SMEG แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าดีไซน์เฉพาะตัวที่เกิดจากครอบครัวช่างตีเหล็ก

ถ้าพูดถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีดีไซน์เฉพาะตัว ชื่อ SMEG คงเป็นชื่อที่ใครหลายคนนึกถึงเป็นชื่อแรกๆ ในฐานะเครื่องใช้ไฟฟ้าหรูที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

โดยมีต้นกำเนิดจาก Vittorio Bertazzoni หนึ่งในครอบครัวช่างตีเหล็กจากหมู่บ้าน Guastalla เมือง Emilia ในประเทศ Italy ที่แตกยอดจากธุรกิจเดิมที่มีอยู่สู่ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะมองเห็นโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจในปี ค.ศ. 1948

Vittorio Bertazzoni ตั้งชื่อแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าของตัวเองว่าSMEG ซึ่งมีที่มาจากอักษรตัวแรกของคำว่า Smalterie Metallurgiche Emiliane Guastalla (โรงงานเคลือบโลหะแห่งเมือง Guastalla) พร้อมออกสินค้าตัวแรกคือ Cooker เตาแก๊สที่มีด้านล่างเป็นเตาอบ

ในยุคเริ่มต้นของSMEGเป็นเพียงแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีดีไซน์ทั่วไป ที่ประสบความสำเร็จจากเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนในรูปแบบบิวต์อินเข้ากับครัว

จนกระทั่งในปี 1985 ถือเป็นจุดเปลี่ยนของSMEGในการพาตัวเองสู่เครื่องใช้ไฟฟ้าเน้นดีไซน์ จากที่ Vittorio Bertazzoni มองเห็นโอกาสของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีดีไซน์หรูหรา และได้ร่วมมือกับสถาปนิก Guido Canali ออกแบบเตาอบที่มีดีไซน์โดดเด่น สง่างาม เข้ากับยุคสมัย เพื่อสร้างความแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ และขยายฐานลูกค้าที่เน้นสินค้าที่มีคุณภาพควบคู่ดีไซน์มากขึ้น

 

ส่วนดีไซน์ที่เป็น Iconic จนถึงวันนี้ ได้เริ่มต้นจากปี 1997 เมื่อSMEGเปิดตัวตู้เย็นรุ่น FEB ดีไซน์ใหม่ เน้นความโค้งมน ให้กลิ่นอายสไตล์ยุค 50’s Retro และมีสีสันสดใส เข้ามาสร้างความแตกต่างให้กับตลาดตู้เย็นที่แบรนด์ต่างๆ เน้นดีไซน์เหลี่ยม และใช้สีเรียบๆ อย่างขาว ดำ เป็นหลัก

จากความสำเร็จได้ถูกสานต่อในรุ่นลูก Vittorio Bertazzoni Jr. ที่เข้ามาสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับแบรนด์ผ่านการขยายไลน์สินค้าไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก จากเดิมที่มีเพียงเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่เท่านั้น

โดยเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กเน้นดีไซน์เข้าชุดกับเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ของแบรนด์ที่มีอยู่ ออกทำตลาดครั้งแรกในปี 2014 เพื่อสร้างความต้องการให้กับลูกค้าซื้อสินค้าเพื่อใช้งานและเป็นของประดับบ้านที่เข้ากันทั้งหมด

รวมถึงขยายไลน์สินค้าไปยังเครื่องครัว เช่น หม้อและมีด ซิงก์ล้างจาน เพื่อให้ครอบคลุมในครัวเรือนของลูกค้ามากที่สุด

ตลอดจนเน้นการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์SMEGว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีสไตล์ ทันสมัย เรียบหรู และมีเสน่ห์แบบอิตาเลียน ผ่านแนวคิด Technology with Style สื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายที่นิยมสินค้ามีดีไซน์และฟังก์ชัน ที่สามารถนำมาเป็นของตกแต่งบ้านเพื่อแสดงภาพลักษณ์ของรสนิยมเฉพาะตัว

พร้อมกับเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ผ่านการ Collab กับแบรนด์ต่างๆ เช่น จับมือร่วมกับ Dolce&Gabbana แบรนด์แฟชั่นหรูจาก Italy ออกคอลเลกชัน Sicilia is My Love และ Blu Mediterraneo เป็นต้น

 

แม้จะประสบความสำเร็จกับการเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีดีไซน์และฟังก์ชันที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ในช่วงที่ผ่านมาSMEGประสบกับความท้าทายของรายได้ที่ลดลง

ข้อมูลจากรายงานล่าสุดของSMEGพบว่า

 

ปี 2021 มีรายได้จากการขายสินค้าทั้งสิ้น 906.59 ล้านยูโร (ประมาณ 33,953 ล้านบาท)

ปี 2022 มีรายได้จากการขายสินค้าทั้งสิ้น 930.57 ล้านยูโร (ประมาณ 34,851 ล้านบาท)

สำหรับปี 2023 มีรายได้จากการขายสินค้าทั้งสิ้น 857.31 ล้านยูโร (ประมาณ 32,107 ล้านบาท)

ส่วนปี 2024 ยังไม่มีรายงาน

 

อย่างไรก็ดี ถึงจะเผชิญแรงกดดันด้านตัวเลขรายได้ แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือภาพจำของแบรนด์ที่ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นมากกว่าแค่ของใช้ในบ้าน เพราะSMEGไม่ได้ขายเพียงฟังก์ชัน แต่ขายรสนิยม ความสวยงาม และความเป็นอิตาเลียนที่แฝงอยู่ในทุกดีไซน์

จากครอบครัวช่างตีเหล็กเล็กๆ ใน Guastalla สู่การเป็นชื่อที่ถูกพูดถึงทั่วโลก SMEG จึงไม่ใช่เพียงผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่คือสัญลักษณ์ของ Technology with Style ที่พิสูจน์ให้เห็นว่า “ดีไซน์สามารถกลายเป็นพลังในการขับเคลื่อนธุรกิจและสร้างความต่างที่ยืนยาวเหนือกาลเวลา”

 

 

อ้างอิง

https://www.smeg.com

https://www.smeg.co.th

https://en.wikipedia.org

https://www.facebook.com

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer