ประวัติ Harley-Davidson แบรนด์สองล้อสุดเก๋าที่การสานตำนานต้องบิดให้แรงกว่าเดิม

ตัวเลขสำคัญที่ชี้ว่าแบรนด์เดินหน้า ยังย่ำอยู่กับที่หรือถดถอยทางธุรกิจดีสุดคือยอดขาย โดยราวมกราคมของทุกปีแต่ละแบรนด์ก็เผยยอดขายไตรมาสสุดท้ายของปีก่อน และภาพรวมของทั้งปีเดียวกันให้ได้ทราบว่าเป็นอย่างไร หากยอดขายตกผู้บริหารของแบรนด์คงอยู่เฉยไม่ได้ สำหรับ Harley-Davidson ปิดปี 2019 ไม่สวยนัก เพราะยอดขายในสหรัฐฯ ไตรมาสสุดท้ายลดลงมา 645 คันจากไตรมาสสุดท้ายปี 2018

แม้เป็นตัวเลขที่ไม่มาก แต่ก็เป็นข่าวร้ายในบ้านเกิดของแบรนด์เอง เป็นตลาดใหญ่สุดและลดลงต่อเนื่องมาถึง 5 ปีแล้ว สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ Harley-Davidson มีสภาพไม่ต่างจากจักรยานยนต์รุ่นใหญ่ที่ Biker บิดเร่งเครื่องจนควันโขมง

ท่ามกลางเสียงเครื่องยนต์คำราม และโคลนกระจายไปทั่ว แต่ Biker ก็ยังพาสองล้อแบรนด์เก๋าคู่ใจ หลุดจากหล่มไม่ได้เสียที

ถึงเวลาแบรนด์เก๋าปรับลุค เพื่อให้หลุดจากหล่ม

ไตรมาสุดท้ายปี 2019 Harley-Davidson ทำยอดขายทั่วโลกได้ 38,754 คัน ลดลงจาก 39.311 คันของไตรมาสเดียวกันปี 2018 โดยเมื่อรวมทั้งปี 2019 Harley-Davidson ทำยอดขายทั่วโลกได้ 218,273 คัน เทียบเป็นเงินได้ 4,572 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 137,160 ล้านบาท)

ลดลงจากเมื่อปี 2018 ที่ขายได้ 228,051 คัน และเทียบเป็นเงินได้ 4,968 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 149,040 ล้านบาท)

ตลาดที่ร่วงมากสุดในไตรมาสสุดท้ายปี 2019 ของ Harley-Davidson คือสหรัฐฯ โดยทำยอดขายได้ 20,204 คัน ลดลงจาก 20,849 คันของปี 2018 ซึ่งเป็นการลดลงต่อเนื่องมาเกิน 10 ไตรมาส โดยมีสาเหตุมาจากภาพลักษณ์ของ Harley-Davidson ที่ดูแก่เกินไปในสายตาคนชาวอเมริกันรุ่นใหม่

คนรุ่นก่อนๆ ที่เป็นแฟนพันธ์ุแท้ของแบรนด์ก็อายุมากเกินกว่าจะขี่จักรยานยนต์คันใหญ่ รวมถึงเป็นคนวัยเกษียณที่รายได้ไม่มากมายเหมือนสมัยยังทำงาน

LiveWire จักรยานยนต์พลังไฟฟ้ารุ่นแรกของ Harley-Davidson

นอกจากนี้ Harley-Davidson ยังขาดจักรยานยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่ราคาจับต้องได้ ส่วน LiveWire จักรยานยนต์พลังไฟฟ้ารุ่นแรกที่เริ่มทยอยออกสู่ตลาดแล้ว กลับต้องหยุดผลิตไปก่อน เพราะพบปัญหาระหว่างชาร์จ

ขณะเดียวกันยังเผชิญกระแสต่อต้านจากชาวอเมริกันบางส่วน หลังปิดโรงงานในสหรัฐฯ และเปิดโรงงานในต่างประเทศเพื่อเลี่ยงกำแพงภาษีนำเข้าจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน และสหรัฐฯ กับยุโรป

สถานการณ์ของ Harley-Davidson เมื่อปี 2019 ยิ่งแย่ลงหลังประธานาธิบดี Donald Trump ทวิตข้อความให้ชาวอเมริกันคว่ำบาตร Harley-Davidson

Indian Motorcycle แบรนด์คู่ปรับของ Harley-Davidson

และถูกนำไปเทียบกับ Indian Motorcycle แบรนด์คู่ปรับร่วมชาติ ที่ไตรมาสสุดท้ายปี 2019 ทำยอดขายดีขึ้นอย่างชัดเจน ช่วยให้ตลอดปี 2019 Polaris บริษัทแม่ทำยอดขายได้ทั่วโลก 6,782 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 203,460 ล้านบาท) เพิ่มจาก 6,078 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 182,340 ล้านบาท) ในปี 2018

Matt Levatich – CEO ของ Harley-Davidson

Matt Levatich – CEO ของ Harley-Davidson ยอมรับว่ายอดขายที่ลดลงในปี 2019 ทำให้แบรนด์ภายใต้ความดูแลถึงคราวต้องเร่งเครื่อง

คาดกันว่าแผนเร่งเครื่องดังกล่าวคือการแก้ไขข้อบกพร่องของ LiveWire แล้วผลักดันออกสู่ตลาดอีกครั้งตาม Trend ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า เพิ่มจักรยานยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่หลากหลายขึ้น และรุกตลาดเอเชียให้มากกว่าเดิมเพราะปี 2019 เป็นตลาดที่โตมากสุด ยืนยันได้ด้วยยอดขาย 29,513 คัน เพิ่มจาก 28,724 คันเมื่อปี 2018

ประวัติ Harley-Davidson เส้นทางยาวนานเกือบ 120 ปีของค่าย 2 ล้ออเมริกัน

ก่อนเผชิญความท้าทายที่รายรอบครั้งล่าสุด Harley-Davidson ก็ผ่านเรื่องราวมาแล้วมากมาย โดย Harley-Davidson ก่อตั้งโดย William Harley กับ 3 พี่น้องตระกูล Davidson คือ William, Walter และ Arthur ในปี 1903 ที่ทั้งหมดต่างหลงใหลในความเร็วและเครื่องยนต์กลไก

4 ผู้ร่วมก่อตั้ง Harley-Davidson

อีก 4 ปีต่อมาบริษัทก็เดินหน้าได้และมีงบทำโฆษณาเพื่อกระตุ้นยอดขาย ข้ามมาถึงช่วงเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในปี 1930 Harley-Davidson ก็กลายเป็นบริษัทใหญ่ มีสาขามากมายทั่วสหรัฐฯ จึงช่วยให้รอดวิกฤตเศรษฐกิจในยุคนั้นมาได้

ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 Harley-Davidson ดังไปทั่วโลก หลังได้รับความไว้วางใจจากกองทัพสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรนำจักรยานยนต์ไปใช้เป็นพาหนะในการรบมากนับแสนคัน

ตลอดยุค 50 Harley-Davidson เป็นแบรนด์จักรยานยนต์รุ่นใหญ่เครื่องแรง ครองถนนในสหรัฐฯ หลัง Indian Motorcycle ประสบปัญหาทางธุรกิจ

จักรยานยนต์ของ Harley-Davidson รุ่นที่เคยใช้ในสงครามโลก

ยุค 60 และ 80 เผชิญความท้าทายอีกจากการรุกตลาดสหรัฐฯ ของบรรดาแบรนด์ญี่ปุ่นและวิกฤตเศรษฐกิจ แต่สุดท้ายทีมผู้บริหารและนักลงทุนก็พา Harley-Davidson เร่งเครื่องผ่านมาได้

ปัจจุบัน Harley-Davidson เป็นหนึ่งในแบรนด์แกร่งที่คนทั่วโลกทั้งกลุ่มผู้หลงรักการขับขี่จักรยานยนต์และคนทั่วไปต่างรู้จักดี ยอดขายสูงระดับพันล้านเหรียญสหรัฐ