“ผมเชื่อว่าการดำเนินงานทางด้าน Sustainable Development ไม่ใช่หน้าที่ของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง แต่ต้องเกิดขึ้นจากความร่วมมือของทุกคนภายในองค์กร สำหรับผม “Sustainability is Tone from the Top” ผู้บริหารระดับสูงจะต้องเป็นผู้นำทัพหลักในการผลักดัน และสื่อสารอย่างจริงจัง กลับไปหากลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกฝ่าย”

ประโยคข้างต้น คือส่วนหนึ่งของบทสนทนาระหว่าง Marketeer กับ สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ถึงประเด็นขับเคลื่อนองค์กรเพื่อสร้างสังคมดีอย่างยั่งยืน

นอกจากมิติธุรกิจ อีกสิ่งสำคัญที่ ‘เอไอเอส’ ผู้นำธุรกิจ Cognitive Telco ให้ความสำคัญมากขึ้น คือการผลักดันเรื่อง Sustainability ที่ไม่ใช่แค่เพียงการป้องกันความเสี่ยง หรือเพียงเพราะเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ แต่เอไอเอสมองว่านี่คือ “โอกาส”

ย้อนกลับไปในปี 2557 ภายใต้บริบทของโลกใหม่ที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
เอไอเอส ในฐานะผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำของประเทศ ได้ Transformation องค์กรครั้งใหญ่ เคลื่อนตัวจาก Telecom Operator สู่ Digital Life Service Provider ล่าสุดเมื่อปลายปี 2564 ได้ประกาศยกระดับสู่ Cognitive Telco การเป็นองค์กรโครงข่ายอัจฉริยะ ที่นอกจากจะมุ่งมั่นในการลงทุนสร้างรากฐานธุรกิจดิจิทัลเพื่อการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคตแล้ว

อีกหนึ่งเป้าหมายที่เป็นพันธกิจหัวใจสำคัญของเอไอเอส คือ การนําศักยภาพด้านเทคโนโลยี การสื่อสารและระบบดิจิทัล เข้าไปยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดียิ่งขึ้น โดยดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนครอบคลุมในทุกๆ มิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

Sustainability is New Opportunities

นับตั้งแต่ปี 2557 ที่ สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ขึ้นดำรงตำแหน่ง CEO หัวเรือใหญ่ของเอไอเอส ทิศทางการดำเนินธุรกิจนอกจากเรื่องการเติบโตและผลประกอบการ ความมุ่งมั่นและผลักดันพันธกิจร่วมสร้างสังคมดีอย่างยั่งยืนอย่างเต็มที่คือหนึ่งในเป้ามหายสำคัญที่ต้องทำควบคู่กัน

“เรื่อง Sustainability is BUSINESS MODEL with purpose” ในที่นี้ผมหมายถึง “เอไอเอสได้เริ่มต้นแนวทางด้านความยั่งยืนมายาวนาน ในช่วงที่ผมขึ้นมาเป็น CEO ก็ได้ให้แนวทางเน้นการสร้างความยั่งยืนที่เน้นการสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้แก่องค์กร พัฒนานวัตกรรมและใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจสังคมและสิ่งแวดล้อม” สมชัย กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของ Sustainability Journey ของการดำเนินธุรกิจของเอไอเอส

“ผมเชื่อว่าการดำเนินงานทางด้าน Sustainable Development ไม่ใช่หน้าที่ของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง แต่ต้องเกิดขึ้นจากความร่วมมือของทุกคนภายในองค์กร สำหรับผม “Sustainability is Tone from the Top” ผู้บริหารระดับสูงจะต้องเป็นผู้นำทัพหลักในการผลักดัน และสื่อสารอย่างจริงจัง กลับไปหากลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็น “ลูกค้า ผู้ถือหุ้น พนักงาน และสังคม”  ซึ่งถือเป็น 4 กลุ่มสำคัญที่จะร่วมขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน

“ที่สำคัญ การจะดำเนินการผลักดันเรื่อง Sustainability ไม่ใช่แค่การป้องกันความเสี่ยง หรือเป็นหน้าที่ที่เราต้องทำเท่านั้น สำหรับเอไอเอสนั้น การดำเนินธุรกิจเรื่องความยั่งยืน คือ ‘โอกาส’

สมชัย ยกตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น เช่น ประเด็นด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เอไอเอสตระหนักถึงความเสี่ยงและ “โอกาส” ในการพัฒนาต่อยอดความเชี่ยวชาญเพื่อพัฒนาบริการไอซีที IoT และระบบ Cloud ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตลอดจนการพัฒนาระบบวิเคราะห์และแจ้งเตือนภัยพิบัติทางธรรมชาติซึ่งช่วยจํากัดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากวิกฤติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อลูกค้า ผู้ประกอบการและสังคม

นั่นคือการผลักดันเรื่อง Sustainability ในแบบของเอไอเอส โดยตลอดระยะเวลากว่าศตวรรษที่ผ่านมา เอไอเอส มุ่งมั่น ตั้งใจดำเนินธุรกิจตามกรอบการพัฒนาอย่างยั่งยืน มองประเด็นต่าง ๆ ทั้งในแง่ความเสี่ยงและโอกาสตาม “แนวทางกลยุทธ์ 3 มิติ เพื่อสร้างการเติบโตร่วมกันของคนและสิ่งแวดล้อมในโลกดิจิทัล” คือ

  • ครอบคลุมในมิติการขับเคลื่อนดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ (Drive Digital Economy)
  • สร้างการเข้าถึงดิจิทัลให้ทุกคนในสังคม (Promote Digital Inclusion)
  • การยืนหยัดเพื่อสิ่งแวดล้อม (Act on Climate) ผ่านภารกิจหลัก AIS อุ่นใจ Cyber และ คนไทยไร้ E-Waste

AIS อุ่นใจ Cyber: เครือข่ายอัจฉริยะ ฉลาด รู้ใจ และ ปลอดภัย

ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารเข้าถึงได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว การจะสร้างสังคมที่ดีอย่างยั่งยืน รากฐานโครงสร้างคือสิ่งสำคัญ หนึ่งในนั้นคือ ความตระหนักรู้ของผู้ใช้งานโลกออนไลน์

เมื่อปี 2562 เอไอเอสได้ริเริ่มโครงการ “AIS อุ่นใจ Cyber” ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อมุ่งสร้างความตระหนักรู้และภูมิคุ้มกันต่อภัยไซเบอร์ ส่งเสริมการพัฒนาทักษะความฉลาดทางดิจิทัลผ่านบทเรียนออนไลน์ให้กับกลุ่มเยาวชน และสนับสนุนเครื่องมือดิจิทัลที่คัดกรองเนื้อหาออนไลน์ที่ไม่เหมาะสมรวมถึงข้อแนะนำการใช้งานโลกไซเบอร์ได้อย่างเหมาะสม

เริ่มตั้งแต่ การให้บริการ AIS Secure Net และ AIS Fibre Secure Net ที่ปกป้องลูกค้าจากภัยด้านไซเบอร์ผ่านโครงข่ายโทรคมนาคม (network-based security solution) ซึ่งช่วยให้เอไอเอสเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีความเสี่ยงต่อภัยด้านไซเบอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากสามารถใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องลงแอปพลิเคชัน นอกจากนี้ยังร่วมเป็นพันธมิตรกับ Google เพื่อเผยแพร่และส่งเสริมการใช้งานแอปพลิเคชัน Family Link ที่ให้ผู้ปกครองสามารถดูแลและฝึกการใช้อินเทอร์เน็ตของบุตรหลานอย่างเหมาะสม

ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างยั่งยืน เอไอเอสได้ ร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และสำนักคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในการพัฒนาสื่อการเรียนรู้ดิจิทัลหลักสูตร “อุ่นใจไซเบอร์” เพื่อเป็นแหล่งการเรียนรู้ออนไลน์ในการพัฒนาทักษะทางดิจิทัลและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันภัยทางไซเบอร์ให้แก่เด็ก เยาวชนและคนไทยทุกเพศทุกวัย

โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ เพื่อให้เด็กและเยาวชนรู้เท่าทันโลกออนไลน์และใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเรียนรู้ได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ผ่านทางเว็บไซต์ https://learndiaunjaicyber.ais.co.th หรือ แอปพลิเคชัน อุ่นใจ CYBER

คนไทยไร้ E-Waste: พันธกิจรักษาสิ่งแวดล้อม

ในมิติของพันธกิจรักษาสิ่งแวดล้อม เอไอเอส ยังดำเนินการนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมโดยการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพควบคู่ไปกับการใช้พลังงานทางเลือกเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และที่สำคัญร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ ในการสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Waste ผ่านโครงการ คนไทยไร้ E-Waste โดยสามารถนำขยะอิเล็กทรอนิกส์เข้าสู่กระบวนการจัดการที่ถูกต้องตามมาตรฐานไปแล้วกว่า 278,043 ชิ้น” (นับถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564)

“เอไอเอส อาสาเป็นแกนนำในการปลูกจิตสำนึกและเชิญชวนให้คนไทยทิ้งขยะอิเล็กทรอกนิกส์อย่างถูกวิธี  ในการนำส่งขยะอิเล็กทรอนิกส์เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลและกำจัดอย่างถูกวิธี ซึ่งได้ร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตร ขยายจุดรับทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์กว่า 2,400 จุดทั่วประเทศ และยังคงมุ่งหน้าดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่อง”

โดยเอไอเอสได้ขับเคลื่อนโครงการ คนไทยไร้ E-Waste ผ่าน 2 กลยุทธ์สำคัญ คือ

1.ร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อเพิ่มช่องทางการทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ให้คนไทยสามารถทิ้งได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ไปรษณีย์ไทย กับโครงการ “ฝากทิ้งกับไปรษณีย์”

2. สร้างการรับรู้ให้คนไทยเห็นถึงความสำคัญของการทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธีและเชิญชวนให้มีส่วนร่วมกับโครงการฯ ผ่านกิจกรรมพิเศษตลอดทั้งปี

“ตลอดระยะเวลา AIS Sustainability Journey สำหรับเอไอเอส ทำให้เราได้เรียนรู้ว่า การดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืนนั้น ไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากการทำงานของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง แต่ต้องอาศัยแรงผลักดันจากความร่วมมือของทุกคนภายในองค์กร สังคม ตลอดจนคนไทยทุกคน”­ สมชัย กล่าวทิ้งท้าย

 

 


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer