แม้ราคาขนมไหว้พระจันทร์จะปรับตัวสูงขึ้น และอาจจะส่งผลให้ปริมาณการซื้อขนมไหว้พระจันทร์เฉลี่ยลดลง แต่คาดว่าตลาดขนมไหว้พระจันทร์ในปี 2562 จะมีมูลค่าประมาณ 950 ล้านบาท เติบโต 2.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน
เทศกาลไหว้พระจันทร์ ปีนี้ตรงกับวันที่ 13 กันยายน 2562 บรรยากาศของเทศกาลปีนี้ ยังคงเห็นผู้ประกอบการทั้งรายดั้งเดิมและรายใหม่ ส่งผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ๆ ออกมานำเสนอเพื่อสร้างความแปลกใหม่ ทั้งด้านไส้ขนมที่บางรายคิดค้นไส้ที่ยังไม่เคยมีการผลิตออกมาก่อนหน้านี้ รวมถึงการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามเพื่อจับตลาดกลุ่มที่ซื้อไปรับประทานหรือซื้อเป็นของฝาก
แต่สิ่งที่ผู้ประกอบการขนมไหว้พระจันทร์ต้องเผชิญคือ ความท้าทายจากราคาวัตถุดิบหลักที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งมีผลต่อราคาขนมไหว้พระจันทร์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และอาจส่งผลต่อพฤติกรรมการซื้อของกลุ่มลูกค้าที่อาจจะซื้อน้อยลง
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า ขนมไหว้พระจันทร์ในตลาดมีราคาที่ปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ 3-5% และคาดว่าตลาดขนมไหว้พระจันทร์ในปี 2562 จะมีมูลค่าประมาณ 950 ล้านบาท เติบโต 2.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน

นอกจากนี้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังได้สำรวจพฤติกรรมการซื้อขนมไหว้พระจันทร์ของคนไทยในปี 2562 พบว่า สัดส่วนคนซื้อขนมไหว้พระจันทร์เพิ่ม แม้ซื้อเฉลี่ยน้อยชิ้นลง
โดยมีสัดส่วนการซื้ออยู่ที่ 61.4% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อนที่อยู่ที่ 59.6% แบ่งเป็น
ซื้อไปรับประทาน 47.1% (ซึ่งกลุ่มนี้ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีอายุระหว่าง 20-39 ปี)
ซื้อไปไหว้มีสัดส่วน 26.6%
ซื้อไปฝากญาติมิตร 22.3%
และซื้อให้กลุ่มลูกค้าองค์กร 4.0%
ขณะที่จำนวนการซื้อขนมไหว้พระจันทร์เฉลี่ยในปีนี้ลดลงอยู่ที่ 7.2 ชิ้น จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 7.5 ชิ้น เช่นเดียวกับค่าใช้จ่ายที่ลดลงแต่ใกล้เคียงกับปีก่อน โดยค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในปีนี้อยู่ที่ 992 บาทต่อคน
โดยกลุ่มคนที่ซื้อขนมไหว้พระจันทร์ลดลงนั้นให้เหตุผลระบุว่า
1.เป็นเพราะราคาที่แพงขึ้น 29.5%
2.มีภาระรายจ่ายเพิ่มขึ้น 27.9%
และมีรายได้ที่ลดลง 8.2%
อย่างไรก็ตามจะเห็นผู้ประกอบการขนมไหว้พระจันทร์บางรายมีการออกผลิตภัณฑ์ขนมไหว้พระจันทร์ที่ตอบโจทย์สุขภาพ อาทิ ธัญพืช มันม่วง เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญและระมัดระวังการรับประทานขนมไหว้พระจันทร์ในปริมาณที่จำกัด
โดยผู้ตอบแบบสอบถามของศูนย์วิจัยกสิกรไทยสนใจที่จะซื้อหากมีขนมไหว้พระจันทร์ที่ดีต่อสุขภาพ เช่น หวานน้อย (น้ำตาลต่ำ) ในสัดส่วนที่สูงถึง 75.2% สะท้อนถึงเทรนด์การให้ความสำคัญต่อสุขภาพของผู้บริโภค ที่ครอบคลุมมาถึงกลุ่มผู้ซื้อขนมไหว้พระจันทร์ด้วย
