เซ็น กรุ๊ป ลุยปรับใหญ่ รีเฟรชแบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่นในพอร์ต ตลอดครึ่งปีหลัง มุ่งดึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ สลัดภาพแบรนด์อยู่มานาน ชิงส่วนแบ่งตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นในไทย 25,000 ล้านบาท

คุณจอมขวัญ จิราธิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจร้านอาหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ Zen Group กล่าวว่า ภาพรวมตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นในไทย ปี 2025 ประเมินอยู่ที่ราว 25,000 ล้านบาท แม้จะอยู่ในภาวะทรงตัว แต่บริษัทยังคงเชื่อมั่นในศักยภาพของตลาด ประกอบกับจุดแข็งสำคัญของเซ็น กรุ๊ป คือความเชี่ยวชาญด้านอาหารญี่ปุ่นที่สั่งสมมานานกว่า 30 ปี และระบบซัพพลายเชนที่แข็งแกร่ง
| Zen Group ปรับใหญ่ แบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่น
มุ่งดึงคนรุ่นใหม่ ชิงตลาด 25,000 ล้าน |
||||||
| แบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่นของเซ็น กรุ๊ป | ZEN Restaurant | AKA | On the Table | Cyu Roll & Sushi Bar และ Cyu Carnival Shabu & Yakiniku | Din’s | Tetsu |
| ประเภท | ร้านอาหารญี่ปุ่นพรีเมียมแมส | ร้านปิ้งย่างและชาบูแบบบุฟเฟ่ต์ | ร้านสไตล์โตเกียว คาเฟ่ | ร้านซูชิ และ ร้านยากินิกุ & ชาบู ในรูปแบบรับประทานเดี่ยว | ร้านเสี่ยวหลงเปาและอาหารสไตล์จีนดั้งเดิมผสานญี่ปุ่น | ร้านปิ้งย่าง พรีเมียมแมส |
| ปี ค.ศ. ที่เริ่มทำตลาดในไทย | 1991 | 2007 | 2010 | 2014 | 2019 | 2014 |
| จำนวนสาขาในไทย | 50 | 46 | 36 | 3 | 1 | 1 |
| ที่มา: บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน), มิถุนายน 2025 | ||||||
พอร์ตร้านอาหารญี่ปุ่นของบริษัท คิดเป็นสัดส่วน 60% ของรายได้ทั้งหมด ปัจจุบันมี 6 แบรนด์ ดังนี้ เซ็น เรสเตอร์รอง (ZEN Restaurant), อากะ ยากินิกุ – อากะ ชาบู (AKA), ดินส์ (Din’s), ออน เดอะ เทเบิ้ล (On the Table), เท็ตสึ (Tetsu), ซูชิ ชู คาร์นิวัล ยากินิกุ (Sushi Cyu & Carnival Yakiniku)

ครึ่งหลังปี 2025 บริษัทวางแผนงานรีเฟรชหลายแบรนด์ในกลุ่ม เริ่มจาก ‘ซูชิ ชู’ ที่มีอยู่ 1 สาขา ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ปรับเป็น ‘ชู โรล & ซูชิ บาร์ (Cyu Roll & Sushi Bar)’ ร้านซูชิพรีเมียมในรูปแบบโอมากาเสะ แฮนด์โรล เริ่มต้น 590 บาท 4 คอร์ส เจาะคนเมืองที่มองหาความรวดเร็ว คุณภาพ และเข้าถึงง่าย ซึ่งเปิดให้บริการแล้ว และยังมีแผนขยายสาขาแบบเจาะจงและรอบคอบ วางไม่เกิน 5 สาขาทั่วประเทศภายในปีนี้ เพื่อคงความพิเศษของแบรนด์ไว้ในระยะยาว
อีก 2 สาขาอย่าง ‘ซูชิ ชู คาร์นิวัล ยากินิกุ’ ที่ไลฟ์สไตล์มอลล์ เอท ทองหล่อ และ ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ เตรียมปรับเป็น ‘ชู คาร์นิวัล ชาบู & ยากินิกุ (Cyu Carnival Shabu & Yakiniku)’ ในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้
ชู คาร์นิวัล ชาบู & ยากินิกุ ทั้ง 2 สาขา วางตำแหน่งเป็นร้านชาบูและยากินิกุแบบเดี่ยว เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ทันสมัย ชื่นชอบการรับประทานอาหารในบรรยากาศเป็นส่วนตัว
ด้าน ‘ออน เดอะ เทเบิ้ล’ บริษัทจะปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้มีความโมเดิร์นและเชื่อมโยงกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่มากขึ้น พร้อมด้วยเมนูใหม่ และการตกแต่งร้านในบรรยากาศใหม่ โดยจะเปิดตัวร้านโฉมใหม่สาขาแรก ที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ในช่วงเดือนสิงหาคมนี้
จากนั้นจะทยอยปรับในสาขาอื่น ๆ ทั่วประเทศไปเรื่อย ๆ ซึ่งปลายปีนี้ น่าจะได้เห็นสาขาออน เดอะ เทเบิ้ล โฉมใหม่ประมาณ 2-3 สาขา
ส่วนแบรนด์หลักของบริษัทอย่าง ‘เซ็น เรสเตอร์รอง’ แบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่นแบรนด์แรก ๆ ในไทยที่เปิดให้บริการในศูนย์การค้า วางตำแหน่งในกลุ่มพรีเมียมแมส
เซ็น เรสเตอร์รอง เริ่มต้นด้วยโมเดลอะลาคาร์ท ต่อมาในช่วงหลังการระบาดของโควิด-19 พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยน ให้ความสำคัญกับ ‘ความคุ้มค่า’ มากขึ้น บริษัทจึงพัฒนาโมเดลใหม่ให้หลากหลาย
ปัจจุบัน เซ็น เรสเตอร์รอง จึงมีทั้งหมด 3 รูปแบบ คืออะลาคาร์ท, บุฟเฟ่ต์, ไฮบริด (มีทั้งอะลาคาร์ทและบุฟเฟ่ต์ในร้านเดียว)
ในเดือนกันยายนนี้ บริษัทเตรียมเปิดตัว ร้านเซ็นสาขาที่ปรับเป็นแฟลกชิปสโตร์แห่งแรก (ยังไม่เปิดเผยสาขา)
ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของการยกระดับแบรนด์ ทั้งเรื่องวัตถุดิบ การบริการ และบรรยากาศร้าน โดยใช้เมนูที่ถ่ายทอดเทคนิคการปรุงอย่างละเมียดละไม พร้อมโชว์ครัวแบบ Sensei ให้ลูกค้าได้สัมผัสความพิถีพิถันจากเชฟมืออาชีพในทุกขั้นตอน
ภายในสิ้นปีนี้ น่าจะได้เห็นการปรับร้านเซ็นเป็นแฟลกชิปสโตร์อีก 2 – 3 สาขา และในระยะยาวมีแผนปรับโฉมในสาขาหลักอื่น ๆ ที่มีศักยภาพต่อเนื่อง
ขณะที่ ‘อากะ ยากินิกุ – อากะ ชาบู’ หลังรีเฟรชแบรนด์ครั้งใหญ่ไปเมื่อปี 2024 บริษัทยังคงเดินหน้าสานต่อจุดแข็งในฐานะแบรนด์บุฟเฟต์ที่เน้นความคุ้มค่า โดยมีการเพิ่มความพิเศษในบางสาขา เช่น โปรโมชั่นสำหรับช่วงวันธรรมดา หรือช่วงเวลานอกพีคไทม์ เพื่อกระตุ้นการเข้าร้านในช่วงที่มีลูกค้าน้อย
คุณศิรุวัฒน์ ชัชวาลย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด เซ็น กรุ๊ป กล่าวว่า เป้าหมายสำคัญของบริษัท คือการขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ให้มากขึ้น เพราะเล็งเห็นว่าเป็นฐานผู้บริโภคสำคัญของตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นในปัจจุบัน ทั้งในแง่จำนวนและกำลังซื้อ
โดยเฉพาะกลุ่มวัยเริ่มทำงานที่มีพฤติกรรมการใช้จ่ายในร้านอาหารญี่ปุ่นเฉลี่ยอยู่ที่ 300 – 600 บาทต่อครั้ง ซึ่งสะท้อนถึงความเต็มใจในการจ่ายเพื่อประสบการณ์ที่ดี
ผู้บริโภครุ่นใหม่ยังให้ความสำคัญกับ ‘คุณค่า’ ที่ได้รับ ไม่ใช่เพียงแค่รสชาติของอาหาร แต่ยังรวมถึงบรรยากาศ การตกแต่งร้าน และไลฟ์สไตล์ที่แบรนด์ถ่ายทอด
เซ็น กรุ๊ป จึงมองเห็นโอกาสในการพัฒนาแบรนด์และร้านอาหารรูปแบบใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ทั้ง ‘การกิน’ และ ‘การใช้ชีวิต’ ไปพร้อมกัน ผ่านเมนู การบริการ และภาพลักษณ์ที่สะท้อนตัวตนของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง
คุณจอมขวัญ จิราธิวัฒน์ กล่าวปิดท้าย ภาพรวมการดำเนินงานของบริษัท ยังมองหาโอกาสใหม่ ๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการออกโปรโมชั่นที่ตอบโจทย์พฤติกรรมการบริโภคของผู้บริโภคในปัจจุบัน การพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ เช่น การขยายสู่รูปแบบเฟรนไชส์ หรือการต่อยอดแบรนด์ผ่านสินค้าอาหารพร้อมรับประทาน เพื่อวางจำหน่ายในช่องทางค้าปลีก
บริษัทเชื่อว่าความหลากหลายของกลยุทธ์ที่ยืดหยุ่น บวกกับคุณภาพที่สม่ำเสมอ จะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ เซ็น กรุ๊ป สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง แม้ในสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอน
ทั้งรักษาความแข็งแกร่ง และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอุตสาหกรรมร้านอาหาร ผลักดันให้เซ็น กรุ๊ป บรรลุเป้าหมายการเติบโตในอนาคต เฉลี่ย 10% ต่อเนื่องในทุก ๆ ปี
