ตลาดรถยนต์มือสองในไทยขาย 2 ล้านคัน/ปี มากกว่ารถยนต์ใหม่ 1 เท่า โตเสถียร 3-5% YoY พบโอกาสของรถยนต์ไฟฟ้ามือสองยังเจอโจทย์ท้าทาย เหตุความ ไม่ชัดเจนพร้อมกัน ทั้ง 3 ห่วงโซ่หลัก เทรนด์ลูกค้า-ราคา-นโยบายปล่อยสินเชื่อ CARSOME ชี้ ต้องเริ่มแก้ที่ทำความเข้าใจต้นน้ำของปัญหา อย่างลูกค้าอาสาทดลองปล่อยรถยนต์ไฟฟ้ามือสองลงตลาดปีนี้ 100 คัน

 

นายศิวภูมิ เลิศสรรค์ศรัญย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาร์ซัม (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CARSOME เผยว่า CARSOME เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสำหรับซื้อ-ขาย รถยนต์มือสองที่มีบริษัทแม่ และตลาดที่ใหญ่ที่สุดอยู่ในประเทศมาเลเซีย ทั้งยังทำตลาดอยู่ใน อินโดนีเซีย, สิงคโปร์ และ ไทย ปี 2565  CARSOME มียอดขายรถยนต์มือสองในทั้ง 4 ประเทศข้างต้นอยู่ที่ 160,000 คัน

โฟกัสที่การดำเนินงานในไทย ปี 2565 CARSOME มียอดขายรถยนต์มือสองโตขึ้น 10 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2564 และมีการเปิดตัว CARSOME Certified Lab ศูนย์ปรับสภาพและซ่อมบำรุงรถยนต์มือสองครบวงจร ขนาด 20,000 ตร.ม.

ด้านคอมมูนิตี้ออนไลน์ของ CARSOME ปัจจุบันมีผู้เข้าชมผ่านเว็บไซต์ที่ไม่ซ้ำต่อเดือน อยู่ที่ 670,000 ผู้เข้าชม ฐานผู้ติดตามในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย อยู่ที่ 278,045 ราย

สถิติรถยนต์มือสองที่ถูกจองเร็วที่สุดบนแพลตฟอร์ม อยู่ที่ 2 นาที ระยะเวลาการขายรถยนต์มือสองได้ เฉลี่ยอยู่ที่ 14 วัน มีอัตราการจองรถยนต์มือสองที่ถูกเพิ่มเข้ามาใหม่บนเว็บไซต์ อยู่ที่ 2 ใน 3 ต่อเดือน และมีรถยนต์มือสองสำหรับหมุนเวียนอยู่ในคลังสินค้า อยู่ที่ 1,000 คัน

ทั้งการมีพันธมิตรที่แข็งแรงมาก ๆ ในสถาบันการเงิน ทำให้ CARSOME มีข้อได้เปรียบตรงที่สามารถคงอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำที่สุด เมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาดรถยนต์มือสองรายอื่น ๆ และมีอัตราการอนุมัติสินเชื่อที่สูง

แผนการดำเนินงาน ปี 2566  CARSOME มีแพลนไปออกงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 (Bangkok International Motor Show 2023 ครั้งที่ 44) โดยเตรียมพบกับโปรโมชันพิเศษได้ที่บูธ U8 โซนรถยนต์มือสอง

 

ตลาดรถยนต์มือสองในไทย ยังโตเสถียร

ยอดขายมากกว่ารถยนต์ใหม่ 1 เท่า

แต่ยังถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา

ยอดขายรถยนต์ใหม่ ทั้งปี 1,000,000 คัน
ยอดขายรถยนต์มือสอง ทั้งปี 2,000,000 คัน
ยอดขาย ประเทศพัฒนาแล้ว รถยนต์ใหม่ 1 คัน = รถยนต์มือสอง 5 คัน
ยอดขาย ประเทศกำลังพัฒนา รถยนต์ใหม่ 1 คัน = รถยนต์มือสอง 2 คัน
* ตลาดรถยนต์มือสองในไทย มีอัตราเติบโตของยอดขาย อยู่ที่ 3-5% YoY
* ข้อมูลประเมินโดยตัดตัวแปรอย่างโควิด-19 ออกไปแล้ว
ที่มา: CARSOME, March 2023

 

ส่วนการมาถึงของเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในไทย ซึ่งเกิดคำถามว่ามีโอกาสแค่ไหน ในภาคธุรกิจรถยนต์มือสอง CARSOME มองว่า ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) มือสองในไทยยังมีความเสี่ยงอยู่มาก เพราะความไม่ชัดเจนในทั้ง 3 ห่วงโซ่หลัก ไม่ว่าจะเป็น

1. ผู้บริโภคที่ไม่มีความต้องการชัดเจน

2. ราคาที่ยังไม่มีมาตรฐานชัดเจน

3. นโยบายปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินที่ไม่ชัดเจน

 

ส่งผลให้เกิดเป็นปัญหา ไก่กับไข่ ที่ชวนสับสนว่าภาคธุรกิจรถยนต์มือสองควรจะเริ่มแก้จากจุดไหนก่อน

โดยสิ่งสำคัญหลังจากนี้ คือ ภาคธุรกิจรถยนต์มือสองต้องทำความเข้าใจ ลูกค้าก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งจะนำมาถึงการปลดล็อกปัญหาต่าง ๆ ทั้ง ราคาและการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า หัวใจสำคัญของตลาดรถยนต์มือสอง คือ การตั้งราคาขาย เพราะเป็นโพรดักส์ที่มีอยู่เพียงคันเดียวในโลก ทั้งสภาพการใช้งาน, โมเดล, ปีที่ผลิต, รุ่นสี ฯลฯ

ทำให้ผู้ขายต้องตั้งราคาให้บาลานซ์กับความต้องการของลูกค้า และ ความคุ้มทุนของตัวรถยนต์มือสอง

อธิบายให้เห็นภาพง่าย ๆ รถยนต์สันดาปมือสอง 10 คัน เทียบกับ รถยนต์ไฟฟ้ามือสอง 10 คัน รถยนต์สันดาปจะขายง่ายกว่า และเร็วกว่า เพราะมีความชัดเจนกว่าใน 3 ห่วงโซ่หลัก ทั้ง ลูกค้า, ราคา และ การปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน

ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องตั้งราคาขายรถยนต์ไฟฟ้ามือสอง ให้ต่ำกว่า รถยนต์สันดาปมือสอง เพื่อสร้างโอกาสขายออกให้มากขึ้น

ทั้ง CARSOME ยังมองว่า อายุการใช้งานของรถยนต์ไฟฟ้าที่จะถูกเทิร์นมาเป็นมือสอง ควรอยู่ที่ไม่เกิน 2 ปี หลังจากซื้อรถใหม่ออกมาจากศูนย์ ซึ่งขัดกับพฤติกรรมการใช้รถยนต์ของผู้บริโภคส่วนใหญ่ ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 4 ปี ก่อนเปลี่ยนคันใหม่

อย่างไรก็ตาม ข้อได้เปรียบของตลาดรถยนต์มือสองในไทย ในการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหลังจากนี้ ไม่ว่าจะเป็น เต็นท์รถและแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง CARSOME คือ มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่ดีมากกว่า เมื่อเทียบกับตลาดรถยนต์มือสองในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน

อย่างไรก็ตาม CARSOME และภาคธุรกิจรถยนต์มือสอง อาทิ เต็นท์รถ ที่จะเข้าไปทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามือสองในไทย จะต้องมีแบบแผนที่ชัดเจน ไม่งั้นเจ็บตัวแน่นอน

อย่าง CARSOME ปี 2566 จะเริ่มเตรียมการด้วยการจับมือเป็นพันธมิตรกับผู้ประกอบการรถยนต์ไฟฟ้า เช่น PTTOR เพื่อสร้างมาตรฐานของรถยนต์ไฟฟ้ามือสอง และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ผลิตแบตเตอรี่ เพื่อความพร้อมในการเปลี่ยนแปลงอะไหล่ ตลอดจนสร้างคุณภาพการรับประกัน และซ่อมบำรุงจากพนักงาน ให้เทียบเท่ากับบริการที่มีให้ผู้ใช้รถยนต์สันดาป

และเมื่อมีพื้นฐานที่แข็งแรงพอ CARSOME ก็จะเริ่มทดลองตลาด ด้วยการสต๊อกรถยนต์ไฟฟ้ามือสองเข้ามาขาย ประมาณ 100 คัน ภายในสิ้นปีนี้ โดยพยายามเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามือสองจากพาร์ตเนอร์ก่อน เพื่อให้มั่นใจได้ถึงคุณภาพ และเกิดความเสี่ยงต่ำ

ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับทำความเข้าใจโอกาสของตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามือสองในไทย CARSOME จึงใช้ฐานข้อมูลตลาดรถยนต์มือสองที่ใหญ่ที่สุดในไทยของตัวเองมาทำรีเสิร์ชความต้องการของลูกค้าในไทย ด้วยการสำรวจความคิดเห็นผู้ใช้รถยนต์มือสองจำนวน 200 คน ได้ผลสรุปออกมา ดังนี้

 

ตลาดรถยนต์มือสองในไทย

ผู้บริโภค 1 ใน 3 สนใจซื้อ

แต่ยังมีข้อกังวลที่รอแก้ไข

เทรนด์ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า (EV) มือสอง ในอีก 1-2 ปี ข้างหน้า % ผู้ตอบแบบสอบถาม ที่ใช้รถยนต์มือสอง
ไม่มีความสนใจ 46.5%
สนใจ 30.2%
ยังไม่แน่ใจ 23.3%
3 เหตุผลหลักที่ เลือกซื้อ รถยนต์ไฟฟ้า 3 เหตุผลหลักที่ ยังไม่ซื้อ รถยนต์ไฟฟ้า
ประหยัดน้ำมัน-ค่าซ่อมบำรุง สถานีชาร์จ ยังมีจำกัด
ลดมลภาวะและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม แบตเตอรี่และอะไหล่ ยังแพงเกินไป
สิทธิประโยชน์ทางภาษี รถยนต์ไฟฟ้า ยังมีราคาสูง
ที่มา: CARSOME สำรวจผู้ใช้รถยนต์มือสอง จำนวน 200 คน/เผยแพร่ มีนาคม 2566



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online