Kia Rebranding ไม่ใช่แค่รถ แต่มาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจในทุกการใช้ชีวิต

หลังจากเปิดแผนที่เรียกว่า “Plan S” ซึ่งเป็นแผนกลยุทธ์ระยะยาวของเกียที่จะมุ่งหน้าไปสู่ยุคใหม่อุตสาหกรรมรถยนต์ไปเมื่อช่วงต้นปี 2563 นั้น Kia เดินตามแนวทางของกลยุทธ์ที่วางไว้ เริ่มจากการปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ครั้งใหญ่ไปเมื่อต้นปี 2564 ที่ผ่านมา เราจึงได้เห็น “Kia” แบรนด์รถยนต์ยักษ์ใหญ่จากเกาหลีมาพร้อมกับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ ทั้งการเปลี่ยนโลโก้และรูปแบบการสื่อสารอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการทุ่มลงทุนมหาศาลเพื่อเสริมความแข็งแรงของกลุ่มยานยนต์ EV เพื่อขับเคลื่อนแบรนด์ให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในยุคดิจิทัลไลฟ์

Marketeer พาไปเจาะไอเดียการ Rebranding ครั้งสำคัญของKia กับความมุ่งมั่นภายใต้ Brand Purpose ใหม่ “Movement that Inspires” การเดินทางที่สร้างแรงบันดาลใจ

ปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ให้ทันสมัยมากขึ้น

สิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนภายใต้ “Plan S” ของKia คือปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ให้ทันสมัยมากขึ้น มีความกระฉับกระเฉง มีสไตล์ และสร้างสรรค์ เริ่มด้วยการลบภาพความเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มุ่งเน้นแต่การผลิตในเชิงอุตสาหกรรม ไปสู่การเป็นแบรนด์ที่มุ่งเน้นด้านนวัตกรรมการขับเคลื่อน (Innovative Mobility) ผ่านการนำคำว่า “มอเตอร์” ออกจากชื่อของบริษัทเดิมอย่าง เกีย มอเตอร์ เหลือเพียงคำว่า “Kia” เพื่อลบข้อจำกัดด้านยานยนต์ว่า ก้าวต่อไปของเกียจะไม่ได้จำกัดแค่รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปอีกต่อไป แต่มุ่งไปที่การสรรค์สร้างรถยนต์พลังงานสะอาดอย่าง EV รวมไปถึงแนวทางการผลิตเพื่อความยั่งยืนผ่านการใช้พลังงานสะอาดและวัสดุรีไซเคิลต่าง ๆ อีกทั้งยังมาพร้อมกับ Brand Purpose ใหม่ “Movement that Inspires” หรือ “การเดินทางที่สร้างแรงบันดาลใจ” ที่สื่อถึงความต้องการของเกียที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจและประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าผ่านทางผลิตภัณฑ์และการบริการ

โลโก้ใหม่ การสื่อสารใหม่
ภายใต้แนวคิด “การเดินทางสามารถสร้างแรงบันดาลใจ”

เมื่อช่วงต้นปี 2564 ที่ผ่านมา Kiaสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการด้วยการใช้ท้องฟ้ายามค่ำคืนเหนือเมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ เป็นสถานที่เปิดตัวโลโก้ใหม่ พร้อมโชว์ดอกไม้ไฟสุดตระการตา

ออกแบบโดยเน้นความเรียบง่ายและทันสมัยมากขึ้น มีลักษณะคล้ายกับการเขียนด้วยลายมือ ให้อักษร K , I และ A มีเส้นเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน เพิ่มความเฉียงของตัวอักษร และลักษณะของเส้นที่พุ่งขึ้น แสดงถึงความมุ่งมั่น ทะเยอทะยาน สู่การเปลี่ยนแปลงนวัตกรรมแห่งโลกอนาคต และพร้อมขึ้นเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการเดินทางในอนาคต

ซึ่ง มร. ซง โฮ ซอง CEO ของKia Corporation ได้ขยายความว่า เป็นเวลากว่า 75 ปีที่Kiaอยู่ในอุตสาหกรรม “Movement” หรือ “การเดินทาง” ตั้งแต่เริ่มต้นผลิตจักรยานคันแรก ไปจนถึงจักรยานยนต์และรถบรรทุก จนเติบโตเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในโลกในปัจจุบัน ซึ่งตลอดระยะเวลาที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้ Kiaเชื่อว่า “การเดินทางสามารถสร้างแรงบันดาลใจ” ได้  เพราะการเดินทางช่วยให้ผู้คนได้ค้นพบกับสถานที่ใหม่ พบเจอผู้คนกลุ่มใหม่ และพบกับประสบการณ์ชีวิตใหม่

ดังนั้น Kiaจึงนำแนวคิดนี้มาเป็นจุดศูนย์กลางของเป้าหมายใหม่ของแบรนด์ “Movement that inspires” หรือ “การเดินทางที่สร้างแรงบันดาลใจ” โดยมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ให้มีความแปลกใหม่ สะดวกสบาย เปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย พร้อมคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และตอบสนองทุกความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่เสมอ เพื่อให้เกียเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างสรรค์แรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตให้กับผู้คนตลอดทุกการเดินทาง

ซึ่งโลโก้ใหม่นี้นับเป็นส่วนหนึ่งที่แสดงถึงพันธสัญญาของKiaในการเป็นไอคอนของความเปลี่ยนแปลงและนวัตกรรมใหม่ ที่มุ่งมั่นตั้งใจที่จะปรับตัวไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมยานยนต์โลก ที่กำลังเผชิญภาวการณ์เปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่จากเครื่องยนต์สันดาปแบบเดิมสู่โลกของ EV อย่างสมบูรณ์แบบ

ตั้งเป้าเดินหน้าสู่ผู้นำนวัตกรรมยานยนต์ EV

การเปลี่ยนโลโก้ครั้งแรกในรอบ 27 ปี ภายใต้สโลแกนใหม่ “Movement that Inspires” นับเป็นการสื่อสารทางการตลาดที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นที่จะสร้างระบบการผลิตที่ยั่งยืนโดยการใช้พลังงานสะอาด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมสร้างประสบการณ์ใหม่และช่วงเวลาแห่งแรงบันดาลใจให้กับกลุ่มลูกค้า

การปรับแบรนด์ใหม่ครั้งนี้ของKiaไม่ใช่แค่การปรับโลโก้ แต่ยังปรับไปถึงภาพลักษณ์ของโชว์รูมทั้งหมด แนวทางการดีไซน์ต่าง ๆ ของผลิตภัณฑ์ และการมุ่งหน้าสู่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ

ซึ่งทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การปรับโครงสร้างทางธุรกิจเชิงรุกของKia เพื่อปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์โลก และสร้างความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มลูกค้า ที่Kiaจะมุ่งหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ และก้าวมาเป็น “ผู้นำด้านนวัตกรรมยานยนต์ EV” อย่างเต็มขั้น

โดยมีแผนการลงทุนก้อนใหญ่กว่า 7.8 แสนล้านบาท หรือ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ สำหรับการสรรค์สร้างรถยนต์ไฟฟ้าใหม่มากถึง 11 รุ่น ภายในปี 2026 เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านยานยนต์ EV และเพิ่มความหลากหลายทางธุรกิจ

“Kia EV6” เป็นรถยนต์ EV รุ่นแรกที่ได้รับการเปิดตัวภายใต้แนวทางใหม่ของแบรนด์ บนแพลตฟอร์ม E-GMP ใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นมาสำหรับรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ ได้รับรางวัล “2022 Car of the Year” จากเวที European Car of the Year (COTY) ซึ่งหวังว่าคนไทยจะได้ยลโฉมที่งาน Motor Expo ช่วงปลายปีนี้

Kia Thailand กับการเปลี่ยนแปลงในทุกมิติ
ยกระดับผลิตภัณฑ์และบริการสู่ยุค Next Normal

ในส่วนของKia Thailand ภายใต้การบริหารของ คุณธันยนันท์ ลีนุตพงษ์ ศิริมงคลเกษม กรรมการบริหาร บริษัท ยนตรกิจ เกีย มอเตอร์ จำกัด ได้สานต่อเป้าหมายใหม่และการขับเคลื่อนของ Kia Corporation อย่างเต็มกำลัง

ทั้งนี้ในส่วนของโชว์รูมและศูนย์บริการรูปแบบใหม่ที่นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของKia Thailand ด้วยการปรับโฉมทุกแง่มุม ครอบคลุมทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็น ผลิตภัณฑ์ การเปลี่ยนโลโก้บนตัวรถ รวมไปถึงโลโก้ที่ใช้ในการสื่อสารทางการตลาดต่าง ๆ ในส่วนของโชว์รูมและศูนย์บริการรูปแบบใหม่ ที่เป็นไปตาม Brand Strategy ที่ Kia ได้วางไว้ ว่า Kia เชื่อว่าในทุกการเดินทางจากที่หนึ่งไปสู่อีกที่หนึ่ง ประกอบด้วย “จุดเริ่มต้น-ระหว่างทาง-ปลายทาง” และทุกการเดินทางมีส่วนประกอบสำคัญคือ “พื้นที่” และ “เวลา”

Kiaจึงต้องการสร้าง “พื้นที่” ที่มีความหมาย ผ่านการออกแบบทั้งจากภายนอกและภายใน เพื่อให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นส่วนที่มีความหมายและช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้คน รวมไปถึง “เวลา” คือทรัพยากรที่มีค่าของมนุษย์ทุกคน จึงออกแบบให้สามารถตอบสนองในทุกความต้องการของผู้บริโภค ทุกไลฟ์สไตส์ ในทุกช่วงเวลาของการเดินทาง

ยังได้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำสมัยมาช่วยตอบสนองความสะดวกสบายให้กับลูกค้ามากขึ้น เช่น ระบบKia Connect ที่ให้ลูกค้าจองคิวการเข้ารับบริการผ่านทางKia Thailand LINE Official Account  รวมไปถึงแผนในการนำรถรุ่นต่าง ๆ เข้ามาในอนาคต โดยเฉพาะรถยนต์ EV รวมไปถึงรุ่นอื่น ๆ ที่อยู่ในเทรนด์ความต้องการของผู้บริโภคและตลาด เพื่อตอบสนองในทุกความต้องการของผู้บริโภคในทุกมิติ

คุณธันยนันท์ ได้กล่าวว่า  “ตลอดระยะเวลาการดำเนินธุรกิจของเครือยนตรกิจกว่า 72 ปี และในฐานะของยนตรกิจ เกีย อีกกว่า 22 ปี เราให้ความสำคัญกับการเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนชีวิตของผู้คนในสังคมไทยมาโดยตลอด ซึ่งKia Thailand มีการเติบโต ขยายธุรกิจและเครือข่าย รวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการบนพื้นฐานความต้องการของลูกค้าและการเปลี่ยนแปลงของโลกอยู่เสมอ

ทั้งนี้ เพื่อสานต่อเป้าหมายใหม่ของKia ในด้านผลิตภัณฑ์ จะมีการนำรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า และในด้านการบริการ มีแผนขยายโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในต่างจังหวัด เพื่อรองรับการเติบโต และอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าทุกท่าน”

The Kia Carnival ยนตรกรรม Premium MPV
ขับเคลื่อนแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ในชีวิต

นอกจากนี้ “ยนตรกิจ เกีย” ได้มีการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ เพื่อยกระดับให้ “The Kia Carnival” เป็นยนตรกรรม Premium MPV ที่ครบครันด้วยรูปลักษณ์ที่ทันสมัย พร้อมทั้งฟังก์ชันอำนวยความสะดวกสบาย และเทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัย ที่พร้อมช่วยให้ตลอดทุกการเดินทางของผู้ใช้งานเต็มไปด้วยประสบการณ์ที่ดี และขับเคลื่อนแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ในชีวิต  ตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายในวงกว้างมากยิ่งขึ้น

มาพร้อมเครื่องยนต์สมาร์ท สตรีม ดีเซล 2.2 เทอร์โบ 202 แรงม้า ขับสนุก เร้าใจ และยังเป็นเครื่องยนต์มาตรฐาน EURO 5 ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ในส่วนพื้นที่ภายในมาพร้อมจุดเด่นเรื่องของความจุ ด้วยตัวถังที่กว้างขวางมาก สามารถนั่งได้สูงสุดถึง 11 คน พร้อมความอเนกประสงค์ด้วยเบาะแถวสุดท้ายที่สามารถพับเก็บได้ราบเรียบเพื่อเปลี่ยนเป็นพื้นที่เก็บสัมภาระ แต่ยังนั่ง 7-8 คนได้แบบสบาย ๆ ตอบโจทย์ได้จุใจมาก ๆ  จะเป็นการเดินทางของครอบครัวขนาดเล็ก-ใหญ่ หรือทำกิจกรรมอื่น ๆ ในระหว่างเดินทางก็สะดวกสบายไม่อึดอัด

ยิ่งไปกว่านั้น The Kia Carnival ยังเป็นรถครอบครัวที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยเพี่อตอบโจทย์ชีวิตยุคดิจิทัลไลฟ์ ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยีอำนวยความสะดวกต่าง ๆ อย่างเช่น Smart Power Sliding Door (ประตูสไลด์ไฟฟ้าอัจฉริยะ) และ Smart Tailgate (ระบบประตูท้ายไฟฟ้าอัจฉริยะ) ระบบความบันเทิงต่าง ๆ เช่น การเชื่อมต่อกับ Apple CarPlay และ Andriod Auto เครื่องเสียงจาก BOSE รอบคัน รวมไปถึงระบบ Rear-Seat Entertainment ที่มีการ Collaborate กับ Baby Shark เพลงขวัญใจเด็ก ๆ ทุกคน

และที่สำคัญที่สุดคือระบบความปลอดภัยที่ The Kia Carnival เป็นรถยนต์รุ่นแรกจาก Kia Thailand ที่มีระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ DRIVE WiSE ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันความปลอดภัย Active Safety แบบครบครัน

เรียกได้ว่าปรับโฉมผลิตภัณฑ์ครบทุกจุด ทั้งภายนอกและภายในแบบยกคัน พร้อมเติมเต็มด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่อให้ตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้งานอย่างครอบคลุม โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายหลักอย่างครอบครัวยุคใหม่ จึงไม่แปลกที่ The Kia Carnival จะกลับมาสร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ให้กับวงการยานยนต์

สรุป

การ Rebranding ครั้งสำคัญของKiaในครั้งนี้ ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนโลโก้ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่สะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมของแบรนด์ที่จะเติบโตและพัฒนายานยนต์แห่งอนาคตเพื่อพร้อมตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคภายใต้การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรมรถยนต์โลก และช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มลูกค้าได้อย่างยอดเยี่ยม

เช่นเดียวกับการขับเคลื่อนของKia Thailand ที่แสดงถึงความพร้อมในการยกระดับทั้งผลิตภัณฑ์และการบริการ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทุกคน ในทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online