คนส่วนใหญ่ต่อให้ไม่ได้เป็นคอบอล คงรู้สึกได้ว่าฟุตบอลโลกครั้งนี้ที่รัสเซียเป็นเจ้าภาพ เงียบกว่า FIFA Worldcup ครั้งก่อนๆ เพราะกระแสหรือความคึกคักต่างๆ ปรากฏให้เห็นน้อยมาก ทว่าหลังเกมนัดแรกของ Tournament จบลงด้วยการมีชัยของเจ้าภาพเหนือทีมชาติซาอุดิอาระเบียถึง 5-0 ก็เป็นสัญญาณว่าตลอด 1 เดือนของ ฟุตบอลโลกฉบับรัสเซีย คงมีอีกหลายประเด็นให้ติดตาม
บอกเลยว่าความน่าใจของฟุตบอลโลกครั้งที่ 21 มีให้ติดตามกันหลายเรื่อง และไม่จำกัดอยู่เฉพาะการขับเคี่ยวกันของ 32 ชาติตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายนถึง 15 กรกฎาคมนี้เท่านั้น
บราซิล : ชาติมหาอำนาจลูกหนังหวังมากู้ศักด์ศรี
คำถามที่อยู่คู่ฟุตบอลโลกมาตลอด ทั้งแค่ถามกันในหมู่คอบอลหรือถูกใช้ใน Campaign ชิงรางวัลของแบรนด์ต่างๆ คือ “ทีมชาติไหนจะคว้าแชมป์ใน Tournament นี้” โดยบราซิลจะเป็นคำตอบลำดับต้นๆ ของคนส่วนใหญ่อยู่เสมอ เพราะในฟุตบอลโลก 20 ครั้งที่ผ่านมา บราซิลคว้าแชมป์ได้มากสุดถึง 5 สมัย (1958 ,1962 ,1970 ,1994 และ 2002)
จึงพูดได้ว่าฟุตบอลมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ และชีวิตความเป็นอยู่ของประชากร มากกว่ากาแฟ พืชเศรษฐกิจสำคัญของประเทศเสียอีก
จนเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ไปสู่คนทั่วโลกว่า ‘เกมลูกหนัง’ คือสิ่งแรกที่ปรากฏในความคิด หลังถูกถามถึงประเทศพื้นที่ใหญ่สุดทวีปอเมริกาใต้ แซงหน้ากาแฟ ดนตรีแซมบ้าและป่าอเมซอน
อย่างไรก็ตาม “ทัพแข้งแซมบ้า” ก็ร้างถ้วยแชมป์ฟุตบอลโลกมาหลายปี ซึ่งเป็นเหตุให้ในระดับทวีป อเมริกาใต้ตกเป็นรองยุโรป โดยจากผลรวม ทวีปหลังคว้าแชมป์มาได้ 11 สมัย แบ่งเป็นเยอรมนี 4 สมัย และอิตาลี 4 สมัย พร้อมด้วย สเปน ฝรั่งเศสและอังกฤษ อีกประเทศละ 1 สมัย
ขณะที่ทวีปแรกครองแชมป์ได้ 9 สมัย แบ่งเป็นบราซิล 5 สมัย อาร์เจนตินาและอุรุกวัยประเทศละอีก 2 สมัย
หากสิ้นเสียงนกหวีดสุดท้ายในนัดชิงของ ฟุตบอลโลกฉบับรัสเซีย แล้วปรากฏว่าทีมชาติบราซิลคว้าแชมป์ได้อีก จะมีนัยสำคัญด้านดี 2 อย่างตามมาคือ จะทำให้จำนวนถ้วยแชมป์อยู่กับประเทศในทวีปอเมริกาใต้เพิ่มเป็น 10 สมัยและจะทำให้คอบอลทั่วโลกร่วมยินดีไปพร้อมกับชาวบราซิเลียน
เพราะเป็นแชมป์ที่ได้มาพร้อมการล้างอาย จากเกมรอบรองชนะเลิศเมื่อปี 2014 ซึ่งแชมป์เก่า 5 สมัยและประเทศเจ้าภาพการแข่งขันครั้งนั้น แพ้เยอรมนีย่อยยับถึง 1-7
จีน : แบรนด์แดนมังกรพับสนามบุกหลังสถานการณ์เป็นใจ
บนสนามในฟุตบอลโลกครั้งนี้ทีมชาติจีนตกรอบ จึงไม่ได้เป็น 1 ใน 5 ตัวแทนจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (AFC) แบบที่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ซาอุดิอาระเบีย อิหร่าน และออสเตรเลียทำได้สำเร็จ แต่บนสนามวงการโฆษณา 5 แบรนด์แดนมังกรได้พับสนามบุกเต็มที่ แซงหน้าแบรนด์จากชาติอื่นอย่างชัดเจน นำโดย Wanda Dalian บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ คว้าสิทธ์การเป็น FIFA Partner – ผู้สนับสนุนระดับสูงสุด
ด้านแบรนด์ร่วมชาติที่เหลือก็คว้าสิทธ์ผู้สนับสนุนในระดับรองๆ ลงมา โดย Vivo (Smartphone) ,Hisense (เครื่องใช้ไฟฟ้า) และ Mengniu Daily (ผลิตภัณฑ์จากน้ำนมวัว) คว้าสิทธ์แบบ FIFA Worldcup Sponsor ขณะที่ Yadea แบรนด์จักรยานยนต์ไฟฟ้าได้สิทธ์แบบ Asian Supporter
สาเหตุที่ทำให้แบรนด์ชาติพี่ใหญ่ของเอเชียตะวันออก ได้ทำสัญญาเป็นผู้สนับสนุน ฟุตบอลโลกฉบับรัสเซีย มากกว่าแบรนด์ชาติอื่น เพราะสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) เจอใบแดงเสียเอง จากกรณีทุจริตจนแบรนด์ระดับโลกที่เคยเป็น Sponsor ในการแข่งขันครั้งก่อนๆ อย่าง Castrol และ Sony พากันขอถอนตัวเพื่อปกป้องชื่อเสียง จนรายได้จาก Sponsor ลดลง
ขณะที่แบรนด์จีนเองก็มีงบ Promote มากขึ้นตามเศรษฐกิจที่ขยายตัว และการมุ่งรุกตลาดต่างประเทศ ประกอบกับได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเต็มที่ ตามนโยบายผลักดันประเทศสู่การเป็นมหาอำนาจด้านฟุตบอล จนเป็นที่คาดว่าตลอด 1 เดือนของการแข่งขันผู้ชมทั่วโลกราว 3.5 ล้านคนต้องรู้จักแบรนด์จีนทั้ง 5 มากขึ้นแน่นอน
ประเดิมใช้ VAR และ ห้ามกัด : เทคโนโลยีช่วยตัดสินพร้อมเพิ่มเงื่อนไขใบแดงใหม่
เพราะทั้งสนามมีผู้ตัดสินหลักอยู่เพียงคนเดียว ความผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์และจังหวะที่เล็ดรอดสายตา อาจทำให้เกมเปลี่ยนแบบค้านสายตาคนดูและนักเตะ หลายปีที่ผ่านมา FIFA จึงนำเทคโนโลยีมาใช้ ไม่ว่าจะเป็น Sensor ตรวจจับลูกฟุตบอลที่เส้นประตู (Goal Line) เพื่อให้ทราบว่าเกิดการทำประตูขึ้นแล้ว
และล่าสุดกับภาพวิดีโอช่วยผู้ตัดสิน (Video Assistant Referees – VAR) ซึ่งจะใช้ใน 4 กรณีคือ ลูกที่เข้าประตู การให้ลูกโทษ การให้ใบแดงและไม่แน่ใจว่านักเตะคนใดทำฟาล์ว โดยหากถึงจังหวะจะใช้ VAR ผู้ตัดสินจะชูนิ้วชี้ขึ้นแล้ววาดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า
เพื่อส่งสัญญาณไปยังทีมวิดีโอส่วนกลางในกรุงมอสโควราว 7 คน ให้ดึงภาพช้าจากมุมที่บันทึกไว้ขึ้นมาดูข้างสนาม แล้วพิจารณาว่าเองจะตัดสินอย่างไร
ส่วนการให้ใบแดงในการแข่งขันครั้งนี้ เกณฑ์ใหม่ที่เพิ่มมาคือ หากนักเตะคนใดกัดฝ่ายตรงข้ามก็จะถูกไล่ออกจากสนามด้วย โดยผู้ที่ทำให้ FIFA ต้องกำหนดว่าฟันเป็นอวัยวะที่ไม่ควรนำใช้สนามคือ Luis Suarez ศูนย์หน้าทีมชาติอุรุกวัยที่กัด Giorgio Chiellini กองหลังทีมชาติอิตาลีในเกมรอบแบ่งกลุ่มของฟุตบอลโลกปี 2014
ไว้หนวด : Campaign ส่งแรงใจจากแฟนบอลเจ้าภาพ
อย่างที่รู้กันว่าชาวรัสเซียเป็นคนยิ้มยาก แต่เรื่องต่อไปนี้คงสร้างรอยยิ้มให้คนทั้งโลก โดย Ivan Urgant พิธีกรรายการโทรทัศน์ชื่อดังของรัสเซีย ได้ขอให้เพื่อนร่วมชาติไว้หนวดเพื่อเป็นกำลังใจให้ Stanislav Cherchesov โค้ชฟุตบอลทีมชาติ ซึ่งเป็นที่จดจำจากหนวดบนใบหน้า ในการพาลูกทีมไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศตามเป้าที่วางไว้ เพราะมีสัญญาณมากมายชี้ว่าเขาคงทำภาระกิจนี้สำเร็จได้ยาก
Ivan Urgant (คนขวาในรูปซ้าย)
เช่น นักเตะหลายคนอายุเข้าเลขสามแล้ว และการไม่ชนะทีมใดเลยมา 7 นัดติด ก่อนเตะนัดประเดิมการแข่งขันในฟุตบอลโลกครั้้ง ซ้ำร้ายยังเป็นทีมที่ FIFA จัดให้มีอันดับต่ำสุด (อันดับที่ 70) ในแข่งขันด้วย โดยปรากฏว่าชาวรัสเซียมากมายยินดีร่วม Campaign จนมีภาพไว้หนวดทั้งจริงและปลอมปรากฏขึ้นบน Social Media เพิ่มขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว
Stanislav Cherchesov
มีแนวโน้มว่า Campaign นี้จะได้ผลและจุดประกายให้ ฟุตบอลโลกฉบับรัสเซีย คึกคักขึ้นมา ยืนยันได้จากเกมแรกของ Tournament เมื่อ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา ทีมชาติรัสเซียสามารถปลดล็อค ชนะซาอุดิอาระเบียอย่างถล่มทลายถึง 5-0! / bbc ,cnn theguardian ,cnbc ,rt ,fifa ,wikipedia
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ