LVMH แตะเบรกฮุบ Tiffany ท่ามกลางมรสุมและวิกฤตไวรัส (วิเคราะห์)
ข้อตกลงทางธุรกิจของสองบริษัทใหญ่ถึงคราวสะดุดจากผลกระทบของวิกฤตโรคระบาด โดย LVMH เครือแบรนด์หรูยักษ์ใหญ่สัญชาติฝรั่งเศส และบริษัทแม่ของ Louis Vuitton ขอพักการซื้อกิจการ Tiffany แบรนด์เครื่องประดับสัญชาติอเมริกันเอาไว้ก่อน เพราะการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ยอดขายของฝ่ายหลังตกอย่างแรง จนเห็นว่าเงิน 16,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 512,000 ล้านบาท) ที่จะต้องทุ่มลงไปกับการซื้อกิจการตามที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้นั้น ‘แพง’ เกินไป
LVMH เริ่มเดินหน้าซื้อการ Tiffany มาตั้งแต่ปลายปี 2019 เพื่อขยายอาณาจักรแบรนด์หรูและรุกตลาดสหรัฐฯ ซึ่ง Tiffany ก็รับข้อเสนอเบื้องต้นไปแล้ว เพราะเห็นว่าจะช่วยให้ก้าวต่อไปได้และลดผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ และการประท้วงต่อต้านจีนในฮ่องกงที่ขณะนั้นกำลังร้อนแรง
แต่ทว่า “ดีลยักษ์” ครั้งนี้ต้องมาติดไฟแดง หลังจากที่ Tiffany มีอาการทรุดหนักลงไปอีกเพราะวิกฤตโรคระบาดทำให้ยอดขายในจีนหายไปเลยมาพักใหญ่ และราคาหุ้นของ Tiffany ก็ลดลง ประกอบกับฝ่าย LVMH ก็ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโรคระบาดครั้งนี้เช่นกัน จนประสบปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน
นอกจากนี้ LVMH ยังมีความกังวลเรื่องการฟื้นตัวของ Tiffany หากวิกฤตโรคระบาดทุเลาลง เพราะต้องจ่ายค่าเช่าก้อนใหญ่ที่ค้างจ่ายให้เจ้าของที่ระหว่างที่สาขาทั่วโลกปิดชั่วคราว และคงใช้เวลาอีกพักใหญ่กว่าที่ผู้บริโภคจะมีสถานะการเงินดีจนสามารถกลับมาซื้อเครื่องประดับและอัญมณีได้อย่างเคย
จากปัจจัยลบทั้งหมดดังกล่าวจึงต้องจับตามองต่อไปว่า “ดีลยักษ์” ครั้งนี้จะปิดได้ภายในครึ่งแรกของปี 2020 ตามที่ LVMH กับ Tiffany ตกลงกันไว้เบื้องต้นหรือไม่
Bernard Arnault
ส่วนกรณีที่ดีลลงตัวอาณาจักรสินค้าหรูของ LVMH จะได้แบรนด์เครื่องประดับอายุกว่า 180 ปีมาเป็นสมาชิกใหม่ เพิ่มจากสินค้าแฟชั่น นาฬิกา น้ำหอม และสุรา ที่มีอยู่เดิม พร้อมส่งให้ Bernard Arnault ประธานบอร์ดบริหารและ CEO ของ LVMH ขึ้นเป็นมหาเศรษฐีเบอร์หนึ่งของโลก/bbc, yahoo
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ