โควิดพ่นพิษหนักปลายปีหลัง 40 ประเทศ ห้ามเครื่องบินอังกฤษเข้าประเทศ และกระทบถึงวงการน้ำมันกับภาพยนตร์
วิกฤตโควิดกลับมาครองพื้นที่สื่ออีกครั้ง ท่ามกลางความกังวลเรื่องสถานการณ์การระบาดในอังกฤษ โดยการกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 ในอังกฤษ กำลังเป็นสิ่งที่ทั่วโลกกังวล จนจำนวนประเทศที่สั่งห้ามการเดินทางด้วยเครื่องบินจากสหราชอาณาจักรเพิ่มเป็น 40 ประเทศ และยังเป็นข่าวร้ายที่กระทบเป็นวงกว้างต่อหลายธุรกิจ
วานนี้กลุ่มประเทศในยุโรป เช่น ฝรั่งเศส อิตาลี และเนเธอร์แลนด์ รวมถึงในทวีปอเมริกาอย่างสหรัฐ และตะวันออกกลาง เช่น ซาอุดิอาระเบีย ได้สั่งห้ามเที่ยวบินจากสหราชอาณาจักร หลังโควิด-19 กลายพันธุ์ สามารถแพร่กระจายได้เร็วขึ้น 70%
มาวันนี้ อินเดีย เบลเยียม อิหร่าน ฮ่องกง และอีกหลายประเทศก็สั่งห้ามเช่นกัน จนจำนวนประเทศที่ประกาศใช้มาตรการนี้เพิ่มเป็น 40 ประเทศ ทว่าอังกฤษไม่ได้เป็นประเทศเดียวที่โควิด-19 กลายพันธุ์
การกลายพันธุ์ของโควิด-19 ในแอฟริกาใต้ ทำให้อัตราการระบาดเพิ่มขึ้น จากราว 7 คนต่อประชากร 100,000 คน เป็น 15 คนต่อประชากร 100,000 คน จนเนเธอร์แลนด์ เยอรมนี ตุรกี และปานามา สั่งห้ามเที่ยวบินจากแอฟริกาใต้แล้ว
สถานการณ์ดังกล่าวถือเป็นข่าวร้ายฉุดหุ้นสายการบินในหลายประเทศลดลง จนดัชนีสำคัญทั้งในเอเชีย สหรัฐและยุโรป ร่วงสู่แดนลบ วันนี้ดัชนี Nikkei ของญี่ปุ่น เปิดลบ ลดลง 0.85% โดยจากเหตุผลเดียวกันฉุดให้วานนี้ดัชนี Nasdaq ของสหรัฐ และ FTSE ของอังกฤษ ปิดลบ ลดลง 0.1% และ 1.7% ตามลำดับ
ด้านอุตสาหกรรมน้ำมันก็มองว่าการระบาดปลายปีนี้จะกระทบต่อธุรกิจ โดย Shell ประเมินว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้การเดินทางลดลง ชะลอการขุดเจาะน้ำมัน และฉุดราคาน้ำมันให้ลดลง จนที่สุดทำให้สินทรัพย์ในธุรกิจน้ำมันและแก๊สธรรมชาติเสื่อมค่า มูลค่าลดลง 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 136,000 ล้านบาท)
ส่วนอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ก็ต้องฝ่าวิกฤตครั้งนี้ด้วยการปรับตัวครั้งใหญ่เพื่อแก้ปัญหาเลื่อนฉาย ใช้ Hybrid Model ส่งหนังลง Streaming Platform ในประเทศที่สถานการณ์การระบาดยังรุนแรง อย่างสหรัฐ
และฉายโรงในประเทศแถบเอเชียที่สถานการณ์ดีขึ้น เช่นที่ Disney กับ Warner เริ่มใช้แล้วกับ Mulan และ Wonder Woman 1984
อย่างไรก็ตามล่าสุดมีหนึ่งในค่ายหนังใหญ่ที่อาจ “ไม่รอด” จากวิกฤตครั้งนี้ โดยล่าสุดมีรายงานว่า MGM กำลังเตรียมขายกิจการ หลังหนังฟอร์มใหญ่หลายเรื่องโดยเฉพาะ 007 : No Time to Die ต้องเลื่อนฉายไปเป็นปีหน้า ท่ามกลางการประเมินว่า Deal นี้อาจมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 5,500 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 166,000 ล้านบาท) / cnbc, reuters, cnn, bbc, theguardian
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline



