ท่ามกลาง Mega Trend ที่ผู้คนหันมาให้ความสนใจในเรื่องสุขภาพมากขึ้น แต่น่าแปลกที่ร้านอาหารที่มีภาพลักษณ์ของความเป็น Fast Food ในไทยอย่าง KFC กลับเติบโต
สะท้อนได้จากจำนวนสาขาในปัจจุบันที่มีมากถึง 701 สาขา โดยในปี 2018 ถือเป็นปีที่ KFC ผุดสาขาใหม่ขึ้นมามากที่สุดตั้งแต่มีแบรนด์เข้ามาในประเทศไทย ซึ่งอยู่ที่ 75 สาขา จากเดิมที่เคยตั้งเป้าในการเปิดอาทิตย์ละ 1 สาขา หรือหมายถึงปีละ 52 สาขา
สิ่งที่ทำให้ KFC เติบโตท่ามกลางกระแสที่ผู้คนให้ความสนใจในเรื่องของอาหารเพื่อสุขภาพ ก็คือรูปแบบของธุรกิจ ที่หลังจากบริษัทแม่ในต่างประเทศประกาศให้ทุกสาขาทั่วโลกยึดโมเดลแบบแฟรนไชส์ 100% กลุ่มบริษัท Yum Restaurant ประเทศไทย จึงตัดสินใจขายทุกสาขาที่มีอยู่ในมือประมาณ 240 สาขา ให้กับบริษัท เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (QSA) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่อยู่ภายใต้ร่มใหญ่อย่างไทยเบฟ ส่วนสาขาที่เหลือเป็นของ CRG และ RD
เมื่อไม่ต้องหาโลเคชั่นเปิดสาขา Yum Restaurant ประเทศไทย จึงมีเวลาไปโฟกัสกับการทำแบรนด์-ทำ Marketing มากขึ้น ส่วน QSA, CRG และ RD ก็ใช้ความเชี่ยวชาญในการทำธุรกิจและอำนาจการต่อรองที่มีอยู่ในมือขยายสาขาไป
และเมื่อการเปลี่ยนโมเดลธุรกิจทำให้แบรนด์เติบโตกว่าที่คาดไว้ Yum Restaurant จึงได้ขยับเป้าหมายจากเดิมที่เคยตั้งเป้าไว้ว่าในปี 2020 จะมี 800 สาขาในประเทศไทย ก็เปลี่ยนมาเป็น 1,000 สาขา หรือเป็นเป้าที่สูงกว่าเดิมถึง 25%
แม้จะเติบโตสวนทางกับเรื่องของสุขภาพ แต่ KFC ก็ไม่ได้มองข้าม Mega Trend นี้ไป เพราะมองว่าอย่างไรคนไทยก็ยัง enjoy eating กับอาหารประเภทนี้ เพียงแต่จะเน้นย้ำให้ผู้บริโภคได้เห็นว่า KFC ใช้วัตถุดิบที่สะอาด มีคุณภาพ มีมาตรฐาน และไม่ใช้น้ำมันเก่ามาทอด ซึ่งพวกเขามองว่านี่ก็ถือเป็นเรื่องที่ตอบโจทย์ในแง่ของสุขภาพด้วยเช่นกัน
–