หนึ่งในข่าวใหญ่ที่สร้างความสั่นสะเทือนไปแทบทุกวงการในปี 2023 คือ AI ทั้งในเรื่องประสิทธิภาพ การแข่งขันกันในบรรดากลุ่มบริษัทยักษ์เทค และการนำไปใช้อย่างกว้างขวางจนน่าตกใจเพราะเข้าถึงได้ง่าย

ประเด็นหลังสุดทำให้เกิดการโต้กลับ โดยสถาบันการศึกษาเริ่มสั่งห้ามใช้ และมีการพัฒนาโปรแกรมตรวจจับที่สามารถแยกแยะได้ว่า คนหรือ AI เป็นผู้เขียนบทความต่าง ๆ โดยเฉพาะการบ้าน วิทยานิพนธ์ เพื่อป้องกันการลอกงานกันนั่นเอง

การเข้าถึงได้ง่ายและใช้ได้ฟรี ทำให้เริ่มถูกนำมาใช้การสมัครงาน โดยมีรายงานว่าผู้สมัครบางคนนำ AI เช่น ChatGPT ทำจดหมายสมัครงานหรือเป็นต้นแบบในการเขียนประวัติย่อ

การนำเทคโนโลยีมาใช้เขียนใบเบิกทางสู่การเรียกตัวไปสัมภาษณ์จนได้ไปทำงานในบริษัทที่หมายตาไว้ แทนที่จะเขียนขึ้นมาเอง ทั้งที่ก็มีการสอนและหาต้นแบบได้จากโลกออนไลน์เพียงคลิกไม่กี่ครั้ง ทำให้เกิดการโต้กลับจากผู้ที่รับผิดชอบโดยตรงในการคัดพนักงานตามบริษัทต่าง ๆ

ตามรายงานของ BBC ระบุว่า ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ (HR) ของแต่ละบริษัททราบถึงการนำ AI มาใช้ โดย HR ของบริษัทหัวก้าวหน้าบางแห่งโต้กลับ ด้วยการนำ AI มาใช้คัดจดหมายสมัครงานหรือเป็นต้นแบบในการเขียนประวัติย่อ เพื่อประหยัดเวลา

ขณะที่ HR อีกบางส่วนก็ดูออกว่า ประวัติย่อของผู้สมัครคนไหนใช้ AI ทำ เพราะจะมีรูปแบบซ้ำ ๆ เช่น แบ่งวรรคตอนมาเรียบร้อย เรียงคำสวย และตรงตามไวยากรณ์ ส่วนการขึ้นหัวข้อและย่อหน้าต่าง ๆ ก็เป็นระเบียบ

แต่ทั้งหมดจะดูเนี้ยบจนผิดปกติ และแทบแยกไม่ออกจากผู้สมัครคนอื่น ๆ เลย ดังนั้น HR ก็จะหันไปหาจดหมายสมัครงานหรือประวัติย่อของผู้สมัครที่เขียนได้แตกต่างจากคนอื่น ๆ เช่น เขียนผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือแสดงตัวตนบางอย่างออกมาให้เห็น

จากนั้นจะขยับไปดูความเคลื่อนไหวของผู้สมัครในสื่อโซเชียล เพราะแสดงให้เห็นลักษณะนิสัยหรือเอกลักษณ์บางอย่างที่พวกเขาทิ้งเอาไว้ แต่มีอยู่ในประวัติย่อ

ต่อมาจะนัดสัมภาษณ์และทดสอบทักษะต่าง ๆ ทั้งทักษะฝีมือ (Hard skill) ที่จำเป็นต่องาน เช่น การใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ต่าง ๆ และทักษะด้านการเข้าสังคม (Soft skill) เพื่อดูว่าสามารถเข้ากับเพื่อนร่วมงาน และพิจารณาว่า ‘เคมี’ เข้ากันได้กับพนักงานคนอื่น ๆ มากน้อยแค่ไหน

ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่าเทรนด์ AI ในการสมัครงานได้เกิดขึ้นแล้ว ทำให้เทคโนโลยีดังกล่าวไม่ต่างจากการให้เพื่อนช่วยเขียนจดหมายสมัครงานหรือประวัติย่อในอดีต แต่เปลี่ยนจากเพื่อนที่เป็นมนุษย์มาเป็น AI และการคัดผู้สมัครที่นำ AI มาใช้ทิ้งไป อาจส่งผลเสียต่อฝ่ายบริษัทเอง เพราะจะไปลดโอกาสได้พนักงานใหม่มาทำงาน

สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือ AI เข้ามาถึงตลาดแรงงานและต่อไปจะถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น ทั้งฝ่ายผู้สมัครและ HR จนกระบวนการคัดพนักงานมีมากขึ้น

เพราะจดหมายสมัครงานและประวัติย่อเป็นเพียงใบเบิกทางเท่านั้น โดยสิ่งที่จะถูกนำพิจารณาตัดสินจริง ๆ ว่า ใครจะได้หรือไม่ได้งาน คือ รอยเท้าบนโลกออนไลน์ และ Hard skill กับ Soft Skill ด้วย

งานของฝ่าย HR จากนี้จึงเปลี่ยนจากการพิจารณาแค่ประวัติการศึกษาไปสู่การการทดสอบทักษะต่าง ๆ เมื่อลงสนามปฏิบัติจริง

เนื่องจาก AI ไม่สามารถช่วยได้ และเห็นกันชัด ๆ ไปเลยหน้างานว่าผู้สมัครคนนั้นทำงานเป็น หรือเก่งจริงตามคุณสมบัติ ตามข้อมูลที่ให้มา หรือเปลี่ยนเกณฑ์พิจารณาจากแบบ Degree based ไปเป็น Skill based ไม่ว่าข้อมูลที่พวกเขาจะเขียนด้วยตัวเองหรือใช้ AI เขียนให้ก็ตาม/bbc



อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline

ติดตาม Marketeer Online ทาง LINE Official


เพิ่มเพื่อน