เคยสังเกตไหมว่า ความสุขของการซื้อของสะสมในยุคนี้ ไม่ใช่แค่การได้ครอบครองของชิ้นนั้น แต่คือความตื่นเต้นในวินาทีที่ค่อยๆ แกะกล่องปริศนา เพื่อลุ้นว่าคาแรกเตอร์ที่ซ่อนอยู่ข้างในจะเป็นตัวที่เราเฝ้ารอหรือไม่ ความรู้สึกกึ่งลุ้นกึ่งสุขที่ทำให้หัวใจเต้นแรงนี้ กำลังถูกนำมาสร้างสีสันครั้งใหม่ให้กับวงการขนม
เมื่อ “SUNSU” ประกาศดึงศิลปินกลุ่ม “4EVE” กลับมาร่วมงานอีกครั้งในรอบ 3 ปี ซึ่งการหวนคืนสู่เวทีของ “พรีเซนเตอร์ที่ทุกคนคิดถึง” ในรอบนี้ ไม่ได้กลับมาพร้อมยิ้มสวยๆ ผ่านโฆษณาเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับแคมเปญใหญ่ที่ชื่อว่า “The Prequel and The Sequel”
การกลับมาครั้งนี้เป็นการพลิกโฉมภาพจำจากความสดใสเดิมๆ ก้าวเข้าสู่โลกจินตนาการภายใต้คอนเซปต์ “Once upon a time, SUNSU become Magical” ที่เปลี่ยนซองขนมและบรรจุภัณฑ์ให้กลายเป็นพื้นที่แสดงงานศิลปะในธีม “Wonder Zoo” ที่มีความน่าค้นหากว่าเดิม
เปลี่ยนสินค้าให้เป็นงานศิลปะ ที่ซ่อนเรื่องราวไว้กว่า 140 แบบ
ความน่าสนใจอยู่ที่กลยุทธ์การเล่าเรื่องผ่านงานภาพบนการ์ดและซองกว่า 140 แบบ ซึ่งแบรนด์เลือกใช้ความเงียบสงบทางคำพูด แล้วปล่อยให้ดีเทลในภาพทำหน้าที่เล่าเรื่องแทน การ์ดแต่ละใบจึงเปรียบเสมือนจิ๊กซอว์แห่งความลับที่ซ่อนเรื่องราวเอาไว้ให้แฟนคลับได้ตีความ
ด้วยดีไซน์ที่ใส่ลูกเล่นความ Fantasy ลงไปทำให้ผู้ที่ได้ครอบครองอดไม่ได้ที่จะต้องเพ่งมองหารายละเอียดที่แบรนด์แอบใบ้เอาไว้ วิธีการนี้กระตุ้นให้แฟนคลับเกิดบทสนทนาและคาดเดากันต่อว่า “SUNSU มีอะไรซ่อนอยู่อีก” เป็นการสร้างความผูกพันผ่านความสงสัยที่ชวนติดตาม
ความสนุกของการค้นหานี้ถูกขยายผลด้วยกลไกที่ท้าทายยิ่งขึ้น กับการตามล่าการ์ดใบพิเศษอย่าง “Sunbeary” ที่เป็น Rare Item ชิ้นสำคัญในคอลเลกชัน รวมถึงภารกิจสะสมการ์ดให้ครบ 999 ใบ เพื่อปลดล็อกสิทธิพิเศษที่ทางแบรนด์เตรียมไว้มอบให้เป็นรางวัลแด่นักสะสมตัวจริง
จากผู้บริโภค สู่นักสะสมในโลกเวทมนตร์
กลไกเหล่านี้เปลี่ยนสถานะของสินค้าจากขนมทานเล่น ให้กลายเป็น “ของสะสม” ที่มีคุณค่าทางใจ คล้ายกับโมเดลของ Art Toy ที่ผู้คนยอมจ่ายเพื่อแลกกับประสบการณ์และความรู้สึกตื่นเต้น ยิ่งเป็นการกระตุ้นให้เกิดกระแสการเปิดซองโชว์การ์ดบนโลกออนไลน์ สร้างชุมชนของคนรักแบรนด์ที่แข็งแกร่ง
และด้วยชื่อแคมเปญที่เกริ่นถึง Prequel และ Sequel ย่อมเป็นสัญญาณที่สื่อความหมายว่า ความมหัศจรรย์นี้ยังไม่จบลงง่ายๆ แต่น่าจะมีเซอร์ไพรส์รอให้ติดตามกันอีกยาวๆ เปรียบเหมือนการดูซีรีส์ที่ต้องคอยลุ้นว่าเนื้อหาในตอนถัดไปจะพาเราไปพบเจอกับความตื่นเต้นรูปแบบไหน
นี่จึงเป็นบทพิสูจน์ที่ชัดเจนว่า การร่วมมือกันระหว่าง SUNSU และ 4EVE ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของการขายสินค้าทั่วไป สู่การมอบ “ประสบการณ์” ที่น่าจดจำและเปลี่ยนให้ผู้บริโภคกลายเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวการผจญภัยในโลกเวทมนตร์ใบใหม่ไปโดยปริยาย
