เอส เเอนด์ พี ครึ่งปีแรกโต15% มั่นใจทำได้ตามเป้า 6,000 ล้านบาท ลุยกวาดยอดขายช่วงเทศกาลครึ่งปีหลัง
แม้กำลังซื้อของผู้บริโภคจะกลับมาใกล้เคียงกับก่อนโควิดยังไม่ได้ครอบคลุมทั้งหมด เเต่เกินกว่า 3 ใน 4 แล้ว ส่งผลให้ตลาดร้านอาหารไทยเเละเบเกอรี่เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ตลาดร้านอาหารไทยมูลค่าไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้าน ขณะที่มูลค่าตลาดเบเกอรี่มากกว่า 10,000 ล้านบาท
เอส เเอนด์ พี เดินทางมาถึงปีที่ 50 จากร้านไอศกรีมเล็กๆ สู่ร้านอาหารและเบเกอรี่ของไทย เเม้ผ่านช่วงวิกฤตใหญ่มาเเล้วครั้งหนึ่งช่วงปี 2540 แต่เมื่อต้องเผชิญกับโควิด ก็ยังกระทบไม่ต่างจากเจ้าอื่น
อรรถ ประคุณหังสิต ประธานเจ้าหน้าที่สายปฏิบัติการธุรกิจเอส แอนด์ พี บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากช่วงโควิด เเบรนด์เริ่มปรับลดไซซ์ร้านให้มีขนาดเล็กลง ลดไซซ์จาก 200 ตารางเมตร เหลือเพียง 150 ตารางเมตร ประมาณ 45-50 ที่นั่ง เพราะสัดส่วนของเอส เเอนด์ พี เป็นการซื้อกลับบ้านเกินกว่าครึ่ง
ส่วนการนั่งรับประทานในร้านเเม้ปีนี้จะโตขึ้น 65% แต่ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงก่อนโควิด ซึ่งอยู่ที่ 25-28% เหลือเพียง 20% ในปีนี้ ขณะที่ด้านอื่น ๆ ยังคงทรงตัว เดลิเวอรีประมาณ 17% ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เเละซื้อกลับบ้าน 63% โตขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน 10%
อย่างไรก็ตาม จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่นิยมสั่งอาหารออนไลน์ แบรนด์จึงยังให้ความสำคัญกับการบริการเดลิเวอรี โดยในปีที่ผ่านมา เดินหน้าเปิดโมเดลร้าน “Delta” (Delivery & Take Away) สำหรับจัดส่งที่บ้านและซื้อกลับ เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย ประกอบกับช่วยลดพื้นที่ร้าน
ในด้านกำลังซื้อ เเม้โควิดจะส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค เเต่ไม่ใช่กับกลุ่มลูกค้าระดับกลาง ซึ่งเป็นฐานหลักของเอส เเอนด์ พี กระทั่งในต่างจังหวัดเอง ยอดขายเบเกอรี่ยังคงอยู่ในระดับดี
ส่งผลให้ปีนี้ท่ามกลางสภาวะความไม่เเน่นอนของตลาด เอส แอนด์ พี ยังคงมองการเติบโตทั้งปีไว้ที่ 15% จากการขยายสาขาเเละเทศกาลใหญ่ในครึ่งปีหลัง
โดยเฉพาะเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ ที่ขับเคลื่อนยอดขายในสัดส่วนมากกว่าช่วงปกติถึง 10 เท่า รวมถึงเทศกาลกินเจ วันเเม่แห่งชาติ เเละเฉลิมฉลองปีใหม่ เป็นช่วงเวลาที่มีความสำคัญต่อเเบรนด์ทั้งหมด
“ธุรกิจของเอส แอนด์ พี ไปได้ดีช่วงเทศกาล ทั้งส่วนของร้านอาหารเเละเบเกอรี่ อย่างในปีที่ผ่านมาเทศกาลอาหารเจปลายปียอดขายโตสองเท่า จากการที่คนหันมากินเจเยอะขึ้น ส่วนเทศกาลไหว้พระจันทร์ก็มียอดขายดีตลอดหกสิบวัน ขับเคลื่อนยอดขายมากกว่าช่วงปกติสิบเท่า”
ครึ่งปีหลัง ในส่วนเบเกอรี่ เอส แอนด์ พี มุ่งเน้นสินค้าที่เป็น Health & Wellness มากขึ้น ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ สอดคล้องไปกับตลาดสุขภาพที่กำลังโตต่อเนื่อง เตรียมลอนช์เมนูใหม่ไม่ต่ำกว่า 20 รายการ 3 เเคมเปญหลัก ทั้งเทศกาลวันเเม่เเห่งชาติ เทศกาลไหว้พระจันทร์ และเฉลิมฉลองปีใหม่
ด้านร้านอาหาร มาพร้อมเเคมเปญฉลองครบรอบ 50 ปี นำ 50 เมนูในตำนานกลับมาขายอีกครั้งตลอดปี 2566 เช่น ข้าวผัดป่าก์ไก่ ข้าวผัดแหนมทรงเครื่อง ข้าวหน้าไก่ราชวงศ์ ข้าวเเกงกะหรี่ไก่ทรงเครื่อง-อาจาด ข้าวผัดปูไข่ดาวกรอบ ขนมจีนเเกงเขียวหวานไก่ ข้าวอบกุนเชียงไก่เม็ด ฯลฯ
อรรถ กล่าวต่อว่า ร้านอาหารเอส เเอนด์ พี จัดอยู่ในกลุ่มพรีเมียมเเมส เจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง ที่เป็นครอบครัว เเละคนทำงาน ปกติร้านขายดีช่วงกลางวันเเละเย็น เเต่สำหรับสาขาในโรงพยาบาลเเละออฟฟิศ มีเมนูอาหารเช้าเพื่อลูกค้ากลุ่มคนทำงาน ทำให้ร้านอาหารตามโลเคชันเหล่านี้มียอดขายไปได้สวยในทุกช่วงเวลา
อย่างไรก็ตาม สถาการณ์ต้นทุนยังอยู่ในขาขึ้น โดยเฉพาะในช่วงต้นของสถานการณ์โควิด วัตถุดิบหลักอย่างกลุ่มเนย กระโดดขึ้นมา 30-40% ตลอดจน packaging ที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้เเบรนด์ต้องปรับราคา หลังเเบกรับภาวะต้นทุนมาอย่างยาวนาน โดยปีที่ผ่านปรับขึ้น 5% ในบางรายการ
“ค่าเเรงน่ากังวลกว่าค่าไฟ เพราะอย่างไรเราเป็นธุรกิจบริการ ต้องอาศัยเเรงงานคน ค่าเเรงเป็นปัจจัยภายนอกที่เราควบคุมไม่ได้ ต้องบริหารจัดการภายใน อย่างเรื่องของค่าเเรง ก็ต้องเพิ่มยอดขายต่อพนักงาน รวมถึง Cross Function พนักงานหนึ่งคนต้องทำได้ทั้งเบเกอรี่เเละเครื่องดื่ม เป็นการปรับโครงสร้าง ทำให้บริษัทอยู่ให้ได้ในสภาวะภายนอกที่เปลี่ยนเเปลงไป
ปัจจุบันเอส เเอนด์ พี ประกอบด้วยร้านอาหารไทย 165 สาขา เเละเบเกอรี่ 268 สาขา รวมทั้งสิ้น 433 สาขา เเละร้านอาหารไทยในกัมพูชา 5 แห่ง
ตั้งเป้าขยายสาขาปี 2566 เพิ่ม 30 แห่ง ในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นร้านเบเกอรี่ ซึ่งเปิดให้บริการเเล้ว 10 สาขา อย่างไรก็ตาม อาจมีการปรับเปลี่ยนสัดส่วนการเปิดร้านเบเกอรี่กับร้านอาหารในอนาคต
พร้อมแผนรีโนเวตร้านอาหารใหม่ 35 สาขาในปีนี้ โดยรีโนเวตไปเเล้วไม่ต่ำกว่า 25 เเห่ง สาขาละ 3 ล้านบาท
ในปี 2566 บริษัทตั้งเป้าเติบโตไว้ทั้งปี 15% ที่ 6,000 ล้านบาท เเละจากภาพรวมครึ่งปีเเรกที่โต 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เอส เเอนด์ พี มั่นใจจะสามารถเติบโตตามเป้าที่วางไว้ได้
เอสเเอนด์พี อยู่มา 50 ปี เทศกาลทีขายดีสิบเท่า
ประวัติ | ||
เปิด: 14 ตุลาคม 2516 | ||
พี่น้องห้าคน รวมตัวกันเปิดร้านไอศกรีมเล็ก ๆ ในซอยสุขุมวิท 23 ก่อนเพิ่มอาหารเข้ามาขาย เริ่มที่จานเด็ดของครอบครัว (ข้าวไก่อบ ข้าวกุ้งผัดพริกขี้หนู วุ้นเส้นผัดไทย) สี่ปีจากนั้นก็ขายเบเกอรี่ต่อ | ||
เมนูขายดี | ||
เบเกอรี่ | 1.เค้กปอนด์
2.ขนมปัง (ที่เกี่ยวกับธัญพืช) 3.คุกกี้ |
|
อาหารไทย
*กลุ่มอาหารจานเดียวขับเคลื่อนยอดขายมากกว่า 60% |
1.ข้าวคลุกกะปิ
2.ข้าวผัดอเมริกัน 3.ผัดไทย |
|
ช่วงเทศกาลขายดีกว่าปกติ 10 เท่า
(เทศกาลที่ทำยอดขายได้สูงสุด : วันไหว้พระจันทร์) |
||
สัดส่วนการขาย | ||
นั่งทานในร้าน 20% | เดลิเวอรี 17% | ซื้อกลับบ้าน 63% |
ปี | รายได้ (ล้านบาท) | กำไร (ล้านบาท) |
2563 | 5,286 | 183 |
2564 | 4,913 | 340 |
2565 | 5,798 | 460 |
ข้อมูล : S&P
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ