Douyin แอปในเครือ ByteDance เจ้าของเดียวกับ TikTok ฟ้องค่าเสียหายก้อนใหญ่จาก Tencent ที่สั่งห้ามแชร์คอนเทนต์ลง WeChat และ QQ
ขณะที่ศึกนอกของ Tech Brand จีนลดความร้อนแรงลง ศึกในรอบใหม่ก็ปะทุขึ้น โดย Douyin บริษัทในเครือ ByteDance ยื่นฟ้อง Tencent ต่อศาลดูแลคดีทรัพย์สินทางปัญญาทางการจีน เพราะเห็นว่าการที่ Tencent ห้ามแชร์คอนเทนต์จาก Douyin เป็นการปิดกั้นข้อมูลและกำจัดคู่แข่ง

ปี 2020 ที่เพิ่งจบไปจีนปรากฏเป็นข่าวตามสื่อทั่วโลกอยู่บ่อยครั้ง ทั้งเรื่องวิกฤตโควิดและความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ในแวดวงเทคโนโลยี ที่ต้องยอมรับว่าจีนขึ้นมาเป็นมหาอำนาจใหม่แล้วอย่างเต็มตัว จนรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดก่อนของอดีตประธานาธิบดี Donald Trump ใช้มาตรการมากมาย เพื่อลดอิทธิพลและลดการขาดดุลการค้า
เป้าหมายหลักที่ทางการสหรัฐฯ โจมตี คือบริษัทเทคโนโลยีจีนใหญ่ ๆ อย่าง Huawei, Alibaba, Tencent และ ByteDance แต่เพื่อไม่ให้โดนโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว จีนจึงตอบโต้และบานปลายกลายเป็นสงครามการค้า

ทว่าช่วงปลายปี 2020 บริษัทเทคโนโลยีจีนก็ต้องสู้กับศึกอีกด้าน หลังรัฐบาลจีนที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ครองอำนาจมานาน ใช้มาตรการจำกัดอิทธิพลของบริษัทเทคโนโลยี และเริ่ม ‘เชือดไก่’ เรียกตัวผู้บริหารของ Ant Group ในเครือ Alibaba มาให้สอบสวนเรื่องการผูกขาดการค้า และ ‘สั่งเบรก’ IPO คู่ของ Ant Group
Jack Ma
ในความเคลื่อนไหวดังกล่าว ยังมีอีกเรื่องที่ทั่วโลกจับตามอง โดย Jack Ma ผู้ก่อตั้งและอดีต CEO ของ Alibaba หายตัวไปเกือบ 3 เดือน ท่ามกลางการคาดการณ์ว่า นี่เป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายสองตัวของทางการจีน เพราะได้ทั้งปราม Jack Ma และส่งสัญญาณไปยังบริษัทเทคโนโลยีจีนว่าอย่าท้าทายอำนาจ
ล่าสุดเกิดศึกในขึ้นในหมู่แบรนด์จีนด้วยกันเอง โดย Douyin บริษัทและแอปชื่อเดียวกันในเครือ ByteDance (ที่ยังเป็นเจ้าของ TikTok ด้วย) ยื่นฟ้อง Tencent ต่อศาลดูแลคดีทรัพย์สินทางปัญญา
เพราะเห็นว่าการที่ Tencent ห้ามผู้ใช้แชร์คอนเทนต์จาก Douyin ใน QQ และ WeChat ถึง 3 ปี เป็นการปิดกั้นข้อมูลผู้ใช้ กำจัดคู่แข่ง และทำตัวมีอิทธิพลเหนือตลาด

พร้อมกันนี้ Douyin ยังได้ยื่นฟ้องร้องค่าเสียหายเป็นเงิน 90 ล้านหยวน (ราว 4,400 ล้านบาท) อีกด้วย ทันทีที่ทราบข่าว Tencent ก็ไม่อยู่เฉย โดยได้ขู่จะยื่นฟ้องกลับ หากคู่กรณีไม่ถอนฟ้อง และระบุว่าเป็นการใส่ร้ายป้ายสี

เหตุการณ์ดังกล่าวย้ำความเป็นคู่ปรับของ ByteDance กับ Tencent ที่เริ่มขึ้นเมื่อปี 2018 หลัง ByteDance รุกตลาด Gaming ที่ Tencent เป็นเบอร์ใหญ่ ผ่านการซื้อกิจการค่ายเกมหลายแห่ง ทำให้ Tencent มองว่าตนถูกลูบคม

ศึกระหว่าง ByteDance กับ Tencent ร้อนแรงขึ้นอีก โดยครึ่งแรกของปี 2019 ByteDance ทำเงินจากการโฆษณาในแพลตฟอร์มได้เพิ่มขึ้น เป็นอันดับ 3 รองจาก Tencent และ Baidu เช่นเดียวกับจำนวนผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว
ตามข้อมูลระบุว่า Douyin มีผู้ใช้เป็นประจำต่อวัน (Active User) อยู่ที่ 600 ล้านคน ส่วน WeChat กับ QQ ของ Tencent มี Active User อยู่ที่ 1,200 ล้านคน และ 700 ล้านคนต่อเดือนตามลำดับ

ศึกระหว่าง ByteDance กับ Tencent ต้องตามต่อ ทั้งในเรื่อง ‘อาวุธ’ ที่แต่ละฝ่ายงัดมาสู้กัน และท่าทีของ ‘กรรมการ’ อย่างรัฐบาลจีน ว่าจะเลือกจัดการกับฝ่ายไหนก่อน และจัดการอย่างไร แต่ฝ่ายที่จะชนะในศึกนี้ดูจะเป็นทางการจีน เพราะได้ปราม Tech Brand ภายใต้กฎหมายไปแบบเนียน ๆ/bloomberg, cnn, wikipedia, cnbc, yahoo


–
