ป๊อปมาร์ท เผยไทยเป็นตลาดต่างประเทศใหญ่อันดับสองของโลก ด้วยส่วนแบ่งรายได้ 10% ชี้ตลาดยังคงขยายตัวจากกำลังซื้อที่สูง ไม่ผูกติดกับเหตุผลทางเศรษฐกิจ แม้มีช่วงซบจากปัญหาการจัดการซัพพลาย โดยเตรียมลุยเปิดสาขาเพิ่มในหัวเมืองท่องเที่ยวหลัก พร้อมเดินหน้าจัดงานป๊อปแลนด์ที่ใหญ่ที่สุดนอกจีน ณ ใจกลางสยาม

คุณศิริพร แผลงจันทึก Country General Manager บริษัท ป๊อป มาร์ท (ประเทศไทย) กล่าวว่า ไทยคือตลาดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นอันดับสองของโลกในตลาดต่างประเทศ รองจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีส่วนแบ่งรายได้ประมาณ 50% ส่วนไทยประมาณ 10%

ตลาดป๊อปมาร์ทในไทยยังคงมีการเติบโต แม้จะมีช่วงที่สินค้าอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการอยู่บ้าง โดยฐานลูกค้าในไทย มีการขยายตัวอย่างมากในด้านช่วงอายุ นับตั้งแต่ปีแรก ๆ ที่อยู่ในช่วง 20-30 ปี ปัจจุบันครอบคลุมทุกช่วงวัย 

ทั้งยังมีกลุ่มลูกค้าที่ถูกมองว่าเป็นนักสะสม การตัดสินใจซื้อไม่ได้ผูกติดกับเหตุผลทางเศรษฐกิจมหภาค แต่ขึ้นอยู่กับอารมณ์และความสุข ลูกค้ามีพฤติกรรมที่แสดงถึงความทุ่มเทในการตามหาสินค้าที่ขาดไปเพื่อให้ครบคอลเลกชัน

ขณะที่การแข่งขันของตลาดอาร์ตทอยในไทย บริษัทวางตำแหน่งตัวเองชัดเจนในฐานะผู้เล่นในอุตสาหกรรมบันเทิงและศิลปะ จากการเป็นแบรนด์อาร์ตทอยเจ้าของคาแรกเตอร์ หรือ IP ที่มีอยู่ในมือหลากหลาย บริษัทไม่ได้มองตัวเองอยู่ในเซกเมนต์ของธุรกิจค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ 

คาแรกเตอร์ หรือ IP ของบริษัทที่ได้รับความนิยมสูงในตลาดประเทศไทย แบบไม่เรียงลำดับ จะมี Labubu, Cry Baby, Hirono, SKULLPANDA, Molly   

บริษัทโฟกัสการทำงานร่วมกับศิลปินเพื่อสร้างสรรค์คอลเลกชั่นใหม่ ๆ จาก IP ที่มี ทั้งจัดงานแสดงพิเศษ และมีขอบเขตการสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าที่ใหญ่กว่าการเป็นร้านค้าปลีก ซึ่งในอนาคตมีความเป็นไปได้ที่จะขยายตัวไปสู่รูปแบบอื่น ๆ เช่น ธีมพาร์ค, เกม, แอนิเมชัน 

ปัจจุบัน บริษัทมีสาขาและป๊อปอัพรวม 13 แห่งในไทย หลังจากนี้มีแผนขยายไปยังหัวเมืองท่องเที่ยวอื่น ๆ นอกเหนือจากพัทยาและเชียงใหม่ โดยขึ้นอยู่กับการพิจารณาร่วมกันกับพันธมิตรและการตอบรับของลูกค้า

ซึ่งในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวปลายปี บริษัทประกาศจัดงาน “Popland Exclusive Festive Event in Thailand” ซึ่งถือเป็นงานป๊อปแลนด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่จัดขึ้นนอกประเทศจีน ตอบโจทย์นักสะสมและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

การจัดงานป๊อปแลนด์ครั้งนี้ บริษัทได้ร่วมมือกับพันธมิตรหลัก ได้แก่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), สยามพารากอน, สยามเซ็นเตอร์ งานมีระหว่างวันที่ 11 พ.ย. 2025 – 11 ม.ค. 2026 โดยร่วมกันสร้างสรรค์พื้นที่รวมกว่า 1,000 ตารางเมตร ครอบคลุมตั้งแต่ลานพารากอนไปจนถึงสยามเซ็นเตอร์ 

ความพิเศษของป๊อปแลนด์ครั้งนี้ คือการเปิดตัว “โมโกโกะ” (Mokoko) ในไทย ซึ่งเป็นคาแรกเตอร์เกิดใหม่ในตระกูล The Monsters เป็นหนึ่งในเพื่อนคนสนิทของลาบูบู้ ที่จะปรากฏตัวเฉพาะในป๊อปแลนด์เท่านั้น 

โมโกโกะมีลักษณะเด่นคือใบหน้ากลม ดวงตาโต และจมูกรูปหัวใจสีแดง ซึ่งสื่อถึงความสุข ความสนุก และการมองโลกในแง่ดี

นอกจากนั้น ไฮไลต์สำคัญอื่น ๆ ในงานป๊อปแลนด์ ประกอบด้วย ปราสาทและต้นคริสต์มาสที่ตกแต่งด้วยคาแรกเตอร์ดังของป๊อปมาร์ท และมีน้องโมโกโกะสูง 5 เมตร ตั้งเด่นอยู่ด้านหน้าพื้นที่จัดงาน ร้านไอศกรีมที่จำหน่ายไอศกรีมในรูปแบบกล่องสุ่ม ตลอดจนสินค้าที่ระลึกกว่า 50 รายการที่วางจำหน่ายเฉพาะในงานเท่านั้น

เนื่องจากพื้นที่การจัดงานที่จำกัด บริษัทจึงจะใช้ระบบลงทะเบียนออนไลน์ล่วงหน้า (ไม่เสียค่าใช้จ่าย) เพื่อจัดการการเข้าชมและซื้อสินค้าเป็นรอบ ๆ จำนวนประมาณ 30-40 คนต่อรอบ (รอบละ 30 นาที) เพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการอย่างเรียบร้อยและมีพื้นที่สำหรับการถ่ายรูป ทำกิจกรรม และซื้อสินค้า

บริษัทวางเป้าผู้เข้าชมงานป๊อปแลนด์ไม่ต่ำกว่า 1,000 คนต่อวัน ส่วนเป้ายอดขาย บริษัทยังไม่ประเมินไว้สูง เนื่องจากยังมองถึงการจัดการซัพพลายของสินค้าว่าจะสามารถหาได้เพียงพอต่อความต้องการของผู้เข้าชมแค่ไหน  

นอกจากนั้น บริษัทยังร่วมมือกับสภากาชาดไทย เพื่อระดมทุนสร้างอาคารรับบริจาคโลหิตที่จังหวัดลพบุรี โดยในวันเปิดงานป๊อปแลนด์ ผู้ที่สแกนคิวอาร์โค้ด บริจาคเงินให้กับสภากาชาดไทย ตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป (สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้) จะได้รับกล่องสุ่มฟรี 1 กล่องเป็นของที่ระลึก


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer