
ทุกวงการต้องมีเบอร์ใหญ่ ๆ อยู่ โดยเมื่อเบอร์ดังเหล่านี้เริ่มคว้าความสำเร็จได้ สิ่งที่ประดังเข้ามาคือสัญญาทางธุรกิจมากมายจากแบรนด์ใหญ่ ๆ ซึ่งที่เห็นกันมากสุดคือ วงการบันเทิงและกีฬา
ตีกรอบให้แคบลงมาอีกเฉพาะวงการกอล์ฟ Tiger Woods คือหนึ่งในเบอร์ใหญ่ของวงการนี้ เพราะคนส่วนใหญ่ในโลกต่างก็รู้จักเขา แม้ได้เล่นกอล์ฟก็ตาม

แบรนด์ที่อยู่เคียงข้าง Tiger Woods มาอย่างยาวนานคือ Nike โดยดีลนี้ต่างส่งผลดีต่อทั้งสองฝ่าย เป็นความผูกพันยาวนานและยืนยันถึงการไม่ทิ้งกันช่วงที่ฝ่ายหนึ่งเผชิญมรสุมชีวิตหลายครั้งอีกด้วย
Tiger Woods นักกอล์ฟลูกครึ่งไทย-อเมริกัน เริ่มถูกจับตามองหลังเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงของวงการกอล์ฟสหรัฐฯ ช่วงกลางยุค 90 ท่ามกลางการคาดการณ์กันว่า เขาอาจคว้าแชมป์รายการใหญ่ ๆ ได้ในไม่ช้า
และคงมีสปอร์ตแบรนด์มากมายที่แย่งกันเสนอสัญญาเป็นสปอนเซอร์ให้เขา

คาดการณ์ดังกล่าวเป็นจริงอย่างรวดเร็ว และเป็น Nike ที่ทำ Hole in One ได้ โดยปี 1996 Nike คว้าตัว Tiger Woods ที่เพิ่งเทิร์นโปรด้วยวัย 20 ปีมาเซ็นสัญญาฉบับแรกมูลค่า 40 ล้านดอลลาร์ (ราว 1,400 ล้านบาทตามค่าเงินปัจจุบัน) แลกกับการเป็นสปอนเซอร์ให้ 5 ปี

Tiger Woods เริ่มคว้าแชมป์รายการใหญ่ ๆ ประเดิมด้วย The Master ปี 1997 ส่งให้ปีต่อมา Nike ทำ Hole in One ครั้งที่ 2 กับ Tiger Woods ด้วยยอดขาย Nike Golf ปีกธุรกิจกอล์ฟที่เพิ่มขึ้นถึง 10 เท่าเป็น 300 ล้านดอลลาร์ (ราว 10,000 ล้านบาทตามค่าเงินปัจจุบัน)
จากนั้นปี 1999 Tiger Woods ก็คว้าแชมป์ PGA ถือเป็นแชมป์รายการใหญ่รายการที่ 2 ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลดีต่อยอดขาย Nike Golf ด้วย

พอข้ามมาถึงปี 2000 Tiger Woods ก็ฉลอง Millennium ด้วยการคว้าแชมป์ครบทั้ง 3 รายการใหญ่คือ The Master, PGA และ U.S. Open ทำให้ปีต่อมาได้รางวัลเพิ่มจากถ้วยแชมป์เป็นการต่อสัญญาครั้งแรกกับ Nike เป็นเวลา 5 ปี
สัญญาดังกล่าวทำให้ Tiger Woods เป็นนักกีฬาที่ร่ำรวยสุดในโลก ณ ขณะนั้น ด้วยวัยเพียง 26 ปี เพราะมูลค่าสัญญาสูงถึง 100 ล้านดอลลาร์ (ราว 3,500 ล้านบาทตามค่าเงินปัจจุบัน)

สายสัมพันธ์ระหว่าง Tiger Woods กับ Nike ปี 2006 กระชับแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นด้วยการต่อสัญญาครั้งที่ 2 ในปี 2006 ซึ่งต่อเนื่องไปอีก 7 ปี
ทว่าก็มีบททดสอบความสัมพันธ์เข้ามา โดยปี 2009 Tiger Woods ถือเป็นทั้งนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จ และหัวหน้าครอบครัวที่อบอุ่นของภรรยาชาวสวีเดนกับลูกอีก 2 คน
Tiger Woods กับ Erin Nordegren อดีตภรรยา
แต่เขากลับก่อข่าวฉาว ด้วยการนอกใจภรรยาจนต้องหย่าขาดกันและชีวิตคู่ล่มในปี 2010

ข่าวฉาวดังกล่าวทำให้แบรนด์ดัง ๆ อย่าง Gillette, Gatorade และ Tag Heuer พากันถอนสปอนเซอร์ จน Tiger Woods เสียรายได้ไปถึงปีละ 50 ล้านดอลลาร์ (ราว 1,745 ล้านบาทตามค่าเงินปัจจุบัน) แต่ Nike ก็ยังไม่ทิ้ง Tiger Woods ไป

ปี 2013 Nike ต่อสัญญากับ Tiger Woods อีกเป็นครั้งที่ 3 โดยคราวนี้นาน 10 ปี และความสัมพันธ์ก็ถูกทดสอบอีก 2 ครั้งจากการที่ Woods ถูกจับในข้อหาขับรถขณะมึนเมาในปี 2017

และเหตุรถคว่ำเฉียดตายในปี 2021 ซึ่ง Nike ก็ยังไม่ยกเลิกสัญญา แม้ Nike Golf ยอดขายตกจน Nike เริ่มขายปีกธุรกิจนี้ไปตั้งแต่ปี 2016 แบบเดียวกับ Adidas
ณ จุดนี้จึงกล่าวได้ว่าทั้ง Tiger Woods กับปีกธุรกิจกอล์ฟของ Nike ก็ฟอร์มตก และความสัมพันธ์ก็กำลังนับถอยหลังสู่การปิดฉาก

ที่สุด 8 มกราคม 2024 Nike ก็ตกลงร่วมกันกับ Tiger Woods ที่จะไม่ต่อสัญญาออกไปอีกเป็นครั้งที่ 4 โดยแม้ต่างฝ่ายได้ออกมาขอบคุณที่ร่วมทางกันมายาวถึง 27 ปี ท่ามกลางการประเมินว่ามูลค่าสัญญาตลอดกรอบเวลานี้อาจสูงถึง 500 ล้านดอลลาร์ (ราว 17,400 ล้านบาท)
Tiger Woods กับ Knigt ผู้ก่อตั้ง Nike
แต่เรื่องมีเหตุและปัจจัยอื่น ๆ นอกเหนือไปจากภาวะฟอร์มตกของทั้ง 2 ฝ่าย โดยฝ่าย Nike กำลังทำทุกทางเพื่อลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นให้ได้ 2,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 70,000 ล้านบาท) ในอีก 2-3 ปีจากนี้ เพื่อไปเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน

ส่วนฝ่าย Tiger Woods ซึ่งตอนนี้กลายเป็นนักกอล์ฟอาวุโสวัย 48 ปี ที่ผ่านการหย่าร้างและอุบัติเหตุเฉียดตายมาแล้ว จนวงสวิงไม่สวยเหมือนเก่าแถมยังเดินเหินไม่เป็นปกติ

เขาจึงลองหันไปใช้แบรนด์อื่น ๆ เช่น On และ Footjoys ให้เห็นกันบ้างแล้ว

นี่จึงเกิดการคาดกันว่า Tiger Woods อาจเลือก On หรือ Footjoys เป็นแบรนด์นี้ต่อไปถัดจาก Nike /cnn, bbc, theguardian, wikipedia, cnbc, nbc, essentiallysports
–
