ปี 2560 ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติมีความต้องการใช้โลหิต 2.4 ล้านยูนิต หรือเฉลี่ยวันละ 2,000 ยูนิต ในขณะที่มาตรฐานการสำรองโลหิตอย่างน้อย 3,000 ยูนิตต่อวัน และปัจจุบันความต้องการโลหิตเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง หมายความว่าในทางทฤษฎีเราอยู่ในภาวะ ‘เสี่ยง’ ขาดแคลนโลหิตสำรอง แต่ในความเป็นจริงเราเกิดภาวะ ‘ขาดแคลนโลหิตสำรอง’ เป็นระยะๆ

“ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติมีหน้าที่จัดหาโลหิตเพื่อส่งต่อไปยังโรงพยาบาลและสถานพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ เราพบว่าปัญหาการขาดแคลนเลือดสำรองในแต่ละแห่งนั้นยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในแต่ละวันนั้นมีผู้ป่วยจำนวนมากที่ต้องการเลือด ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยจากอุบัติเหตุต่างๆ หรือผู้ป่วยที่จำเป็นต้องได้รับเลือดในการรักษา เช่น โรคโลหิตจาง โรคมะเร็ง โรคหัวใจ หรือโรคไต ซึ่งคนไทยทุกคนคงคุ้นตากันดีกับภาพโพสต์ทางสื่อออนไลน์ต่างๆ ที่ญาติพี่น้องมักจะโพสต์ขอให้เพื่อนๆ ช่วยบริจาคเลือดอย่างเร่งด่วนเนื่องจากเลือดไม่เพียงพอ ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ หากมีผู้บริจาคเลือดมากขึ้น” ปิยนันท์ คุ้มครอง หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์และจัดหาผู้บริจาคโลหิต เล่าถึงภาวะขาดแคลนโลหิตในตอนนี้

ปิยนันท์ คุ้มครอง หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์และจัดหาผู้บริจาคโลหิต

ด้วยปัญหาสภาวะขาดแคลนเลือดและความต้องการโลหิตอีกปริมาณมากอย่างต่อเนื่อง เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้เข้าร่วมสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย มาอย่างต่อเนื่องกว่า 27 ปี ผ่านโครงการสำคัญต่างๆ และในปีนี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ร่วมกับ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย สานต่อการจัดโครงการ Let Them See Love เป็นปีที่ 11 ภายใต้แนวคิด “ABABO – The New Blood Project” เพื่อรณรงค์ให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของการให้อย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นการช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ ด้วยการบริจาคโลหิตเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย และเพิ่มปริมาณโลหิตสำรองในคงคลัง

วัลลภ เจียรวนนท์ รองประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์

วัลลภ เจียรวนนท์ รองประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า “การสานต่อโครงการ Let Them See Love มาอย่างต่อเนื่อง ก็เพื่อรณรงค์ให้สังคมในวงกว้างเห็นถึงความสำคัญของ “การให้” อย่างยั่งยืน และต่อเนื่อง เสมือนเป็นหน้าที่ในการช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ ที่ผ่านมาเครือเจริญโภคภัณฑ์ได้ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือสังคมมาโดยตลอด มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ยังสอดคล้องกับแนวทางของสหประชาชาติ (United Nations) สู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals – SDGs) ในด้านส่งเสริมสุขภาพและสุขภาวะที่ดี (Good Health & Well-being) อีกด้วย”

โดยในปีนี้ โครงการ Let Them See Love ยังคงรณรงค์ให้สังคมไทยเห็นความสำคัญของการบริจาคโลหิตมากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่เป็นกำลังสำคัญ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ การสื่อสารโครงการในปีนี้จึงต้องปรับให้น่าสนใจขึ้น ด้วยคอนเซ็ปต์ “ABABO – The New Blood Project” ที่สื่อสารผ่านมุมมองของหนังสั้น

รุ่งฟ้า เกียรติพจน์ ผู้บริหารสำนักบริหารความยั่งยืน ธรรมาภิบาล และสื่อสารองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์

รุ่งฟ้า เกียรติพจน์ ผู้บริหารสำนักบริหารความยั่งยืน ธรรมาภิบาล และสื่อสารองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ เล่าว่า “เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็น Gen Y การรณรงค์การทำความดีด้วยการบริจาคเลือดจึงต้องนำเสนอด้วยรูปแบบใหม่ มี Gimmick ที่น่าสนใจ โดยเราเลือกใช้การเล่าเรื่องผ่านหนังสั้นเรื่อง “ABABO – The New Blood Project” ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ใช้กรุ๊ปเลือดทั้ง 4 กรุ๊ปคือ A,B, AB และ O เป็นโจทย์ในการเขียนบททั้ง 4 เรื่อง 4 แบบ จาก 4 ผู้กำกับเลือดใหม่ เล่าเรื่องราวนิสัยความต่างของคนแต่ละกรุ๊ปเลือด นำแสดงโดยผู้ที่มีกรุ๊ปเลือดนั้นๆ เพื่อกระตุ้นให้สังคมไทย โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ ตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการเป็น “ผู้ให้” และรณรงค์ให้เกิดการบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่อง แก้ปัญหาโลหิตขาดแคลน เพื่อให้มีโลหิตเพียงพอที่จะรองรับการให้ความช่วยเหลือผู้ป่วย สอดคล้องกับหลักการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืนของเครือเจริญโภคภัณฑ์

ผู้กำกับภาพยนตร์และดารานักแสดงจากทั้ง 4 กรุ๊ปเลือดถ่ายภาพร่วมกับทางผู้บริหารของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ทรู คอร์ปอเรชั่น และสภากาชาดไทย

ภาพยนตร์ “ABABO-The New Blood Project” ได้เปิดตัวเปิดตัวรอบปฐมทัศน์ไปเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ทางโครงการฯ ก็ได้เปิดให้ผู้บริจาคโลหิตได้ชมฟรีในระหว่าง วันที่ 28-30 ก.ค. 2560 ณ โรงภาพยนตร์ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ด้วยคอนเซ็ปต์ บัตรประจำตัวผู้บริจาคโลหิต 1 ใบ จะได้รับสิทธิ์ชมภาพยนตร์จำนวน 3 ที่นั่ง เนื่องจากการบริจาคโลหิต 1 ครั้ง สามารถช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ได้ถึง 3 ชีวิตนั่นเอง

ภาพบรรยากาศการนำบัตรประจำตัวผู้บริจาคเลือดมาแลกบัตรชมภาพยนตร์สั้น ABABO

หลังจากเปิดให้รับชมภาพยนตร์สั้นทั้ง 4 เรื่องไปแล้ว ก็ได้รับเสียงตอบรับจากคนดู และผู้บริจาคโลหิตเป็นอย่างดี ทั้งยังมีผู้ที่ยังไม่ได้เข้าชม และสนใจอีกเป็นจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้เพื่อให้เยาวชน และบุคคลทั่วไปได้รับชมหนังสั้น ABABO – The New Blood Project ทางโครงการ Let Them See Love จึงได้เพิ่มช่องทางการชมหนังสั้นผ่านช่องทางแอพ True ID และเว็บไซต์ letthemseelove.com เพื่อให้ทุกคนได้รับรู้ และตระหนักถึงความสำคัญของการบริจาคโลหิตเพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งยังสามารถต่อยอดวัตถุประสงค์ของโครงการได้อย่างยั่งยืน

หากเปรียบกับกลยุทธ์การตลาด แคมเปญ “ABABO-The New Blood Project” ก็เป็นตัวอย่างการปรับรูปแบบการสื่อสารให้เข้ากับเทรนด์และกลุ่มเป้าหมาย และที่สำคัญสามารถสร้างการรับรู้ให้กับกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้เห็นถึงความสำคัญของการเป็น “ผู้ให้” ได้ในวงกว้าง เพียงแต่ผลิตภัณฑ์จากโครงการ Let Them See Love ไม่ใช่การขาย แต่เป็นการรณรงค์ให้คนไทยร่วมบริจาคเลือดทุกๆ 3 เดือนอย่างต่อเนื่อง เพื่อการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์อย่างยั่งยืน

ติดตามข่าวสาร และความเคลื่อนไหวของโครงการได้ที่ www.letthemseelove.com และ www.facebook.com/letthemseelove

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online