เพราะความที่ชิปทวีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ จากการเป็นเชื่อมโยงการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์และระบบในตัวรถ ข่าวสารความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่เกี่ยวกับชิ้นส่วนขนาดเล็กแต่มีเป็นจำนวนมากนี้จึงถูกจับตามอง
หลักฐานยืนยันถึงเรื่องนี้คือ ปัญหาชิปขาดแคลนในช่วงสถานการณ์โควิด และการใช้ชิปเป็นอาวุธในสงครามการค้าระหว่างประเทศมหาอำนาจ ต่างก็กระทบต่อกับการผลิตรถยนต์
ล่าสุดปัญหาชิปขาดแคลนมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นอีก จน “เบอร์ใหญ่” ของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งฝั่งยุโรปและเอเชียต่างก็ออกมาแสดงความกังวล

อาร์โน่ แอนต์ลิตซ์ หัวเรือใหญ่ฝ่ายการเงินของ Volkswagen บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของยุโรป สัญชาติเยอรมัน ที่มีแบรนด์รถในเครือมากมายกล่าวว่า แม้กรณีที่รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ใช้กฎหมายความมั่นคงเข้าควบคุมกิจการ Nexperia บริษัทผู้ผลิตชิปในประเทศแต่มีบริษัทจีนเป็นเจ้าของนั้น ยังไม่ส่งผลใดๆ ในขณะนี้
แต่ก็กำลังจับตามองอย่างใกล้ชิด ทว่าหากแก้ไขด้วยการเจรจาไม่ได้ที่สุดก็ย่อมส่งผลต่อสายพานการผลิต

ถ้อยแถลงดังกล่าวสะท้อนถึงความกังวลของ Volkswagen ต่อกรณีของ Nexperia เพราะหากยังไม่ได้แก้ไขย่อมส่งผลต่อ Volkswagen ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และคงเป็นสิ่งที่ Volkswagen เองไม่อยากให้เกิด
เนื่องจากล่าสุดเพิ่งประกาศว่า ขาดทุน 1,300 ล้านยูโร (ประมาณ 48,600 ล้านบาท) ท่ามกลางตัวเลขกำไรที่ดีขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และเป็นที่รู้กันว่าปัจจุบัน Volkswagen ก็ยังไม่พ้นวิกฤต โดยเมื่อไม่นานมานี้เพิ่งมีการประกาศปลดพนักงานนับแสนคน
ซึ่งในภาพใหญ่ยังเป็นการย้ำความกังวลของสมาคมผู้ผลิตยานยนต์ยุโรป (เอซีอีเอ) ถึงการขาดแคลนชิปในสายพานการผลิตจากกรณีของ Nexperia
ข้ามมาอีกซีกโลกหนึ่ง ญี่ปุ่น ก็กังวลกับกรณีของ Nexperia เช่นกัน โดย มาซาโนริ คาตายามะ ประธานสมาคมผู้ผลิตยานยนต์ญี่ปุ่น (เจเอเอ็มเอ) กล่าวว่า ตระหนักดีถึงผลกระทบที่จะตามมาหากเรื่องนี้บานปลายสู่วิกฤต
เขายังกล่าวด้วยในปัจจุบันยังไม่มีซัพพลายเออร์รายใดสามารถรับประกันได้ว่า หากสถานการณ์บานปลายจะหาชิปจากแหล่งอื่นได้และช่วยให้การจัดส่งชิปไม่สะดุด
ด้าน Honda หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่นยอมรับว่าหากสถานการณ์บานปลายบริษัทก็ย่อมจะได้รับผลกระทบ
สำหรับ Nexperia เคยเป็นบริษัทชิปในเครือ Philips มาก่อน แต่ Philips ขายให้ Wingtech ของจีนเมื่อ 2018 โดยแม้ไม่เป็นที่รู้จักนอกแวดวงอุตสาหกรรมชิป แต่ปี 2022 เริ่มถูกจับตามองหลังเปิดดีลซื้อกิจการ Newport Wafer Fab บริษัทผู้ผลิตใหญ่สุดในกลุ่มประเทศสหราชอาณาจักร
ทว่าจากความกังวลของรัฐบาลอังกฤษว่าเทคโนโลยีชิปของ Nexperia อาจตกไปถึงรัฐบาลจีน นำมาสู่การกดดัน Wingtech จนที่สุดต้องล้มเลิกดีลนี้ไป
จากนั้นก็มีการเปิดเผยออกมาอีกว่า Nexperia คือบริษัทสำคัญต่อสายการผลิตรถยนต์ ทั้งที่มีผลิตภัณฑ์กว่า 6,000 รายการที่ผ่านการรับรองสำหรับใช้ในรถยนต์ และมียอดจัดส่งผลิตภัณฑ์สูงถึง 110,000 ล้านชิ้นต่อปี บริษัทมีพนักงาน 12,500 คนทั่วยุโรป เอเชีย และสหรัฐฯ
นอกจากนี้ Nexperia ยังครองสัดส่วนสูงถึง 40% ในกลุ่มชิปยานยนต์ประเภททรานซิสเตอร์และไดโอด อีกด้วย พอมาปี 2025 Nexperia ก็ปรากฏในสื่ออีกครั้งหลังถูกรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ใช้กฎหมายความมั่นคงเข้าควบคุมกิจการ และไล่ผู้บริหารชาวจีนออก
นี่ทำให้แม้ Nexperia ยังดำเนินกิจการต่อไปได้แต่การตัดสินใจสำคัญๆ ต้องผ่านการรับรองจากรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ ท่ามกลางการวิเคราะห์ว่า นี่คือแผนล้อมกรอบทางเทคโนโลยี ที่เนเธอร์แลนด์ ร่วมมือสหรัฐฯ จนสร้างความไม่พอใจให้รัฐบาลจีน
กรณีของ Nexperia ยังมีอีกประเด็นน่าสนใจ โดยเป็นการย้ำถึงความสำคัญของเนเธอร์แลนด์ในอุตสาหกรรมชิป โดยนอกจาก Nexperia แล้ว ยังมีบริษัทเนเธอร์แลนด์อีกแห่งที่เป็นเบอร์ใหญ่ในวงการนั่นคือ ASML
ASML คือบริษัทผู้ผลิตเครื่องผลิตชิปรายใหญ่ คิดเป็น 60% ของตลาดโลกและเป็นบริษัทผู้คิดค้นเป็นเจ้าของเทคโนโลยีขั้นสูงด้วยการใช้แสงยูวีในการผลิตชิปอีกด้วย
ต่อมาในปี 2022 รัฐบาลสหรัฐฯ ก็ได้สั่งห้าม ASML ผ่านมาทางรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ ไม่ให้ขายเทคโนโลยีดังกล่าวและให้จีน ตามแผนล้อมกรอบทางเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมชิปซึ่งล่าสุดถูกนำมาใช้กับกรณีของ Nexperia ตามที่ได้กล่าวไปแล้ว / theguardian, japantoday
