Mobile Payment & Ecommerce มาแรง
ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ใช้งานมือถือ 100 ล้านเลขหมาย 50 ล้านเลขหมายเป็นสมาร์ทโฟนและเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการเป็นดีไวซ์ที่ตอบโจทย์ชีวิต On the goที่เข้ามาเปลี่ยนชีวิตและพฤติกรรมคนทั่วโลกไม่เว้นแต่ประเทศไทย
มาพร้อมกับพฤติกรรมคนไทยช็อปออนไลน์มากขึ้น และมือถือคือช่องทางหนึ่งที่ได้รับความนิยมในการซื้อสินค้าและบริการ รวมถึงเป็นช่องทางในการโอนเงินถึงร้านค้า ทำให้ตลาดอีคอมเมิร์ซหรือช็อปปิ้งออนไลน์เติบโตมากกว่า 20% ในแต่และปี ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกับการเติบของการบริการ Mobile Payment ที่เติบโตเฉลี่ยปีละ 20% และอีมันนี่ที่เติบโต 59% ระหว่างปี 2009-2014เป็นโอกาสของธุรกิจในการให้บริการธุรกรรมผ่านมือถือที่สร้างความสะดวกสบายให้คนไทยและคนไทยเริ่มมั่นใจในการบริการที่มีความปลอดภัยเพิ่มขึ้น
ยืนยันได้จากผลสำรวจของมาสเตอร์การ์ดที่พบว่าคนไทยมากถึง 58.8% มีการทำธุรกรรมผ่านมือถืออย่างน้อยหนึ่งครั้งในปี 2557 และคนทั่วโลกชำระเงินผ่านทางเลือกใหม่ๆ อย่างอีวอลเลท การโอนเงินแบบเรียลไทม์ผ่านมือถือจะเพิ่มขึ้นทั่วโลกจาก 43% ในปี 2012 เป็น 59% ในปี 2017
มากกว่า 30 ล้านคนในประเทศไทยไม่มีบัญชีธนาคาร
เหตุผลหนึ่งของการร่วมมือของ 3 ค่ายมือถือมาจากการมองโพเทนเชียลในการให้บริการในการทำธุรกรรมทางการเงินกับผู้ที่ไม่มีบัญชีธนาคาร โดยเริ่มจาก “การโอนเงิน” เป็นบริการแรก เพราะมีคนไทยและคนต่างด้าวที่มาทำงานในประเทศไทยมากถึง 30-40 ล้านคนที่ไม่มีบัญชีธนาคาร และคนต่างด้าวที่โอนเงินถึงกันต้องเสียค่าบริการโอนเงินผ่านบัญชีคนกลางที่เก็บค่าบริการจากการเป็นตัวกลางในการรับเงินโอน ซึ่งคิดค่าบริการที่สูง และอาจจะเกิดปัญหาการเชิดเงินโอนได้ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหนึ่งในการร่วมมือให้บริการโอนเงินผ่านอีวอลเลทข้ามค่าย
จากเวอร์ชวล พรีเพด การ์ด เป็นอีวอลเลท
ที่ผ่านมา 3ค่ายมือถือเคยจับมือกับธนชาต และมาสเตอร์การ์ดให้บริการเวอร์ชวล พรีเพด การ์ด ให้บริการแทนบัตรเครดิตและบัตรเดบิตในการซื้อสินค้าออนไลน์ โดยมีธนชาตเป็นตัวกลางในการบริการธุรกรรม และมาสเตอร์การ์ดเป็นตัวกลางในการสวิตชิ่งสร้างความคุ้นเคยในการใช้บริการ ตอบโจทย์ปัญหาการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต/เดบิตที่คนไทยไม่ให้ความนิยมจากความไม่มั่นใจในความปลอดภัย คนบางกลุ่มไม่รู้ว่าบัตรเดบิตสามารถชำระค่าสินค้าและบริการออนไลน์ได้ และคนไทยยังมีบัตรเครดิตและเดบิตยังอยู่ในกลุ่มคนที่จำกัด
การให้บริการอีวอลเลทโอนเงินข้ามค่ายจึงถือเป็นบริการต่อยอดที่ 3 ค่ายมองสามารถนำมาให้บริการกับลูกค้าได้อย่างรวดเร็วโดยธนชาตและมาสเตอร์การ์ดยังคงทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการให้บริการระบบหลังบ้านในการโอนเงินระหว่างลูกค้าทั้ง 3 ค่าย โดยไม่ต้องหาพาร์ทเนอร์ใหม่
ซึ่งความร่วมมือนี้เป็นไอเดียครั้งแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ สามารถเปิดให้บริการได้ในเดือนธันวาคม ในปีเดียวกันและประเทศไทยเป็นประเทศแรกๆ ที่ให้บริการ อีวอลเลทในรูปแบบนี้
โอนเงินอย่างเดียวไม่ขอชำระบิลข้ามค่าย
บริการธุรกรรมข้ามค่ายผ่านอีวอลเลท เปิดตัวให้บริการเฉพาะการโอนเงิน คิดค่า Fee ธุรกรรมละ 5 บาท ทดลองตลาดไปถึงปลายปี 2016 และโอนเงินได้ครั้งละ 10,000 บาท โดยผู้ใช้บริการสามารถถอดเงินได้จากจุดให้บริการที่แต่ละค่ายกำหนดเท่านั้น ถึงแม้ว่าการให้บริการชำระบิลจะเป็นตัวเอกที่สร้างรายได้ให้กับบริการ mPay และบริการ อีมันนี่ของค่ายมือถืออื่นๆ เพราะการจ่ายบิลข้ามค่ายจะเป็นช่องโหว่ที่ทำให้คู่แข่งรู้ความลับทางธุรกิจและพฤติกรรมของลูกค้าในการใช้บริการ
