เมื่อพูดถึงโครงการ เคแบงก์ อีเกิร์ลส (KBank e-Girls) นอกจากเรื่องค่าตอบแทนของผู้ที่ได้รับเลือกเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์กว่าคนละ 2 ล้านบาท ตลอดสัญญา 2 ปีแล้ว
ในมุมของการสร้างแบรนด์ หากย้อนไปเมื่อ 19 ปีก่อนถือเป็นมิติใหม่ของวงการธนาคาร และเวทีประกวดสาวงาม ซึ่งไม่เคยมีธนาคารไหนมองเห็นถึงศักยภาพของการปั้นแบรนด์แอมบาสเดอร์เป็นของตนเองมาก่อน
คุณสมบัติของผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเป็น อีเกิร์ลส นั้นไม่อาจวัดเพียงแค่ความสวยงามหรือรูปร่างหน้าตา แต่ยังต้องมาพร้อมกับความสามารถ สมาร์ท ปราดเปรียว และพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพื่อพัฒนาทักษะตลอดเวลา
ทั้งด้านบุคลิกภาพ การบริการ ทักษะในการนำเสนอ รวมถึงความรู้ความเข้าใจในผลิตภัณฑ์ของธนาคาร เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวแทนของแบรนด์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เป็นตัวแทนและส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร เราจะได้เห็นเหล่าบรรดาอีเกิร์ลสอยู่ในพื้นที่สื่อประชาสัมพันธ์ ทั้งแบบออนไลน์ ออฟไลน์ ภาพยนตร์โฆษณา และแคมเปญการตลาดต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
รวมถึงในมุมของผู้สมัครเองยังถือเป็นโอกาสในการโชว์ความสามารถด้านการทำงานในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับแบรนด์ชั้นนำของไทยอีกด้วย
ปัจจุบันโครงการเคแบงก์ อีเกิร์ลส ได้เดินทางมาถึงรุ่นที่ 10 หรือ KBank e-Girls Generation X ซึ่งในปี 2562 ที่ผ่านมามีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการกว่า 600 คน และคัดเหลือเพียง 8 คนเท่าที่ได้รับตำแหน่งนี้ไป
ตามที่เกริ่นไว้ว่าความน่าสนใจของการเข้ามาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ KBank e-Girls นั้นไม่ใช่แค่เรื่องของรายได้ … ลองฟังประสบการณ์ รวมถึงมุมคิดของสาวๆ อีเกิร์ลส รุ่นที่ 10 ทั้ง 8 คน “บทบาทหน้าที่และโอกาสที่ได้รับหลังจากผ่านการคัดเลือกว่ามีเรื่องราวอะไรที่น่าสนใจ

จุดเริ่มต้นของความตั้งใจก่อนที่จะก้าวมาเป็น KBank e-Girls ในมุมมองของ ‘บีม-พุทธิดา อินนุพัฒน์’
“รู้สึกว่าคงมีไม่กี่แบรนด์ในโลกที่เปิดโอกาสให้ผู้หญิงธรรมดาทั่วไปอย่างเรา ซึ่งไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร ได้มีโอกาสออกมาพิสูจน์ความสามารถของตนเอง ได้เป็นตัวเเทนในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้กับแบรนด์ระดับแนวหน้าของประเทศแบบนี้ แบบมีหน้าเราติดอยู่ที่ตู้เอทีเอ็มทั่วประเทศ
ที่สำคัญปีนี้ถือเป็นปีสุดท้ายที่สามารถสมัคร เพราะอายุใกล้จะเกินเกณฑ์ ตอนสมัครเลยคิดอย่างเดียวว่า ได้ไม่ได้ไม่รู้ แต่ตอนนี้ต้องลองทำให้เต็มที่ เพราะถ้าปล่อยให้เวลามันผ่านไปแล้วกลับมานึกว่า โอ้ย! อยากเป็น KBank e-Girls จัง แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะบีมทิ้งโอกาสนั้นไปเอง คงเป็นความรู้สึกที่เฟลน่าดู
และในที่สุดการตัดสินใจในวันนั้นก็คุ้มค่าและมีความหมายสำหรับบีมมากจริงๆ เพราะตอนนี้บีมไม่ได้เป็นแค่บีมเฉยๆ เเล้วค่ะ แต่เป็น บีม KBank e-Girls generation X ค่ะ”

สิ่งที่ได้เรียนรู้หลังจากเข้ารับตำแหน่ง KBank e-Girls ของ ‘การ์ตูน – ยมลพร ยอดนพเกล้า’
“การใช้ชีวิตของตัวเองค่อนข้างเปลี่ยนเพราะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาก สิ่งแรกคือวิธีการทำงานร่วมกับผู้อื่น ที่เราต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น เช่น การอ่านข่าวร่วมกับเพื่อนๆ ที่ต้องฝึกฝนการออกเสียงให้ชัดเจน
ในบางครั้งที่เรายังทำได้ไม่ดีทำให้งานเสร็จช้า ก็ต้องรู้จักนำคำแนะนำมาปรับปรุงตัวเอง หรือแม้แต่การเป็นพิธีกร ที่ต้องฝึกการอ่านสคริปต์ให้คล่องเพื่อให้พูดได้อย่างลื่นไหล ทั้งหมดนี้ก็คือเราต้องรู้จักฝึกฝนตัวเอง ทำการบ้านเอง เพื่อให้งานสำเร็จด้วยดี
นอกจากเรื่องงานสิ่งที่ได้เรียนรู้คือมารยาทและการวางตัวค่ะ เพราะการเป็น KBank e-Girls คือเป็นภาพลักษณ์ขององค์กร ต้องรู้จักการวางตัวที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการพูดในที่สาธารณะ การแต่งตัว หรือการไปปฏิบัติงานนอกสถานที่ค่ะ”

บทบาทและหน้าที่การทำงานที่ทำให้ ‘ซี-ชมชนก ดาระปรารมภ์’ เรียนรู้ไปพร้อมๆ กับตำแหน่ง KBank e-Girls ที่เธอได้รับ
“บทบาทที่ชอบเป็นพิเศษในการทำหน้าที่นี้ คือการเป็นพิธีกรในงาน The symbol of your pleasure ที่ธนาคารกสิกรไทยจัดขึ้นเพื่อแทนคำขอบคุณแด่ลูกค้า THE WISDOM
ที่นอกจากจะได้เห็นทีมงานทุกคนทุ่มเทและตั้งใจจัดกิจกรรมมากๆ ทำให้กิจกรรมออกมาหลากหลายและน่าสนใจแล้ว งานนี้ยังทำให้เราได้มีโอกาสพบปะกับผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ที่ประสบความสำเร็จในสายอาชีพต่างๆ ที่มาแชร์ประสบการณ์เส้นทางความสำเร็จ มาสอนและให้คำแนะนำอยู่เสมอ กล่าวได้ว่าเป็นโอกาสที่หายากมากๆ
จึงประทับใจและชอบงานนี้เป็นพิเศษ เพราะนอกจากจะได้ทำงานพิธีกรที่ตัวเองชอบแล้ว ก็ยังได้รับความรู้ใหม่ๆ กลับบ้านด้วยเสมอค่ะ”

ได้ทำหน้าที่ไปพร้อมกับการเรียนรู้และพัฒนาตนเองในแบบของ ‘เกรพส์-จันทรรัสม์ เอี่ยมเล็ก’
“ด้วยหน้าที่และงานที่เราได้ทำ ทำให้มีโอกาสในการพัฒนาศักยภาพในหลายๆ ด้าน เช่น การอ่าน การเขียน การพูด รวมไปถึงการมีบุคลิกภาพที่ดี ใช้ภาษาที่สื่อความหมายได้ชัดเจน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ดียิ่งขึ้น
เนื่องจากการสื่อสารเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับเกรพส์ในการทำหน้าที่เป็นผู้ส่งเสริมภาพลักษณ์และกิจกรรมการตลาด รวมทั้งการเป็นพิธีกรและผู้ประกาศข่าวรายการโทรทัศน์ของธนาคารกสิกรไทยด้วย
เกรพส์เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนมีศักยภาพที่มีคุณค่าอยู่ในตัวเอง ทำให้สามารถฝึกหัดและพัฒนาตนเองได้ในเกือบทุกเรื่อง เกรพส์จึงมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงตัวเองอยู่เสมอค่ะ”

การเรียนรู้เพื่อนำไปต่อยอด ของ แบม-สราลี ประสิทธิ์ดำรง
“หลังจากจบ 2 ปีในฐานะ KBank e-Girls พวกเราทุกคนคงจะมีประสบการณ์การเป็นพิธีกรที่ดี พัฒนาบุคลิกภาพอย่างมืออาชีพ ถูกฝึกให้มีบุคลิกภาพที่ดูดีอยู่เสมอ
เพราะฉะนั้นถ้าพวกเราทั้ง 8 คนอยากจะไปทำงานต่อในสาขาที่จะต้องมีภาพลักษณ์ที่ดีอย่างเช่น พิธีกร ผู้ประกาศข่าว ก็คงจะไม่มีปัญหาอย่างแน่นอนค่ะ
นอกจากนี้ ยังได้เรียนรู้การทำงานร่วมกับคนต่างฝ่ายงาน แบมคิดว่าเราจะมีโอกาสต่อยอดศักยภาพด้านการสื่อสารด้วยการทำงานร่วมกับผู้อื่น ซึ่งเราจะได้รับคำแนะนำมากมายจากพี่ๆ จากการที่เราได้มาอ่านข่าวและทำหน้าที่เป็นพิธีกร หลังจากจบ 2 ปีนี้แล้ว แบมคิดว่าพวกเราทั้ง 8 คนน่าจะมีโอกาสในการทำงานด้านการสื่อสารมากขึ้นค่ะ”

มุมมองก่อนและหลังเข้ารับตำแหน่ง KBank e-Girls ของ แซนด์-ภคมน ดาระปรารมภ์
“ก่อนที่จะได้รู้จักโครงการนี้ เเซนด์เป็นเพียงเด็กจบใหม่ ไม่ได้มีประสบการณ์หรือเรียนด้านการเงินมาก่อน เเซนด์มีโอกาสรู้จักกับธนาคารกสิกรไทยครั้งเเรก คือตอนสิบขวบ ที่อยากจะเล่นสนุกกับคุณเเม่โดยการจำสีของธนาคารเเล้วให้คุณเเม่ถามว่าสีธนาคารนี้คือชื่อธนาคารอะไร เเซนด์จำได้เลยว่าหนึ่งในธนาคารที่เเซนด์ชอบมากที่สุดคือ ธนาคารกสิกร
อีกอย่างคือ ตึกสำนักงานใหญ่ ที่อยู่ติดสะพานภูมิพล สวยงามมาก มีละครเรื่องหนึ่งที่พระเอกเปิดตัวมาด้วยการคุยโทรศัพท์ โดยมีภาพตึกกับสะพานเป็นฉากหลัง…บอกได้เลยว่าผู้กำกับกับทุกคนพยายามจะเเสดงให้เห็นว่าตึกนั้นเป็นสัญลักษณ์ของความสวยงามเเละมีระดับ ซึ่งเเซนด์เห็นด้วย
ดังนั้น สำหรับเเซนด์ตอนนั้นมองว่าองค์กรนี้เป็นองค์กรที่ยิ่งใหญ่เเละน่าเดินเข้าไปมากๆ จริงๆ ตอนนี้จึงดีใจเเละเป็นเกียรติที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวสีเขียวนี้อย่างใกล้ชิดมากขึ้นไปอีก ยินดีที่ได้รู้จักกันมากยิ่งขึ้นค่ะ”

เหตุผลที่ทำให้ ‘แป้ง-สุภัสสรา แววสวัสดิ์’ สมัครเข้าร่วมโครงการ KBank e-Girls
“รู้สึกว่าธนาคารกสิกรไทยเป็นสถาบันการเงินที่มีชื่อเสียงและความมั่นคง อยากเข้าร่วมงานด้วย พอรู้ว่าโครงการ KBank e-Girls รุ่นที่ 10 ก็รู้สึกว่าเรามีคุณสมบัติตรงกับโครงการ รวมถึงเป็นโอกาสสุดท้าย เพราะอายุอยู่ในเกณฑ์ปีสุดท้ายที่จะสมัครได้
แป้งมองว่าโครงการนี้เป็นการเปิดโอกาสที่ดีที่เราจะได้เรียนรู้และพัฒนาตัวเองให้มีความสามารถในหลายๆ ด้าน เป็นความท้าทายในสิ่งที่แป้งไม่เคยทำ คือการเป็นพิธีกร ถ้าเราปิดโอกาสตัวเอง มองว่าเราทำไม่ได้หรอก ประกวดไปก็สู้คนอื่นไม่ได้หรอก มันคือการปิดกั้นโอกาสตัวเองตั้งแต่ยังไม่ได้ลอง ดีกว่าการอยู่เฉยๆ เพราะทุกอย่างคือการเรียนรู้ ไม่มีใครที่จะเก่งไปทุกเรื่อง ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเรา มากกว่าพรสวรรค์ ก็คือพรแสวง
และเชื่อว่าไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ ถ้าเรามีความตั้งใจที่มากพอ แป้งคิดว่าโครงการนี้จะทำให้เราอยากที่จะเรียนรู้และพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นในทุกวันๆ และมันจะทำให้เราภูมิใจในตัวเองว่าสิ่งที่เราคิดว่าเราทำไม่ได้ แต่เราก็ทำมันได้สำเร็จ”

คาดหวัง และความรู้สึก อี้-วิลาสินี จันทร์วุฒิวงศ์ หลังจากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ KBank e-Girls
“สิ่งที่อี้คาดหวังจากโครงการ KBank e-Girls คือการที่อี้เก่งขึ้น เเละพร้อมไปด้วยประสบการณ์ทำงานที่มากกว่าตัวอี้ในอดีต
ได้ฝึกฝนทักษะต่างๆ ในการทำงาน ที่สำคัญคือการได้มีสังคมอีกสังคมหนึ่งที่เรียกได้ว่าเป็นครอบครัวที่คอยผลักดันให้อี้เก่งขึ้นในทุกๆ ด้าน พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ในอนาคต ไม่ว่าจะยากหรือง่าย เพราะที่เเห่งนี้ได้ทำให้อี้เป็นผู้หญิงที่เก่งในทุกๆ ด้านค่ะ
ส่วนความเเตกต่าง อี้มองว่าทุกเวทีมีบริบทที่เเตกต่างกัน เเต่ที่ KBank e-Girls เรามองไปที่ความสามารถเเละศักยภาพต่างๆ ในตัวผู้เข้าร่วมเเข่งขัน เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้ผู้หญิงเผยความสวยเเละคุณค่าของตัวเองออกมา เพราะด้วยการหาตัวเเทนภาพลักษณ์ขององค์กร เราจึงให้ความสำคัญความเหมาะสมในทุกๆ ด้าน รวมถึงการเป็นตัวเเทนของผู้หญิงยุคใหม่อีกด้วยค่ะ”
