ในช่วงที่ผ่านมา บ่อยครั้งที่ได้เห็นแบรนด์ร้านอาหารต่างๆ นำกล่องสุ่ม หรือของสะสมในรูปแบบต่างๆ เช่น ฟิกเกอร์, พวงกุญแจ มาเป็นหนึ่งในแคมเปญการตลาดดึงดูดกลุ่มลูกค้าเข้ามาใช้บริการ
อย่างเช่นล่าสุด KFC นำกล่องสุ่ม Baby Sanders Collection 6 แบบมาลงเล่นตลาดในโอกาสฉลองวันเกิดผู้พันแซนเดอร์ เพื่อให้แฟนๆ แลกซื้อในราคา 79 บาท เมื่อซื้อ KFC ชุดที่กำหนด ตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม – 24 กันยายน 2568

Bar B Q Plaza นำชุดสะสม Friends of GON Collection Vol.2 มาแจกฟรีให้กับลูกค้าเมื่อสั่งชุดอาหารที่กำหนด ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน – 10 ตุลาคม 2568 เพื่อฉลองวันเกิดของแบรนด์
การที่แบรนด์ร้านอาหารต่างๆ นำกล่องสุ่ม และของสะสมมาใช้เป็นไอเดียการตลาดดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย เป็นหนึ่งในการใช้กลยุทธ์การตลาดที่เรียกว่า Collectible Marketing ที่สามารถตอบโจทย์การตลาดในหลากมิติ ได้แก่
1.ตอกย้ำแบรนด์พร้อมสร้างความผูกพันมากกว่าโต๊ะอาหาร จากการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน ให้ลูกค้าได้เห็นและจดจำอยู่เสมอ เช่น การตั้งโชว์ฟิกเกอร์ของแบรนด์ในสถานที่, การพกของสะสมประเภทพวงกุญแจติดตัวไปด้วยอยู่เสมอ เป็นต้น
2.กระตุ้นยอดขาย จากเงื่อนไขที่ระบุให้ลูกค้าต้องซื้อชุดอาหารตามที่กำหนด ถึงจะได้รับสิทธิ์ซื้อหรือได้รับกล่องสุ่ม, ฟิกเกอร์สะสมที่ได้ระบุไว้ และกลยุทธ์นี้ยังกระตุ้นให้ลูกค้าบางกลุ่มกลับมาใช้บริการในความถี่ที่เพิ่มขึ้น เพื่อสะสมให้ครบ Collection

3.สร้างกระแสพูดถึงแบรนด์บนโลกโซเชียล เนื่องจากของสะสมส่วนใหญ่ถูกออกแบบให้มีความน่ารัก และน่าสะสม ที่กระตุ้นให้ลูกค้าเข้ามาเป็นเจ้าของ พร้อมกับถ่ายภาพและโพสต์เพื่อแสดงตัวตน ความชอบ และบอกต่อประสบการณ์ที่มีให้เพื่อนๆ ได้เห็นบนโลกโซเชียลมีเดีย จนเกิดกระแสการพูดถึงในวงกว้าง
4.สร้างความสดใหม่ให้กับแบรนด์ จากการเป็นของสะสมที่เข้าถึงไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ และยังทำให้บางแบรนด์ขยายไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ได้อีกทางหนึ่ง
นอกจากนี้ การออกของสะสมยังเปิดพื้นที่ให้แบรนด์ได้ทดลองดีไซน์ใหม่ๆ ที่ไม่จำกัดอยู่แค่สินค้าอาหาร เช่น ฟิกเกอร์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของคาแรกเตอร์ประจำแบรนด์ หรือของสะสมลิมิเต็ดที่ผูกโยงกับกระแสป๊อปคัลเจอร์ สิ่งเหล่านี้ช่วยให้แบรนด์ดูทันสมัย สดใหม่ และใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ดี Collectible Marketing ไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ เพราะที่ผ่านมา McDonald’s นำกลยุทธ์นี้มาใช้กับชุด Happy Meal มาอย่างยาวนาน แต่ในวันนี้ได้ถูกแบรนด์ต่างๆ นำมาใช้เป็นไอเดียการตลาด สร้างสีสันและยอดขายให้กับแบรนด์เพิ่มขึ้น และได้ใจลูกค้าไปเต็มๆ
ส่วนข้อควรระวังสำหรับ Collectible Marketing คือการคาดคะเนความต้องการในของสะสมที่มากหรือน้อยจนเกินไป จนทำให้แบรนด์พลาดโอกาสจากการขายที่เกิดขึ้น จากของสะสมได้รับความนิยมจนหมดเร็วกว่าช่วงเวลาที่กำหนดของแคมเปญ หรือผลิตมากจนเกินความต้องการของตลาด ซึ่งจะกลายเป็นต้นทุนทางธุรกิจได้
