SCG ถึงเวลาบุกธุรกิจผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ EV ผ่านบริษัทร่วมทุน
บมจ. ปูนซิเมนต์ไทย แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ถึงการจับมือกับ Denka Company Limited ประเทศญี่ปุ่น ร่วมทุนจัดตั้งบริษัทสำหรับธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายอะเซทิลีนแบล็ก ซึ่งใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนสำหรับรถ EV
การร่วมมือในครั้งนี้ บมจ. ปูนซิเมนต์ไทยทำธุรกรรมผ่าน บมจ. เอสซีจี เคมิคอลส์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ บมจ. ปูนซิเมนต์ไทยถือหุ้น 100% เพื่อเข้าไปถือในบริษัทใหม่ 40%
และ Denka Company Limited ถือหุ้น 60%
พร้อมจัดตั้งโรงงานผลิตอะเซทิลีนแบล็ก ที่จังหวัดระยอง คาดการณ์สามารถเริ่มกระบวนการผลิตได้ต้นปี 2568 เพื่อผลิตอะเซทิลีนแบล็กกำลังการผลิต 11,000 ตันต่อปี
ส่วนรายละเอียดการลงทุนจะเป็นไปตามการตัดสินใจขั้นสุดท้ายที่คาดการณ์เสร็จสิ้นต้นปี 2566
เหตุผลที่ บมจ. ปูนซิเมนต์ไทยจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับ Denka Company Limited ผ่าน บมจ. เอสซีจี เคมิคอลส์ มาจาก
1. เอสซีจี เคมิคอลส์ สามารถเข้าสู่ธุรกิจรถผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน สำหรับรถ EV ซึ่งเป็นยานยนต์พลังงานทางเลือกที่มีการเติบโตและเป็นที่ต้องการของตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ทั้งตลาดโลกและไทย
อ้างอิงข้อมูลจาก CleanTechnica พบว่าในปัจจุบันรถ EV ทั่วโลกมีสัดส่วนมากถึง 10% ของตลาดรถยนต์รวม
ส่วนประเทศไทย TTB Analytics คาดการณ์ว่าในปีนี้ยอดขายรถ EV ในไทยจะเติบโต 539.7% คิดเป็น 10,203 คัน
นอกจากนี้ ในปี 2565
SCG บุกธุรกิจแบต EV
8 คณะกรรมการนโยบายยานยนต์แห่งชาติวางเป้าหมายการผลิตรถ EV ในประเทศรวม 1.05 ล้านคัน และเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 18.41 ล้านคันในปี 2578
2. วัตถุดิบที่ผลิตจากโรงงานผลิต Olefins ของ เอสซีจี เคมิคอลส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในวัฏจักรของปิโตรเคมี
โดย Olefins เป็นส่วนประกอบของการผลิตอะเซทิลีนแบล็กจะถูกนำมาป้อนให้กับโรงงานที่เกิดจากบริษัทร่วมทุน ซึ่งเรามองว่า ทำให้เอสซีจี เคมิคอลส์ มีตลาดที่รองรับการผลิตของตัวเองอีกช่องทางหนึ่ง
3. เอสซีจี เคมิคอลส์ สามารถยกระดับธุรกิจสู่สินค้า High Value-Added หรือสินค้ามูลค่าเพิ่มสูง และสินค้าที่รองรับเมกะเทรนด์ได้
–
Website : Marketeeronline.co /
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ