เราซื้อทองแพงขึ้น จากราคาทองครึ่งปีแรกปรับขึ้น 8% เมื่อเทียบกับราคาสิ้นปี 2565 ที่มีราคาจบอยู่ที่ 1,824 ดอลลาร์ต่อออนซ์​

และในมุมนักลงทุนออสสิริสให้ข้อมูลว่าราคาทองในครึ่งปีแรกทำราคาสูงสุดถึง 2,080 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในช่วงพฤษภาคม 2566 เมื่อเทียบกับช่วงต่ำสุดราคา 1,804 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 นักลงทุนจะสามารถทำกำไรได้มากถึง 15% เลยทีเดียว

อาจจะสงสัยว่าทำไมถึงเทียบอัตราการซื้อขายของหน่วยเป็นดอลลาร์ และน้ำหนักทองเป็นออนซ์

เนื่องมาจากทองที่จำหน่ายในประเทศไทยเป็นทองที่ต้องซื้อจากต่างประเทศ และประเทศไทยซื้อทองจากตลาดสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดหลักของการซื้อขายทองโลก

และตลาดสหรัฐฯ จะขายทองคิดน้ำหนักเป็นออนซ์ มีสัดส่วนของเนื้อทอง 99.99%

ส่วนทองที่ขายในไทยใช้มาตราวัดน้ำหนักเป็นบาท มาจากในยุคโบราณการชั่งน้ำหนักทองจะใช้เหรียญบาทในยุคนั้น เป็นมาตรฐานการซื้อขายของตามน้ำหนัก

น้ำหนักทอง 1 ออนซ์ จะมีค่าเท่ากับ 31.104 กรัม

ทองแท่ง 1 บาท มีค่าเท่ากับน้ำหนัก 15.24 กรัม

เมื่อมาเทียบน้ำหนักออนซ์เป็นน้ำหนักบาททองไทย

1 ออนซ์ จะมีน้ำหนักประมาณ 2 บาททองไทย

และความบริสุทธิ์ทองไทยนิยมค่าความบริสุทธิ์ที่ 96.5% เพื่อให้ทองมีความแข็งขึ้น สามารถนำไปขึ้นรูปเป็นทองรูปพรรณที่สามารถใส่ติดตัวได้โดยไม่เสียรูป

แต่ในปัจจุบันมีหลายบริษัททองที่มีทองความบริสุทธิ์ 99.99% จำหน่าย

ซึ่งอุปสรรคของความบริสุทธิ์ทองที่แตกต่างกัน ทำให้ทอง 96.5% ทั้งทองแท่งและทองรูปพรรณนักลงทุนทองไม่สามารถนำไปขายในตลาดโลกได้ จากค่าความบริสุทธิ์ที่แตกต่างจากตลาดโลก

ส่วนทอง 99.99% ร้านทองบางร้านไม่สามารถตีราคาซื้อขายได้ เพราะร้านทองส่วนใหญ่อิงราคาขายจากความบริสุทธิ์ 96.5%

นอกจากนี้ ประเทศต่าง ๆ ยังมีความนิยมค่าความบริสุทธิ์ทองที่แตกต่างกัน เช่น

ทอง 99.9 %  นิยมในอินเดีย

ทอง 99.5 % นิยมในประเทศแถบตะวันออกกลาง

ทอง 99.0 % นิยมในฮ่องกง เป็นต้น

สำหรับตลาดทองในประเทศไทยมีความผันผวนตามราคาทองโลก เมื่อย้อนข้อมูลทางสถิติไม่ว่าจะเป็นข้อมูลย้อนหลัง ในช่วง 5 ปี 10 ปี 20 ปี จนถึง 30 ปี ที่ผ่านมา ราคาทองนั้นมีการปรับตัวขึ้นมาตลอด เนื่องจาก

1. ทองเป็น Top5 ที่นักลงทุนและธนาคารต้องการซื้อสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เนื่องจากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ เศรษฐกิจถดถอย ปัญหาสถาบันการเงินในสหรัฐฯ และความกังวลในสถานการณ์เศรษฐกิจในยุโรปความตึงเครียดระหว่างจีน -ไต้หวัน และความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย – ยูเครน

2. ประเทศที่มีปัญหากับสหรัฐอเมริกาหันมาสะสมทองแทนเงินดอลลาร์ ในช่วงสงครามต่าง ๆ เพราะดอลลาร์ไม่ใช่สินทรัพย์ปลอดภัยเท่าไร

แต่ทองมีขึ้นมีลงเช่นกัน

สิ่งที่ทำให้ทองลงจะมาจากการประกาศเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของเฟด ที่ดึงดูดให้นักลงทุนหันมาลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์เพื่อผลตอบแทนด้านดอกเบี้ยที่ดีกว่าการลงทุนในทองสินทรัพย์ที่ไม่มีดอกเบี้ย

ส่วนในครึ่งปีหลัง 2566 ออสสิริสมองว่าทองยังเป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุนและมีโอกาสไปต่อได้ เพราะหากเราดูสถิติราคาทองคำในไทยและทองคำในตลาดโลก จะเห็นได้ว่าทองคำมีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าเกือบทุกเดือนในปี 2566

ประกอบกับ Goldman Sachs กลุ่มสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของโลก ออกมาเผยว่า พอร์ตลงทุนในปี 2566 นี้ ควรปรับสัดส่วนให้มีสินค้าโภคภัณฑ์ อย่างสินทรัพย์ทองคำเป็นส่วนผสมในพอร์ต 5-10% เนื่องจากปัจจัยภาพรวมเศรษฐกิจด้านต่าง ๆ ที่จะมากระตุ้นอีกครั้งช่วงปลายปี

ออสสิริส จึงมองว่าในครึ่งปีแรกของปี 2567 ทองอาจขยับตัวสร้างสถิติสูงสุดใหม่ เป็น 2,100 ดอลลาร์/ออนซ์

สำหรับการลงทุนในตลาดทองไทยในวันนี้ ออสสิริสให้ข้อมูลว่ามี 3 รูปแบบหลัก ได้แก่

1. การออมทอง ผ่านแพลตฟอร์มออมทองต่าง ๆ ที่ให้นักลงทุนซื้อสะสมน้ำหนักทองทีละเล็กละน้อย ในเงินลงทุนซื้อครั้งละไม่มาก เมื่อสะสมครบตามเงื่อนไขที่กำหนดสามารถแลกออกมาเป็นทองจริงได้

2. การซื้อขายทองในรูปแบบ Gold Digital ผ่านกระดานการซื้อขายในรูปแบบคล้ายกับการซื้อหุ้น

3. การซื้อทองคำแท่งทั่วไปแบบปกติ

และเกิดนักลงทุนทองรายย่อยหน้าใหม่ ๆ เข้ามาในตลาดจำนวนมาก โดยนักลงทุนทองรายย่อยมีพฤติกรรมการลงทุนด้วยการซื้อทองในแต่ละครั้งในปริมาณน้ำหนักที่ลดลง แต่มีความถี่ที่เพิ่มขึ้น

อย่างเช่นมีนักลงทุนรายย่อยหน้าใหม่เข้ามาเพิ่มเป็นลูกค้าประมาณ 30% แต่มูลค่าการซื้อขายเติบโตเพียง 10% เท่านั้น

ส่วนการแข่งขันของผู้ค้าทองในไทยในปัจจุบันมีการแข่งขันกับสูง แต่ไม่ได้ แข่งขันด้านราคาเป็นหลัก เนื่องจากราคาทองในไทยอ้างอิงจากราคาโลก

การแข่งขันในตลาดทองจึงเน้นไปที่ช่องทางในการเข้าถึงลูกค้า การบริการ ความหลากหลาย และอื่น ๆ แทน

เช่น ออสสิริสสร้างจุดต่างด้านการแข่งขันที่การมีคอลเลกชั่นทองใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดอยู่เสมอ รวมถึงการปรับเปลี่ยนทองแท่งให้มีขนาดเล็กลง มีขนาดน้ำหนักเล็กสุด 0.3 กรัม มีดีไซน์ทองคำแท่งให้เป็นภาพ ลวดลายต่าง ๆ ที่สามารถสั่งทำพิเศษได้ พร้อมการ์ดแนบไปกับทองแท่งขนาดเล็กเพื่อมอบเป็นของขวัญและสะสม เป็นต้น


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer