แม้ธุรกิจของเทเลนอร์เมียนมา จะเป็นประเทศที่สร้างรายได้ให้กับเทเลนอร์มากถึง 7,069 ล้านโครนนอร์เวย์ หรือประมาณ 26,100 ล้านบาท จากฐานลูกค้า 16.24 ล้านราย พร้อมกับส่วนแบ่งตลาด 28% ในตลาดมือถือเมียนมาในปีที่ผ่านมาก็ตาม

แต่ด้วยสถานการณ์รัฐประหารเมียนมาตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ท้าทายธุรกิจในทุก ๆ วัน ทั้งการจำกัดการให้บริการ การปิดเครือข่าย

จนในไตรมาสแรกของปี 2564 เทเลนอร์เมียนมาจึงเป็นธุรกิจฉุดผลประกอบการเทเลนอร์จากกำไรในไตรมาสแรกปี 2563 ที่ 698 ล้านโครนนอร์เวย์ หรือประมาณ 2,580 ล้านบาท

เป็นขาดทุน 3,889 ล้านโครนนอร์เวย์ หรือประมาณ 14,360 ล้านบาท

การขาดทุนนี้มาจากการประกาศด้อยค่าสินทรัพย์ลงทุนทางบัญชีเต็มจำนวนถึง 6,500  ล้านโครนนอร์เวย์ หรือประมาณ 24,000 ล้านบาท

 

และในอนาคตเทเลนอร์ประเมินสถานการณ์ที่เมียนมาว่าไม่มีทางที่จะดีขึ้น

 

ทำให้เทเลนอร์ตัดสินใจขายธุรกิจในเมียนมา ที่เข้ามาเปิดตลาดตั้งแต่ปี 2557 ทิ้งให้กับ M1 Group บริษัทโฮลดิ้งจากเลบานอน

ในมูลค่า 105 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3,400 ล้านบาท เพื่อพาตัวเองหลุดพ้นจากวิกฤตดังกล่าว

 

โดย M1 Group มี นาจิบ อัซมี มิกาติ อดีตนายกรัฐมนตรีเลบานอน และน้องชาย เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่

 

การขายในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่กับทางการเมียนมาอนุมัติ


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer