เศรษฐกิจไทยปีหน้าอาจไม่ถึงขั้นถดถอย แต่ก็ยังไม่เห็นแรงส่งให้เดินหน้าได้เต็มที่ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) ประเมินว่า ปี 2569 เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวเพียง 1.6% ซึ่งต่ำกว่าศักยภาพอย่างต่อเนื่อง โดยความไม่แน่นอนทางการเมืองยังเป็นความเสี่ยงใหญ่ที่กระทบความต่อเนื่องของนโยบายรัฐ และทำให้แรงกระตุ้นทางเศรษฐกิจเดินได้ไม่เต็มสปีด

ท่ามกลางบริบทที่เศรษฐกิจโลกกำลังก้าวเข้าสู่ช่วงเวลาที่ “นโยบายการคลัง” กลับมาเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก หลังธนาคารกลางทั่วโลกเริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงินตามเงินเฟ้อที่ชะลอตัว ประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ และจีนต่างเร่งใช้งบประมาณรัฐกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างจริงจัง ขณะที่เศรษฐกิจไทยยังเผชิญข้อจำกัดเชิงโครงสร้างที่สะสมมานาน และความเสี่ยงการเมืองที่ฉุดรั้งการฟื้นตัวให้ช้ากว่าประเทศอื่น

เศรษฐกิจไทย การเมืองไม่จบ มาตรการไม่เดิน

นายธนภัทร ธนชาต นักเศรษฐศาสตร์ TISCO ESU ระบุว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2569 ยังอยู่ในภาวะเปราะบาง และมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าศักยภาพต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีแรกที่แรงขับเคลื่อนจากภาครัฐอ่อนแรงกว่าที่ควรจะเป็น จากปัจจัยการเมืองที่ยังไม่นิ่ง

หนึ่งในผลกระทบสำคัญคือ ความสะดุดของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น หลังการยุบสภาก่อนกำหนด ทำให้โครงการที่คาดว่าจะช่วยพยุงกำลังซื้อในช่วงต้นปี เช่น “คนละครึ่งพลัส เฟส 2” และ “ช้อปดีมีคืน” ต้องหยุดชะงัก ส่งผลให้ภาพเศรษฐกิจไตรมาสแรกมีแนวโน้มซึมยาวกว่าที่ประเมินไว้

ขณะเดียวกัน งบประมาณรายจ่ายปี 2570 มีความเสี่ยงล่าช้าอย่างน้อย 2–3 เดือน ซึ่งจะกระทบต่อการเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐ และลดบทบาทของรัฐในฐานะเครื่องยนต์สำคัญของเศรษฐกิจในช่วงที่ภาคเอกชนยังลังเล

ในมุมการลงทุน ความไม่แน่นอนทางการเมือง รวมถึงสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนกัมพูชา อาจทำให้นักลงทุนต่างชาติเลือกใช้ท่าที “รอดูท่าที” (wait and see) ต่อการลงทุนใหม่ในไทย ส่งผลให้เม็ดเงิน FDI ไหลเข้าได้ต่ำกว่าที่คาด

ลุ้น กนง. ลดดอกเบี้ยเหลือ 1% ประคองเศรษฐกิจ

ด้านนโยบายการเงิน TISCO ESU มองว่า ภายใต้สภาพเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่ำ เงินเฟ้อที่ยังไม่เข้าเป้าหมาย และภาระหนี้ที่กดดันภาคครัวเรือน คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีโอกาสพิจารณา ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% สู่ระดับ 1.00% ในการประชุมช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2569

การลดดอกเบี้ยดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อช่วยผ่อนคลายภาระหนี้ ลดความตึงตัวของภาวะการเงิน และทำหน้าที่เป็น “กันชน” ให้เศรษฐกิจไทยในช่วงที่นโยบายการคลังยังเดินได้ไม่เต็มที่

โลกปี 2569 มหาอำนาจสู้กันด้วยงบประมาณ

ในภาพใหญ่ของเศรษฐกิจโลก TISCO ESU ประเมินว่า ปี 2569 จะเป็นปีที่ประเทศมหาอำนาจหันมาใช้นโยบายการคลังเป็นเครื่องมือหลักในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ

ฝั่ง สหรัฐฯ คาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตประมาณ 1.9% โดยได้แรงหนุนจากกฎหมาย One Big Beautiful Bill Act (OBBBA) ที่ลดภาษีบุคคลธรรมดา เพิ่มรายได้ครัวเรือน และออกมาตรการจูงใจการลงทุน เช่น การหักค่าเสื่อมราคาแบบพิเศษ (Bonus Depreciation) เพื่อดึงการลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและ AI

ขณะที่ จีน แม้เศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอลง แต่รัฐบาลยังเดินหน้าใช้นโยบายการคลังเชิงรุก เพิ่มปริมาณเงินในระบบ และอัดฉีดสภาพคล่อง เพื่อพยุงภาคอสังหาริมทรัพย์ รักษาความสามารถในการแข่งขันด้านการส่งออก และป้องกันไม่ให้ค่าเงินหยวนแข็งค่าจนเกินไป

 

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนปี 2569 TISCO ESU แนะนำให้นักลงทุนให้น้ำหนักกับตลาดที่ได้อานิสงส์จากนโยบายรัฐและการลงทุนด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะ สหรัฐฯ และญี่ปุ่น ซึ่งเริ่มนำ AI และระบบอัตโนมัติมาแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานอย่างเป็นรูปธรรม

ขณะที่ตลาดหุ้นจีนเริ่มน่าสนใจในเชิงมูลค่า หลังระดับ Valuation ปรับลดลงมาอยู่ในโซนต่ำ โดยมีค่า P/E ราว 12 เท่า สะท้อนความเสี่ยงด้านลบที่ถูกสะท้อนเข้าราคาไปพอสมควรแล้ว


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer