เปิดกลุยทธ์ “PTT Station” ครองที่หนึ่งในใจผู้บริโภค ด้วย LIVING COMMUNITY “เติมเต็มทุกความสุขชีวิต”

สินค้าและบริการ ถือเป็นหัวใจสำคัญของ PTT Station ซึ่งเราได้มุ่งมั่นพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง

บุญมา พนธนกรกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ กล่าวเปิดการสนทนากับ Marketeer ในโอกาสที่ PTT Station คว้ารางวัล Marketeer No.1 Brand Thailand 2019-2020 แบรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ในหมวดสถานีบริการน้ำมัน ซึ่งนับเป็นปีที่ 10 ติดต่อกัน

ศูนย์กลางของทุกความสุขสำหรับทุกคน

เรานำจุดแข็งเดิมในเรื่องคุณภาพสินค้าและบริการ มาผสมผสานกับความต้องการของชุมชน เพื่อพัฒนา PTT Station ให้เป็นสถานีที่เป็นศูนย์กลางของชุมชนในการเติมเต็มทุกความสุขให้กับผู้คน สังคมชุมชน และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

คุณบุญมา เล่าถึงแก่นการพัฒนาของ PTT Station ที่ใช้ คุณภาพสินค้าและบริการ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งหลักของแบรนด์ มาพัฒนาต่อยอดเติมเต็มในจุดต่าง ๆ ซึ่งประกอบด้วย 3 แกนหลัก ดังนี้

ผลิตภัณฑ์น้ำมันที่มีคุณภาพ

PTT Station ทำการสำรวจและวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภคอยู่ตลอดเวลา เพื่อคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำมันที่มีคุณภาพสูงสุด และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างเต็มที่

ยกตัวเอย่างเช่น การเปิดตัวน้ำมันกลุ่มเบนซินและ GSH สูตรใหม่ภายใต้ชื่อ “XtraForce” ในช่วงต้นปี 2563 และในส่วนของดีเซล ภายใต้ชื่อ “Ultraforce” ที่เปิดตัวไปเมื่อต้นปี 2561 ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก สะท้อนได้จากส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ต่อเนื่องยาวนาน และมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะน้ำมันดีเซลพรีเมียม “Ultrafore Diesel Premium” ซึ่งเป็นน้ำมันที่ได้มาตรฐาน Euro 5 ที่สำคัญนอกจากเป็นน้ำมันคุณภาพเยี่ยมแล้วยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

สถานีบริการที่มีความครบครันและสร้างคุณค่าให้กับชุมชน

ที่ผ่านมา PTT Station ให้ความสำคัญในการเป็นมากกว่าสถานีบริการน้ำมัน ตามแนวคิด “ความสุขหลากสไตล์ในที่เดียว” (Life Station) ซึ่งเน้นความครบครัน ด้วยการเพิ่มความหลากหลายของสินค้าและบริการในสถานี รวมทั้งเพิ่มพื้นที่สีเขียว เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคได้อย่างเต็มรูปแบบ

อย่างไรก็ดี ในปัจจุบัน PTT Station ได้ดำเนินกลยุทธ์ด้วยการยกระดับรูปแบบการให้บริการ ก้าวไปสู่การเป็นสถานีบริการน้ำมัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ Living Community หรือ สถานีที่เป็นศูนย์กลางของชุมชนที่เติมเต็มทุกความสุข ยกระดับคุณภาพชีวิต ให้ชุมชนสังคมและใส่ใจสิ่งแวดล้อม ด้วยการพัฒนารูปแบบทางธุรกิจเพื่อส่วนรวม

ซึ่งนอกจากจะมีสินค้าและบริการที่ครบครัน ยังเปิดโอกาสให้ชุมชนร่วมออกแบบ Platform ในการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์และต่อยอดช่องทางจำหน่าย รวมทั้งแบ่งปันพื้นที่อย่างสร้างสรรค์ เพื่อ PTT Station จะร่วมเป็นอีกแรง และเป็นสื่อกลางที่จะมอบคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับคนในชุมชนได้อย่างเป็นจริงและยั่งยืน

การบริการที่มีการพัฒนาอยู่เสมอ

PTT Station ได้มีการกำหนดกระบวนการบริการ และมีหลักสูตรการอบรมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงได้นำข้อร้องเรียนข้อเสนอแนะต่าง ๆ มาปรับกระบวนการบริการและเพิ่มเติมหลักสูตรการอบรมให้พนักงานทุกคนในสถานี เน้นการให้บริการที่สร้างความประทับใจให้กับลูกค้ามากกว่าเดิมในทุก ๆ จุด

ที่ต้องชื่นชมอย่างมาก คือ การมาตรการรับมือในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่นำเสนอมาตรการ “วัด-เว้น-ไว” ที่ออกแบบมาสำหรับการใช้ชีวิตแบบ New Normal เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการใน PTT Station อีกด้วย

โดยทำการ วัด – วัดอุณหภูมิพนักงานก่อนให้บริการ และวัดอุณหภูมิลูกค้าที่มาใช้บริการร้านค้าต่าง ๆ เว้น –เว้นระยะห่างการให้บริการ เช่น การจ่ายเงิน QR Code เครื่องจ่ายบัตรเครดิตไร้สาย และจัดสถานที่ต่าง ๆ เว้นระยะห่างตามข้อกำหนดความปลอดภัย ไว – ว่องไวทุกการให้บริการ ทั้งการบริการเติมน้ำมัน ความสะอาดปลอดภัยในจุดต่าง ๆ

ปรับเปลี่ยนการให้บริการ รับความต้องการยุค New Normal

ในส่วนของปัญหาและอุปสรรคในปีที่ผ่านมานั้น ผู้บริหาร PTT Station เล่าว่า ประเด็นสำคัญคือ การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ทำให้เกิดวิถีการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ (New Normal) ซึ่งส่งผลให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคและความคาดหวังต่อการเข้าใช้บริการที่สถานีบริการน้ำมัน ผู้บริโภคกังวลต่อ COVID-19 และใส่ใจในเรื่องสุขอนามัยมากขึ้น

อย่างไรก็ดี PTT Station ได้ปรับเปลี่ยนการให้บริการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และสร้างความปลอดภัยให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ผ่านมาตรการ “วัด-เว้น-ไว” ดังที่กล่าวข้างต้น ซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดีว่า ทุกครั้งที่เข้ามาใช้บริการที่ PTT Station จะปลอดภัยและไร้กังวล

อีกจุดหนึ่งของการปรับตัวรับ New Normal คือการมองหาธุรกิจใหม่ๆ ในสถานีบริการน้ำมัน ที่สอดคล้องกับความต้องการผู้บริโภคและสถานการณ์ในปัจจุบันที่ลูกค้าเดินทางลดลงและเข้ามาใช้บริการน้อยลง

ซึ่งผู้บริหาร PTT Station กล่าวว่า ได้มองเห็นการเติบโตของธุรกิจการสั่งซื้ออาหารผ่านช่องทางออนไลน์ (Food Delivery) ที่มียอดผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด ทำให้เห็นโอกาสในการปรับโมเดลและผลักดัน PTT Station ให้เป็น Hub หรือจุดศูนย์กลางที่รวมร้านอาหารเด็ด ๆ มากมายไว้ในที่เดียว เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค โดยได้เริ่มให้บริการแล้วที่ PTT Station สาขามัยลาภ โดยเป็นความร่วมมือของ PTT Station และ Line Man ซึ่งเปิดให้บริการ Cloud Kitchen และจะมีการต่อยอดโมเดลธุรกิจใหม่นี้ ในสาขาอื่นๆ เพิ่มขึ้นอีกในอนาคต

นอกจากนี้ ในฐานะผู้นำธุรกิจสถานีบริการน้ำมันที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และวิถีชีวิตของคนยุคใหม่ ผ่านสินค้าและบริการที่ครบครัน PTT Station ได้ให้ความสำคัญกับพลังงานทางเลือก ตามเทรนด์การเติบโตของธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในประเทศไทย โดยเป็นผู้ริเริ่มการจำหน่ายและให้บริการมาโดยตลอด

ซึ่งในปัจจุบัน PTT Station พร้อมปลั๊กอินความสุข เติมเต็มทุกเส้นทาง ด้วยการลงทุนและติดตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้า “EV Station PluZ” ภายในสถานีบริการน้ำมัน 31 แห่ง ซึ่งจะสามารถรองรับการชาร์จไฟได้ทั้งแบบ Normal Charge และ Quick Charge และยังมีแผนการขยายการติดตั้งรวมอีกกว่า 300 แห่ง ภายในปี 2565 ครอบคลุมเส้นทางหลัก ชุมชน แหล่งท่องเที่ยว หรือพื้นที่ที่มีศักยภาพเพื่อรองรับเทรนด์ของรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และได้อำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการในยุค Digital ผ่านการใช้งาน Application EV Station ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาสถานีชาร์จ การจองหรือควบคุมการชาร์จด้วยตนเอง การชำระค่าบริการรูปแบบออนไลน์ เพื่อความสะดวก รวดเร็ว และแม่นยำอีกด้วย เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้ใช้รถ EV และสอดรับกับนโยบายภาครัฐที่ผลักดันการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าอีกด้วย

ความต้องการของลูกค้าคือหัวใจสำคัญในการพัฒนาสินค้าและบริการ

เราไม่เคยหยุดนิ่งกับสิ่งเดิมๆ การมองหากลยุทธ์ใหม่ๆ ออกมาตลอดเวลาเพื่อให้ลูกค้าพึงพอใจที่สุด โดยเราเอาความต้องการลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญ

ผู้บริหาร PTT Station กล่าวกับ Marketeer เพื่อเราถามถึงกลยุทธ์ในการรักษาความเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งคำตอบที่ได้คือ เน้นไปที่การพัฒนาสินค้าและบริการต่าง ๆ โดย ให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก (Customer Centric)

“ลูกค้าต้องได้รับคุณค่าและความสะดวกสบายมากขึ้น เพราะเรามองว่า หากตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มาก ยิ่งมีโอกาสสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันได้มากเช่นกัน อย่างไรก็ตาม PTT Station ไม่ได้มุ่งที่ลูกค้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เรายังให้ความสำคัญกับการพัฒนาชุมชนสังคมและสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปด้วย เพราะเรามองว่า เราต้องสร้างคุณค่าให้กับผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมด จึงจะเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืน”

สำหรับรูปแบบและการบริการ ของ PTT Station จะยังคงแนวคิด “เป็นมากกว่าสถานีบริการน้ำมัน” โดยมุ่งหวังให้ PTT Station เป็น Platform ที่จะสามารถเติมเต็มทุกความสุขให้กับทุกคน ทั้งลูกค้า สังคมชุมชน และสิ่งแวดล้อม โดยนำทั้งความต้องการของลูกค้าและ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholder) ทุกภาคส่วน เข้ามาพัฒนาสินค้าและบริการใน PTT Station ให้ตอบโจทย์ลูกค้า และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับสังคมชุมชน

นอกจากนี้ ยังมีแผนการพิจารณาทำเลในการเปิด PTT Station ให้เข้าถึงลูกค้าและสังคมชุมชนมากที่สุด รวมทั้งมองหาโอกาสในการต่อยอดในการสร้างธุรกิจใหม่ ๆ ภายในสถานีฯ ไม่ว่าจะเป็นที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน ร้านค้าปลีก พลังงานทางเลือก รวมทั้ง สินค้าและบริการอื่น ๆ ซึ่งผู้บริหาร PTT Station กล่าวทิ้งท้ายว่า