เมื่อพูดถึงสีทาอาคารที่มีแบรนด์และคุณภาพของสินค้าเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง คงไม่พ้นแบรนด์สียักษ์ใหญ่ที่อยู่คู่เมืองไทยมายาวนานกว่า 50 ปี อย่าง ‘TOA’ แน่นอน

โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์สีที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เช่น การนำเทคโนโลยีอะครีลิคมาใช้ในสีทาอาคารได้เป็นรายแรกในไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การเปิดตัวนวัตกรรมล่าสุด ‘สีเขียนได้ลบได้’ (TOA Note & Clean) ทำให้ TOA สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ในทุกยุคสมัย และขึ้นแท่นเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์สีทาอาคารรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งการตลาดในปี 2559 ประมาณร้อยละ 48.7 ในประเทศไทย (ข้อมูลจาก Frost & Sullivan) อีกทั้งมีการขยายโรงงานในตลาดอาเซียนเพื่อร่วมชิงส่วนแบ่งในตลาดระดับภูมิภาค

บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เริ่มต้นธุรกิจเมื่อปี 2507 ด้วยการนำเข้าสีจากประเทศญี่ปุ่น ก่อนจะเปิดตัวแบรนด์สินค้าของตนเองภายใต้ชื่อ TOA ในเวลาต่อมา ปัจจุบันบริษัทฯ ได้สร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและเป็นที่จดจำของผู้บริโภคอย่างแพร่หลาย โดยมีการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิต ผ่านช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทย โดยมีเครือข่ายผู้ค้าปลีกประมาณ 6,080 ร้าน ครอบคลุม 77 จังหวัด 787 อำเภอ (ข้อมูล ณ 31 มี.ค. 2560) โดยผลิตภัณฑ์ของ TOA แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม

สำหรับภาพรวมของธุรกิจค้าปลีกสีทาอาคารในไทย ซึ่งเป็นรายได้หลักของ TOA พบว่ามีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2559 มีมูลค่าตลาดรวมกว่า 19,201.3 ล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 24,603.2 ล้านบาทในปี 2564 ตามข้อมูลของ Frost & Sullivan ส่วนตลาดในภูมิภาคอาเซียน บริษัทฯ มีส่วนแบ่งการตลาดผลิตภัณฑ์สีและสารเคลือบผิวในปี 2559 อยู่ที่ 13% และยังมีโอกาสสร้างรายได้เพิ่มจากการเข้าไปพัฒนาตลาดและขยายการลงทุนจัดตั้งโรงงานในแต่ละประเทศ จึงนับเป็นความท้าทายของ TOA ในการวางยุทธศาสตร์ ท่ามกลางคู่แข่งทั้งในและต่างประเทศ

ทั้งนี้ การขยายตัวของเมืองและไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการแยกครอบครัวไปมีที่อยู่อาศัยของตัวเอง มีส่วนทำให้อุปสงค์ของที่อยู่อาศัยใหม่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลดีต่อธุรกิจที่เกี่ยวกับการก่อสร้างโดยตรงอย่าง TOA ไปโดยปริยาย นอกจากนี้ ภาครัฐยังมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจโดยใช้งบประมาณ 10,000 ล้านบาท ให้ผู้มีรายได้น้อยและผู้ที่ถูกสถาบันการเงินอื่นปฏิเสธการขอสินเชื่อมีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อการก่อสร้างที่อยู่อาศัยและความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์สีทาอาคาร และผลิตภัณฑ์สีและสารเคลือบผิวและผลิตภัณฑ์ประเภทอื่น

ระยะเวลากว่าครึ่งศตวรรษที่ผ่านมาเป็นบทพิสูจน์ที่ชัดเจนแล้วว่า TOA เป็นตัวจริงในอุตสาหกรรมสีในประเทศไทย โดยมีคุณภาพของผลิตภัณฑ์และแบรนด์ที่แข็งแกร่ง ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภค เป็นสิ่งที่การันตีถึงความสำเร็จในเส้นทางธุรกิจของ TOA และเป็นกุญแจดอกสำคัญที่จะพาบริษัทฯ ก้าวสู่การเป็นผู้นำตลาดสีในภูมิภาคอาเซียนที่น่าจับตามอง

 

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ http://investor.toagroup.com/ipo

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online