด์บริการระดับโลก ที่สามารถยกระดับโรงแรมมณเฑียรให้กลายเป็นโรงแรม 4.5 ดาว ที่เป็นจุดหมายปลายทางด้านการบริการในภูมิภาคตามเป้าหมายที่วางไว้ในอนาคต

ซึ่ง Conduit House เป็นบริษัทที่เคยร่วมรีโนเวตครั้งใหญ่ของโรงแรมมณเฑียร ในปี 2562-2563 บนคอนเซ็ปต์ Revival of The Original

สำหรับที่ผ่านมาโรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ ถือเป็นธุรกิจที่มีความท้าทายจากการแข่งขันของธุรกิจโรงแรมต่าง ๆ ที่มีทั้งโรงแรมเชน และอื่น ๆ ที่เข้ามาเปิดให้บริการในทำเลย่านสุรวงศ์ดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการผ่านจุดเด่นและจุดขายในด้านต่าง ๆ ที่ดึงดูดลูกค้าในเซกเมนต์ใกล้เคียงกับโรงแรมมณเฑียร เช่น โรงแรม  Le Méridien Bangkok, โรงแรมอมรา กรุงเทพ และโรงแรมเดอะ ควอเตอร์ สีลม บาย ยูเอชจี เป็นต้น

และการแข่งขันที่สูงทำให้โรงแรมมณเฑียรมีผลประกอบการที่ยังคงขาดทุนต่อเนื่องทุกปี แม้จะมีการรีโนเวตครั้งใหญ่ในปี 2562 และเปิดใหม่ในปี 2563 เพื่อผสมผสานประวัติศาสตร์อันเก่าแก่กับการตกแต่งภายในและเทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ทั้งในเมืองไทยและจากต่างประเทศมาแล้วก็ตาม

อ้างอิงผลประกอบการจาก บริษัท ตันตกิตติ์ จำกัด จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า

ปี 2562 รายได้รวม 281.86 ล้านบาท ขาดทุน 474.41 ล้านบาท          

ปี 2563 รายได้รวม 133.54 ล้านบาท ขาดทุน 345.11 ล้านบาท          

ต่อมาปี 2564 รายได้รวม 208.82 ล้านบาท ขาดทุน 182.08 ล้านบาท

ส่วนปี 2565 รายได้รวม 372.36 ล้านบาท ขาดทุน 649.45 ล้านบาท          

และปี 2566 รายได้รวม 458.24 ล้านบาท ขาดทุน 493.40 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี สำหรับ โรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ เป็นโรงแรมที่เปิดให้บริการครั้งแรกในปี 2510 ในยุคแรกของธุรกิจขึ้นชื่อว่าเป็นโรงแรมที่โดดเด่นในย่านสีลม-สุรวงศ์ ทั้งสถาปัตยกรรมทรงเลขาคณิตที่เป็นเอกลักษณ์ ภายในตกแต่งด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังของศิลปินไพบูลย์ สุวรรณกูฏ ซึ่งเป็นศิษย์เอกของศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี

ที่มีความเพียบพร้อมในการให้บริการทั้งที่พัก อาหาร และศูนย์รวมความบันเทิงที่มีทั้งโรงละครมณเฑียรทอง ที่มีการแสดงละครเวที คอนเสิร์ตต่าง ๆ จนกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักเดินทาง ดารา นักการเมือง และราชวงศ์

และเมื่อวันเวลาผ่านไป การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่เริ่มมองหาโรงแรมที่ให้ประสบการณ์เฉพาะตัวมากขึ้น บนการแข่งขันในธุรกิจโรงแรมที่มีตัวเลือกจากคู่แข่งทั้งไทยและเทศทำให้โรงแรมมณเฑียรได้เจอความท้าทายใหม่ ๆ จากการปรับตัว การแข่งขัน และอื่น ๆ จนกลายเป็นที่มาของการเปลี่ยนมือเจ้าของในครั้งนี้ เพื่อต่อลมหายใจให้กับ มณเฑียร อีกครั้ง

–

---