Subaru แบรนด์รถญี่ปุ่นเลิกพัฒนารถเครื่องยนต์ลูกผสมระหว่างน้ำมันและไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊กชาร์จไฟได้ (Plug-in Hybrid Vehicle หรือ PHV) นับจากปีนี้เป็นต้นไป
หลัง Crosstrek รถกลุ่ม SUV แบบ PHV ในสหรัฐ ที่ถือเป็นตลาดสำคัญของแบรนด์ทำยอดขายได้เพียง 2,600 คัน คิดเป็นเพียง 1% จากยอดขายทั้งหมดในสหรัฐตลอดปี 2022
สื่อญี่ปุ่นวิเคราะห์ว่าทาง Subaru คงเห็นว่า PHV ที่มีส่วนแบ่งเพียง 2% ของตลาดรถทั่วโลกเมื่อปี 2021 คงร่วงลงไปอีกเรื่อยๆ ท่ามกลางความนิยมของรถ EV ที่เพิ่มขึ้นสวนทางขึ้นมา
ดังนั้นจึงควรประหยัดงบเพื่อนำไปใช้มุ่งพัฒนารถ EV จะเป็นการดีกว่าจับปลาสองมือ พัฒนาทั้งรถ EV และ PHV
เพราะทางแบรนด์ได้ประเมินแล้วว่าอีก 4 ปีจากนี้ต้องใช้งบพัฒนารถ EV สูงถึง 1,800 ล้านดอลลาร์ (ราว 60,000 ล้านบาท) ซึ่งถือว่าเป็นงบก้อนใหญ่สำหรับแบรนด์รถขนาดเล็ก
และปี 2027 ต้องทุ่มงบก้อนใหญ่อีกก้อนเพื่อสร้างโรงงานรถ EV ที่เมืองกุนมะ ของญี่ปุ่น
Subaru ยังเผยด้วยว่า ต้องการพึ่งตัวเองในการพัฒนารถรุ่นใหม่ๆ โดยเฉพาะรถ EV มากขึ้น แม้แทบทุกโครงการจะได้รับการสนับสนุนจาก Toyota ยักษ์ยานยนต์ร่วมชาติที่ถือหุ้นใน Subaru อยู่ 20% ก็ตาม
ความเคลื่อนไหวของ Subaru ครั้งนี้ ถือเป็นการประกาศตัวอย่างชัดเจนว่าต้องทิ้งรถ PHV ได้แล้ว ซึ่งตรงข้ามกับแบรนด์รถญี่ปุ่นส่วนใหญ่ที่ยังพัฒนารถประเภทนี้ออกมา ที่ถูกกระแสวิจารณ์ว่าเป็นเรื่องที่ส่งผลเสียมากกว่าผลดี เพราะยึดติดกับความสำเร็จเดิมๆ หลงผิดว่าเป็นเรื่องของความหลากหลายผ่านการมีทางเลือกมากมายให้ผู้บริโภค
ซึ่งถือเป็นการฝืนตลาดและจนทำให้ไม่ได้ทุ่มงบพัฒนารถ EV ออกมาเพื่อให้ทันแบรนด์ยุโรป สหรัฐ และจีน ตามเทรนด์อุตสาหกรรมยานยนต์
ความล้าหลังของแบรนด์รถญี่ปุ่นในตลาดรถ EV ฟ้องออกมาให้เห็นจากส่วนแบ่งยอดขายเพียง 5% ของทั่วโลก เมื่อปี 2022 เทียบกันไม่ติดกับส่วนแบ่งยอดขายของแบรนด์จีนที่มากถึง 40% และอันดับ 2 และ 3 อย่างแบรนด์รถอเมริกันกับยุโรป ที่ครองส่วนแบ่ง 30% และ 20%
จากนี้ต้องติดตามว่า Subaru และบรรดาแบรนด์รถญี่ปุ่น จะไล่ตามแบรด์จีน อเมริกันและยุโรปได้ทันหรือไม่ โดยถ้ายังไม่ยอมปรับทิศแล้วเร่งเครื่องทุ่มสรรพกำลังทั้งหมดแบบติดเทอร์โบ แบรนด์รถญี่ปุ่นคงยิ่งถูกทิ้งห่าง ซึ่งถือเป็นเรื่องน่าเสียดาย มาก
เพราะเมื่อปี 2010 แบรนด์รถญี่ปุ่นคือเจ้าตลาดรถ EV ครองส่วนแบ่งในตลาดโลกอยู่มากถึง 70%-90% และยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าญี่ปุ่นยังไม่สามารถถีบตัวเองได้พ้นจากขาลงในเวทีโลก ทั้งที่เคยพัฒนาแบบก้าวกระโดดจนขึ้นมาประเทศชั้นนำด้านเทคโนโลยีให้ทั้งโลกต้องทึ่งและยอมรับมาแล้ว / nikkei
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline
