กัปตัน โค๊ทติ้ง พลิกโฉมแบรนด์ครั้งใหญ่ในรอบ 50 ปี ชูมาตรฐานสี ย้ำพันธกิจ เรื่องสี…คุณภาพต้องมาก่อน
ในวาระครบรอบ 50 ปีของการดำเนินธุรกิจ บริษัท กัปตัน โค๊ทติ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสีและเคมีก่อสร้างภายใต้แบรนด์ “กัปตัน” และอีกหลากหลายแบรนด์ในเครือ อาทิ “Parashield” “Travo” “Repaint” “Longlife” “Mark” ได้สร้างแรงกระเพื่อมครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมสีทาอาคาร ด้วยการเปิดตัวกลยุทธ์ใหม่ระดับองค์กร ภายใต้พันธกิจ “คุณภาพต้องมาก่อน” (Quality First) พร้อมประกาศบทบาทใหม่ในฐานะ “Coating Professional” ที่จะไม่เพียงกลับมาเล่นเกมในตลาดเท่านั้น แต่พร้อมวางมาตรฐานใหม่ให้กับทั้งวงการสีทาอาคารของไทย
แม้กัปตันจะเป็นแบรนด์ที่ไม่เน้นการตลาดหวือหวาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่กลับเป็นที่จดจำในหมู่ช่างสี ร้านค้า และผู้รับเหมาในฐานะแบรนด์ที่ “มั่นใจและเชื่อถือได้” และนั่นคือจุดแข็งที่แบรนด์เลือกนำกลับมาเล่าใหม่ในจังหวะที่ตลาดกำลังต้องการมืออาชีพที่แท้จริง
ปรับโครงสร้างทั้งระบบ บนความเข้าใจผู้บริโภค
ย้ำพันธกิจ “คุณภาพต้องมาก่อน” ส่งมอบคุณค่าที่มากกว่าราคา
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เกิดจากความเข้าใจอย่างแท้จริงว่า ผู้บริโภคในวันนี้มองหามากกว่า “ความคุ้มค่าในเชิงราคา” แต่ต้องการ “มาตรฐานที่มั่นใจได้” ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ไปจนถึงประสบการณ์ที่ได้รับ และภายใต้การนำของ นันทพล บุญเหลือ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กัปตัน โค๊ทติ้ง จำกัด (Captain Coating) องค์กรจึงก้าวสู่การปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ทั้งในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ แบรนด์สินค้า ทีมงาน เทคโนโลยี และการสื่อสาร เพื่อยกระดับคุณภาพในทุกระบบให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ในทุกมิติ
“กัปตันอยู่ในตลาดสีประเทศไทยมายาวนาน จุดแข็งคือคุณภาพสินค้าและความน่าเชื่อถือ แต่วันนี้เราต้องมองให้กว้างกว่าเดิม ไม่ใช่แค่สินค้า แต่ต้องเป็นทั้ง ‘ระบบ’ ที่ดีขึ้น เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ” นันทพลกล่าว
การเปลี่ยนแปลงจึงเริ่มจาก “รากฐาน” ด้วยการสร้างความแข็งแกร่งของตัวสินค้า จากทีมวิจัยและพัฒนาของกัปตัน ที่ร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตรบริษัทเคมีภัณฑ์นั้นนำของโลกทั้งยุโรปและอเมริกา เพื่อเทคโนโลยีสี ที่ช่วยยกระดับคุณภาพและมาตรฐาน การลงทุนในระบบข้อมูล การผลิต การสื่อสารด้วยเทคโนโลยี AI ที่ตอบสนองผู้บริโภคได้รวดเร็วยิ่งขึ้น รวมถึงการปรับเปลี่ยน ลุค ใหม่ของแบรนด์สินค้า ที่สะท้อนตัวตน ความเชื่อถือ ความทันสมัยและการเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคใหม่ของกัปตัน
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นบนหลักการเดียวที่ไม่เคยเปลี่ยนคือ พันธกิจ “คุณภาพต้องมาก่อน” (Quality First) ที่ถูกยกระดับให้เป็นหัวใจขององค์กรยุคใหม่ จากเดิมที่คุณภาพหมายถึงผลิตภัณฑ์ที่ดี วันนี้ Quality First หมายถึงทุกขั้นตอนต้องดีที่สุด ตั้งแต่สูตรสีทาอาคารที่ให้ความทนทานมากกว่าเดิม ระบบควบคุมคุณภาพที่สูงขึ้น ทีมงาน การให้บริการที่ยอดเยี่ยม จนถึงการสื่อสารที่ตรงประเด็น สอดรับกับความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภค
เพราะโลกวันนี้ ผู้บริโภคไม่ได้เลือกสินค้าจากแค่ราคา แต่เลือกจากความเชื่อมั่น ความปลอดภัย และมาตรฐานที่ได้รับ ต้องให้ความคุ้มค่าสูงสุดต่อเงินที่ลงทุนไป กัปตันจึงเลือกเดินหน้าบนแนวทางที่ชัดเจนนี้ ยกระดับคุณภาพในทุกจุด เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ “เหนือกว่าและคุ้มค่ากว่า” ในทุกมิติ
นี่คือพื้นฐานใหม่ที่กัปตันวางไว้ เพื่อให้แบรนด์สามารถก้าวสู่การแข่งขันในตลาดได้ดีขึ้น ที่ไม่เพียงแข่งขันได้ แต่ช่วยยกระดับมาตรฐานของทั้งอุตสาหกรรมไปพร้อมกัน
ยกระดับสู่ “Coating Professional”
นวัตกรรมที่พัฒนาจากความเข้าใจ ปัญหาผู้ใช้งานจริง
หัวใจของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของกัปตัน เริ่มจาก “ความจริงในภาคสนาม” ที่สั่งสมจากประสบการณ์ความเชี่ยวชาญนับสิบปี ทุกผลิตภัณฑ์ใหม่จึงถูกออกแบบจากข้อมูลจริงของผู้ใช้งาน เสียงสะท้อนของช่างร้านค้าสี ปัญหาที่พบในงานอาคารใหม่และงานรีโนเวท ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสีลอกล่อนจากความชื้น หรือสีซีดจางจากสภาพอากาศที่รุนแรงของเมืองไทย แนวคิดนี้คือแกนกลางที่ทำให้กัปตันไม่ได้เป็นเพียงแบรนด์สี แต่เป็น “Coating Professional” ที่เข้าใจงานสีในระดับลึกที่สุด และครอบคลุมในทุกมิติ
หนึ่งในตัวอย่างของผลิตภัณฑ์ที่เกิดจาก Pain Point จริงคือ “Travo” สีทาฝ้าที่คิดมาเพื่อแก้ปัญหาการใช้งานของทั้งช่างสีและเจ้าของบ้าน ช่างสีมักไม่ใช้สีรองพื้นกับงานฝ้าจนนำมาสู่ปัญหาสีลอกล่อน เจ้าของบ้านที่ฝ้ามีปัญหาเชื้อราใช้ในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่นห้องน้ำ รวมถึงการเหลืองตัวของฝ้าภายนอกอาคารจากแสงแดด โดยออกแบบให้ “Travo” ยึดเกาะกับฝ้าได้ดีโดยไม่ต้องทาสีรองพื้น ช่วยประหยัดเวลาและให้ผิวหน้าที่ทนทานต่อสภาพอากาศ
อีกด้านหนึ่ง “Captain Repaint” สีเฉพาะทางที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์งานรีโนเวทโดยเฉพาะเพื่อแก้ปัญหาการทาสีทับกับผนังที่เสื่อมสภาพของบ้านเก่า ที่ไม่ใช่แค่ “สวยขึ้น” แต่แก้ปัญหาสีเก่าที่ล่อนจากความชื้น ปัญหาเชื้อราและคราบสะสมได้จริง
และไฮไลต์อย่างนวัตกรรม “Glass Coating Technology” ที่ช่วยเคลือบและปกป้องพื้นผิวให้ทนทานยาวนาน ใน กลุ่มผลิตภัณฑ์ Parashield PU Hybrid ที่สร้างชั้นเคลือบผิวคล้ายการเคลือบแก้วของรถยนต์ ให้ผนังมีเกราะป้องกันที่แข็งแรงขึ้น ทั้งเงางาม ทนคราบ และดูแลรักษาง่าย เหมาะกับบ้านยุคใหม่ที่ต้องการความสวยทนในระยะยาว ก็มาจาก Pain Point ของลูกค้าที่ต้องการให้บ้านสวยงามและคงทนตลอดเวลา
ขณะที่กลุ่มสีทาหลังคาอเนกประสงค์รุ่นใหม่ “Captain Roof Paint Anti-Fade” พัฒนาขึ้นด้วยเทคโนโลยีเม็ดสี Color Fading Resistance เพื่อลดปัญหาสีซีดจาก UV ไม่ใช่แค่สวยตอนทาเสร็จ แต่ต้องสวยสดยาวนานเหนือกาลเวลา ให้ความทนนานนานกว่า 15 ปี ส่งมอบทั้งความสวยงามและความทนทานในระยะยาว ตามโจทย์ที่ผู้บริโภคต้องการ
ทั้งหมดนี้สะท้อนชัดว่า กัปตันไม่ได้มองนวัตกรรมเป็นสินค้าใหม่ แต่เป็นการ “แก้ปัญหาที่ชัดเจนและตรงจุดให้กับคนทำงานจริงในทุกพื้นที่”
การปรับ Positioning ให้ชัดว่าเป็น “Coating Professional” จึงไม่ใช่การสร้างภาพจำใหม่ หากเป็นการดึงตัวตนแท้จริงของแบรนด์ในรอบ 50 ปีให้ชัดขึ้นกว่าที่เคย และทำให้ทุกสินค้าที่ออกสู่ตลาดเป็นผลลัพธ์จากความเชี่ยวชาญจริง ไม่ใช่เพียงการทำตามเทรนด์หรือเพิ่มไลน์สินค้าเพื่อแข่งขัน
ในท้ายที่สุด การเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ของกัปตัน ไม่ว่าจะเป็น R&D การผลิต หรือการตลาด ทุกมิติล้วนมีจุดตั้งต้นเดียวกันคือ “Pain Point ของผู้ใช้จริง” และทั้งหมดคือภาพลักษณ์ใหม่ของผู้นำที่ไม่ได้ทำงานแบบแบรนด์สี แต่ทำงานแบบผู้เชี่ยวชาญด้านการเคลือบพื้นผิวอย่างแท้จริง
เปิดตัว Brand Identity ใหม่ พร้อมกองทัพสินค้าใหม่กว่า 15 รายการ
ปลดล็อกศักยภาพการสื่อสาร เข้าถึงผู้บริโภคได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวาระ 50 ปี เริ่มต้นจากการยกระดับภาพลักษณ์ ตราสินค้ากัปตัน (Brand Identity) เพื่อเสริมความน่าเชื่อถือ ความทันสมัย และความเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจสีให้เด่นชัดขึ้นกว่าเดิม โทนสีและงานดีไซน์ถูกออกแบบใหม่ให้สื่อถึงความเชื่อมั่น ขณะเดียวกันยังคงรักษาอัตลักษณ์เดิมไว้ครบถ้วน เพื่อสะท้อนการเดินหน้าพัฒนาองค์กรไปสู่มาตรฐานที่สูงกว่าเดิมในทุกมิติ
นอกจากนี้ยังนำเทคโนโลยี AI เข้ามาเป็นกลไกในการขับเคลื่อนงานการตลาดทั้งระบบ ทำให้แบรนด์สามารถสร้างการสื่อได้รวดเร็ว แม่นยำ และเป็นระบบมากขึ้น ตั้งแต่คลิปโฆษณา เสียงพากย์ ภาพนิ่ง ไปจนถึงคอนเทนต์ดิจิทัลบนทุกแพลตฟอร์ม ส่งผลให้องค์กรสามารถเปิดตัวสินค้าใหม่ได้กว่า 15 รายการภายในปีเดียว พร้อมชุดโฆษณาครบทุกฟอร์แมททั้งสั้นและยาว พร้อมเข้าสู่ตลาดได้ทันทีตั้งแต่วันแรกของแคมเปญ
นี่คือการ “ปลดล็อกศักยภาพการสื่อสาร” ที่ทำให้ Captain Coating เคลื่อนตัวได้ก่อนตลาด เข้าถึงผู้บริโภคได้รวดเร็ว มีประสิทธิภาพกว่าเดิม และลดข้อจำกัดที่เคยต้องพึ่งพาโปรดักชันขนาดใหญ่ ต้นทุนสูง และระยะเวลาดำเนินการที่ยาวนาน การนำ AI เข้ามาเสริมจึงไม่ใช่เพียงการเพิ่มความเร็ว แต่คือการยกระดับมาตรฐานการทำงานให้มีคุณภาพยิ่งขึ้นในทุกขั้นตอน
“สำหรับกัปตัน เราเชื่อว่าการพัฒนาที่แท้จริงต้องมาจากทั้งสองด้าน ทั้ง ‘คุณภาพของสินค้า’ และ ‘คุณภาพของการสื่อสาร’ ที่ต้องเดินคู่กัน จึงจะสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคได้อย่างยั่งยืน” นันทพลกล่าวเสริม
Distribution + PC = ความมั่นใจที่ส่งถึงมือผู้ใช้
เสริมแกร่งให้เครือข่าย เข้าใจตลาดจากหน้างานจริง
ในด้านการจัดจำหน่าย กัปตันเป็นหนึ่งในแบรนด์สีที่มีเครือข่ายครอบคลุมมากที่สุดในประเทศไทย ครอบคลุมตั้งแต่ร้านค้าปลีกระดับจังหวัด ร้านวัสดุก่อสร้าง ร้านฮาร์ทแวร์ท้องถิ่น รวมไปถึงร้านค้า Modern Trade ทั่วประเทศ ความแข็งแรงของระบบกระจายสินค้านี้ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงลูกค้าได้ลึกกว่าที่เคย และต่อยอดด้วยทีมพนักงานขาย (PC) ที่ผ่านการฝึกอบรมด้านสินค้าและการใช้งานจริง เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ในแต่ละพื้นที่ได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องและเหมาะสมที่สุด
คุณนันทพลกล่าวว่าให้ความสำคัญอย่างมากกับการ “อยู่ใกล้ตลาด” และเชื่อว่าคุณภาพของสินค้าจะยืนได้ก็ต่อเมื่อองค์กรเข้าใจเสียงของผู้ใช้จริงอย่างต่อเนื่อง จึงลงพื้นที่ทุกเดือนเพื่อพบร้านค้า ช่างสี และลูกค้าทั่วประเทศ บางเดือนต้องลงพื้นที่มากถึงสามครั้ง เพื่อสัมผัสปัญหาและความต้องการที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตประจำวันของผู้ใช้งาน
“หนึ่งในเรื่องสำคัญมากคือพยายาม Encourage ให้ผู้บริหารและพนักงาน รวมถึงตัวเอง ต้องใกล้ชิดกับตลาด ทุกเดือนจะมีการลงพื้นที่เอง ไปอยู่กับร้านค้า ไปอยู่กับช่างสี ไปอยู่กับลูกค้า เพื่อเข้าใจว่าพวกเขาเจออะไรจริง ๆ และทุกครั้งที่ออกไป เราได้ Insight ใหม่ ๆ กลับมาเสมอ ซึ่งนำมาสู่การปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงในทุกมิติ นี่คือแนวทางที่เราผลักดันให้ทีมงานทำงานบนฐานของ Pain Point จริง เพื่อให้การพัฒนาของเราตรงจุดที่สุด” นันทพลกล่าว
วิสัยทัศน์สู่อนาคต ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสู่มาตรฐานใหม่
การทำงานเชิงลึกแบบนี้ทำให้กัปตันไม่ใช่เพียงแบรนด์เก่าในตลาดสีไทยอีกต่อไป แต่กลายเป็น แบรนด์ที่เรียนรู้เร็ว ปรับตัวไว และพัฒนาสินค้าบนฐานข้อมูลจากผู้ใช้จริงอย่างเป็นระบบ การลงพื้นที่ต่อเนื่องจึงไม่ใช่เพียงกระบวนการตรวจสอบตลาด แต่กลายเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่ช่วยให้ทีมงานเข้าใจ Pain Point ได้ลึกกว่าเดิม และสามารถนำ Insight เหล่านั้นไปต่อยอดเป็นสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ได้แม่นยำยิ่งขึ้น
ทั้งหมดนี้สะท้อนว่าการกลับมาของกัปตันไม่ใช่การปลุกภาพจำเก่า หรือย้ำฐานเดิมของแบรนด์ในใจช่างสีเท่านั้น แต่เป็นการยืนหยัดในฐานะ “แบรนด์ที่พร้อมยกระดับมาตรฐานให้ทั้งอุตสาหกรรม” ด้วยจุดยืนเรื่องคุณภาพที่ไม่เคยลดทอน แม้กระทั่งในสินค้าที่อยู่ในกลุ่มราคาที่เข้าถึงง่าย เมื่อการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กรสอดรับกับสภาพตลาด เศรษฐกิจ พฤติกรรมผู้บริโภค และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โลกของสีทาอาคารจึงกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ ยุคที่คุณภาพต้องเป็นตัวนำ และแบรนด์ต้องพัฒนาด้วยความเข้าใจผู้ใช้จริงในทุกมิติ
วิสัยทัศน์สู่อนาคตของ กัปตัน จึงชัดเจนยิ่งขึ้น ในระยะ 3–5 ปีข้างหน้า องค์กรมองเห็นศักยภาพของตลาดรีโนเวทที่เติบโตอย่างต่อเนื่องจากรอบซ่อมแซมของบ้านเก่าทั่วประเทศ รวมถึงโอกาสในตลาดกลุ่ม CLMV ที่ให้ความสำคัญกับสินค้าคุณภาพจากต่างประเทศมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นลาว เมียนมา หรือกัมพูชา กัปตันมีแผนขยายตัวผ่านตัวแทนจำหน่ายและพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ โดยยังคงรักษาแกนกลางเดียวกัน คือ สินค้าต้องดีจริง คุ้มค่า และมีมาตรฐานที่แข่งขันได้อย่างสมเหตุสมผล
ทั้งหมดนี้คือทิศทางที่ชัดเจนของ “สีกัปตันในยุคใหม่” แบรนด์ที่ไม่ได้เพียงตอบโจทย์ตลาดปัจจุบัน แต่พร้อมผลักอุตสาหกรรมให้ก้าวไกลไปด้วยกัน บนมาตรฐานที่สูงขึ้นในทุกขั้นตอน ภายใต้หลักการเพียงหนึ่งเดียวที่ไม่เคยเปลี่ยน “คุณภาพต้องมาก่อน”
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /