Work : หนึ่งในคำถามที่ทำให้ต้องฉุกคิดได้อยู่เสมอ คือจะเลือกอะไรระหว่างพรสวรรค์กับโอกาส แต่เอาเข้าจริงนี่คือการเตือนให้เราเห็นความสำคัญของการไม่ประมาท และเตรียมพร้อมเสมอ

และไม่ปล่อยให้โอกาสดี ๆ ที่เข้ามาหลุดลอยไป โดยในโลกการทำงานและเส้นทางชีวิต หากไม่เตรียมตัวให้ดี ต่อให้เก่งแค่ไหนก็พลาดได้ เรื่องนี้ยังปรับใช้ได้เมื่อเรามีนัดคุยกับคนสำคัญหรือเบอร์ใหญ่ ๆ ในวงการ และผู้ทรงอิทธิพลที่มีอำนาจชี้เป็นชี้ตาย

คนกลุ่มนี้อาจเป็นได้ทั้งหัวหน้าฝ่ายทรัพยากรบุคคลที่ตัดสินว่าจะรับคุณเข้าทำงานหรือไม่ หัวหน้าแผนกที่ยิงตกหรือส่งให้คุณเลื่อนขั้น ซีอีโอ หรือเจ้าของบริษัทที่อนุมัติว่าคุณจะได้เก้าอี้ระดับสูงขององค์กรหรือไม่

รวมไปถึงในกรณีที่คุณเป็นสื่อมวลชนแล้วไปสัมภาษณ์เบอร์ต้น ๆ ของธุรกิจใดธุรกิจใดหนึ่ง ถ้าบทสนทนาออกมาดี บทสัมภาษณ์ย่อมออกมาดีด้วย

ดังนั้น เมื่อมีนัดคุยครั้งสำคัญกับคนสำคัญที่สามารถช่วยให้ชีวิตคุณก้าวหน้าไปอีกขั้น ต้องเติมความมั่นใจตัวเองให้เต็มถัง ซึ่งสามารถทำได้ผ่านเคล็ดลับ 6 ข้อต่อไปนี้

ทำการบ้านมาก่อน: อันดับแรกที่จะช่วยสร้างความมั่นใจ คุณมีนัดคุยครั้งสำคัญ คือ หาข้อมูลของคู่สนทนาและองค์กรของเขาหรือเธอให้มากเข้าไว้

Jamie Dimon

เช่น ประวัติของคู่สนทนา ประวัติบริษัท รวมไปถึงตัวเลขทางธุรกิจที่จำเป็น โดย Jamie Dimon ซีอีโอของ JPMorgan Chase ยักษ์วาณิชธนกิจดังสัญชาติอเมริกัน กล่าวว่า คนที่ทำการบ้านมาดีจะมีชัยไปแล้วเกินครึ่ง

เพราะช่วยให้โอกาสการได้งาน ไม่จนแต้มเมื่อถูกถาม ไม่ถามคำถามที่ไม่ควรถาม และทำให้ผู้สัมภาษณ์ประทับใจนั่นเอง

 

อ่อนน้อมแต่พอดี: เคล็ดลับข้อต่อมาคือความอ่อนน้อมที่มาจากการเคารพและชื่นชมคู่สนทนา เน้นไปที่ความสำเร็จหรือเกียรติประวัติต่าง ๆ เพราะจะเป็นการสร้างความประทับใจได้ตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ของการพูดคุย

ทว่า ก็มีข้อพึงระวังอยู่ นั่นคือ ต้องอ่อนน้อมและชื่นชมแต่พอดี เพื่อไม่ให้ดูเป็นการประจบประแจงมากจนเกินไป

 

มีจังหวะให้เข้าประเด็น: ถัดจากเตรียมตัวมาดีและเปิดบทสนทนาได้น่าประทับใจแล้ว เคล็ดลับข้อต่อมาที่ช่วยให้การคุยกับคนสำคัญซึ่งสามารถชี้เป็นชี้ตายหรือส่งให้ชีวิตคุณไปไกลกว่าเดิม คือ การเข้าประเด็น

เพราะเมื่อคู่สนทนาเป็นเบอร์ใหญ่ เวลาทุกนาทีของพวกเขาจึงมีค่า ดังนั้น จึงไม่ควรเยิ่นเย้อและเข้าประเด็นให้ไวที่สุด

 

อยากให้เห็นว่ารู้จริงต้องขยายความ: มาถึงเคล็ดลับข้อที่ 4 นั่นคือ การขยายความและยกตัวอย่างในทุกคำตอบ เช่น เมื่อถูกถามเรื่องประวัติการทำงาน ให้เริ่มด้วยตำแหน่ง

แล้วตามด้วยผลงาน หรือรายละเอียดงาน เพราะจะเสริมและย้ำว่าคุณรู้จริง เคยผ่านงานนั้น ๆ มา พร้อมช่วยให้คำพูดดูมีน้ำหนัก

 

ตามด้วยคำพูดที่ชัดและมั่นใจ: เคล็ดลับอีกข้อที่แม้จะอยู่ท้าย ๆ แต่ก็ลืมไม่ได้ทุกครั้งเมื่อมีนัดคุยกับคนที่เป็นเบอร์ใหญ่ ๆ คือ ต้องพูดด้วยน้ำเสียงที่ชัดถ้อยชัดคำ และใช้คำที่แสดงความมั่นใจ

อย่าง “เชื่อว่า” “มั่นใจว่า” และ “เห็นว่า” ให้ติดปากกับคำถามปลายเปิด แทนคำอย่าง “คาดว่า” คิดว่า และ “เดาว่า” รวมไปถึง “อืม ..คือว่า” ที่เปิดจุดอ่อนให้รู้ว่าคุณไม่มั่นใจเอาเสียเลย

 

ใช้การสบตาให้เป็นประโยชน์: ส่วนเคล็ดลับข้อสุดท้ายเป็นสิ่งที่ต้องทำตลอดการสนทนานั่นคือ สบตาอีกฝ่ายอยู่เสมอ และอย่าเหม่อหรือมองพื้นเด็ดขาด

เพราะเป็นการย้ำให้รู้ว่าสติและสมาธิคุณอยู่กับการพูดคุยครั้งนี้ ไม่ใจลอย และสนใจกับคำถามที่ถามมา ขณะเดียวกันก็รอคำตอบอีกฝ่ายอยู่เสมอนั่นเอง ♦/fastcompany


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer