ที่ผ่านมาเราได้เห็น MG เดินหน้าขับเคลื่อนเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในมิติการสร้างสรรค์ยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ ๆ ป้อนตลาด รวมถึงมิติการสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า (EV Ecosystem) ให้แข็งแกร่ง
ล่าสุดกับการเปิดตัว จัดจำหน่าย และเริ่มส่งมอบแล้วกับ NEW MG MAXUS 9 รถลักชัวรี MPV ไฟฟ้า 100% แบบ 7 ที่นั่ง ที่สร้างแรงกระเพื่อมในตลาด EV เมืองไทยไม่น้อย เพราะไม่ใช่แค่เป็นการเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภค แต่เป็นการยกระดับตลาด EV ครั้งใหญ่ ภาพความเป็นผู้นำและผู้บุกเบิกตลาด EV ในไทยของ MG ชัดขึ้นอีกครั้ง ด้วยการเป็น “เจ้าแรก” ที่เปิดน่านน้ำใหม่ด้วยรถไฟฟ้าแบบ 7 ที่นั่ง ที่ใส่ความหรูหรา ครบครันด้วยฟังก์ชันอำนวยความสะดวกสบาย และฟีเจอร์ที่ล้ำสมัย
การมาของ NEW MG MAXUS 9 แรงกระเพื่อมครั้งสำคัญของตลาดยานยนต์ไฟฟ้าไทย
การแข่งขันของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV) ในไทยยังคงมีแนวโน้มที่รุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการเปิดตัวรถ BEV รุ่นใหม่ของแบรนด์ต่าง ๆ ดูจะเป็นเรื่องที่ดีสำหรับผู้บริโภคที่จะมีทางเลือกเพิ่มขึ้น ผู้ผลิตต่างงัดเทคโนโลยีเด็ดเข้ามานำเสนอเพื่อเพิ่มโอกาสในการขาย สังเกตได้เลยว่ารถยนต์ที่ทำตลาดในยุคนี้จะใส่เทคโนโลยีใหม่ ๆ ล้ำ ๆ ตื่นตาตื่นใจมากขึ้น การตั้งราคาก็จะเป็นไปอย่างสมเหตุสมผลด้วย
ดังนั้น การมาของ NEW MG MAXUS 9 ก็เช่นกัน ซึ่งถือเป็นบิ๊กเซอร์ไพรส์จากค่าย MG กับการ “เปิดน่านน้ำ” สร้างเซกเมนต์ใหม่ Luxury e-MPV รถอเนกประสงค์พลังงานไฟฟ้า 100% แบบ 7 ที่นั่ง เป็นแบรนด์แรกในประเทศไทย
NEW MG MAXUS 9 จึงเป็นอีกหนึ่งผลงานชิ้นเอกของ MG ที่ยกระดับรถยนต์ไฟฟ้า 100% เข้าสู่ตลาด Luxury ที่นำเสนอความเป็น “ที่สุด” ทั้งงานดีไซน์ ความหรูหรา พรีเมียม นวัตกรรมที่จะอำนวยทั้งความสะดวกสบาย และการขับขี่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นเหมาะกับการเป็นรถครอบครัว
ดีไซน์ของ NEW MG MAXUS 9 เริ่มตั้งแต่กระจังหน้าแบบ Grille Less Design ประตูข้างทั้ง 2 ฝั่งเป็นแบบสไลด์ด้วยไฟฟ้า พร้อมฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า การตกแต่งภายใน พรีเมียม หรูหรา วัสดุที่เลือกใช้ให้ผิวสัมผัสที่ดี มีคุณภาพ หลังคาแบบ Dual Panoramic Sunroof ขนาดใหญ่ ทำให้ห้องโดยสารดูโปร่ง โล่ง ไม่อึดอัด อีกทั้งยังมี Ambient light ที่สามารถเลือกเปลี่ยนได้มากถึง 64 เฉดสี ที่ช่วยเพิ่มความสุนทรียให้กับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
ระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติ แยกอิสระด้านหน้าและด้านหลัง สะท้อนการออกแบบที่คำนึงถึงทุกพื้นที่ภายในรถ มาพร้อมกับความสะดวกสบายทุกที่นั่ง ไม่ว่าจะเป็นเบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง เสริมความพรีเมียมด้วยกระจกมองหลังผ่านกล้อง Streaming Media Rearview Mirror กับมุมมองที่หาไม่ได้จากรถทั่วไป และตำแหน่งที่นั่งที่บ่งบอกความเหนือระดับของโมเดลนี้ คือ เบาะแถวที่สองที่ออกแบบให้เป็น VIP Captain Seat เชกเช่นที่นั่ง First Class บนเครื่องบิน โดยมีระบบบันทึก ระบบนวด 8 โปรแกรม และสามารถปรับระดับอุณหภูมิได้ตามความต้องการ พร้อมโต๊ะที่สามารถพับเก็บได้
อีกทั้งยังมีจอกลางแบบสัมผัสขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว ใช้งานง่าย รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และสมาร์ตโฟนระบบ Android ให้พลังเสียงแบบรอบด้านด้วยลำโพงมากถึง 12 จุด และไม่พลาดทุกการเชื่อมต่อด้วย ช่อง USB มากถึง 9 ตำแหน่ง
ด้านสมรรถนะและประสิทธิภาพของ NEW MG MAXUS 9 เรียกได้ว่า สมฐานะของ e-MPV หนึ่งเดียวในไทย ด้วยขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุดที่ 245 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 350 นิวตันเมตร แบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออน จัดวางแบบ Cell-To-Pack ขนาดความจุ 90 kWh ให้ระยะวิ่งสูงสุดที่ 540 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC พร้อมรองรับการชาร์จเร็วสูงสุดที่ 120 kW โดยชาร์จไฟจาก 30% – 80% ใช้เวลาเพียง 30 นาที และการชาร์จแบบธรรมดา รองรับการชาร์จสูงสุดที่ 11 kW โดยชาร์จไฟจาก 5% – 100% ในเวลาประมาณ 8 ชั่วโมงครึ่ง พร้อมมั่นใจในทุกการขับขี่ด้วยระบบความปลอดภัยที่ครบครันที่สุด ด้วยระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ Full Space Frame ถุงลมนิรภัยรอบคัน และระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับสูงอย่าง ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM พร้อมระบบ ADAS รวม มากถึง 25 ระบบ โดย NEW MG MAXUS 9 ได้รับมาตรฐาน 5 ดาว ทั้ง EURO NCAP และ AUSTRALIAN NCAP
NEW MG MAXUS 9 ทำตลาดและจัดจำหน่ายในไทย 2 รุ่นย่อย ได้แก่
- รุ่น X – LUXURY ที่มีให้เลือก 2 สี คือ สีดำ และสีขาว จัดจำหน่ายในราคา 2.499 ล้านบาท และ
- รุ่น V – SUPER LUXURY ที่มีให้เลือก 3 สี คือ สีดำ และสีขาว จัดจำหน่ายในราคา 2.699 ล้านบาท และสีพิเศษเทาหลังคาดำ แกรนิต เกรย์ เพิ่ม อีก 30,000 บาท
MG เติมเต็มความสมบูรณ์ของ EV Ecosystem ปักหมุดสร้างโรงงาน
หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ MG เป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคยอมรับและเชื่อมั่น นั่นคือ มิติของการสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า (EV Ecosystem) ที่แข็งแกร่ง และจับต้องได้ตั้งแต่การสร้างประสบการณ์ ให้ความรู้ และความเข้าใจเกี่ยวกับรถ EV, การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เสนอขายในราคาที่เข้าถึงง่าย สังเกตได้จากราคาจำหน่ายทั้ง NEW MG ZS EV, NEW MG EP, NEW MG4 ELECTRIC และ NEW MG ES ทั้ง 4 รุ่นนี้ ถูกจัดอยู่ในกลุ่มรถไฟฟ้าที่ราคาหลังหักส่วนลดจากมาตรการส่งเสริมของภาครัฐเหลือไม่เกิน 1 ล้านบาท และการสร้างความเชื่อมั่น ความไว้วางใจให้กับผู้บริโภคด้วยการขยายสถานี MG SUPER CHARGE STATION กว่า 130 แห่ง ทั่วไทย
ล่าสุดประกาศลงทุนสร้างโรงงานแบตเตอรี่สำหรับรถไฟฟ้า ที่ถือเป็นตัวแปรสำคัญในการผลักดันและพัฒนาศักยภาพและเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย
โดยวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย จัดพิธีวางศิลาฤกษ์พื้นที่ NEW ENERGY INDUSTRIAL PARK เตรียมพัฒนาพื้นที่ภายในโรงงานกว่า 75 ไร่ ให้เป็นพื้นที่พัฒนาชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ร่วมกับพาร์ตเนอร์ และโรงงานผลิตแบตเตอรี่ เพื่อรองรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต ด้วยงบลงทุนมากกว่า 500 ล้านบาท
Movement ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จอีกขั้นในการสร้าง EV Ecosystem ของ MG ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการส่งรถไฟฟ้าเข้าสู่ตลาดมากถึง 5 รุ่น การเปิดเซกเมนต์ใหม่ด้วย NEW MG MAXUS 9 : e-MPV รุ่นแรกของไทย ที่นับเป็นก้าวแรกในการเข้าสู่ตลาด Luxury ของ MG การสร้างความเชื่อมั่นและความได้เปรียบของลูกค้าด้วยการมีสถานี MG Super Charge เป็นของตัวเอง ที่ตอนนี้พร้อมให้บริการแล้ว 130 แห่งทั่วประเทศ และยังมีแผนขยายสถานีชาร์จเพิ่มอย่างต่อเนื่อง
รวมถึงการลงทุนสร้างโรงงานแบตเตอรี่สำหรับรถไฟฟ้า ที่ไม่เพียงตอกย้ำการเป็นผู้นำและผู้บุกเบิกตลาด EV ในไทย แต่ยังแสดงให้เห็นว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยพร้อมที่จะก้าวสู่อุตสาหกรรมระดับโลก
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline
