ในวันที่ผู้บริโภคเลื่อนฟีดเร็วขึ้น เปลี่ยนแพลตฟอร์มบ่อยขึ้น และตัดสินใจซื้อผ่านปลายนิ้ว “การไลฟ์ขายของ” จึงไม่ใช่เป็นแค่เพียงลูกเล่นทางการตลาดอีกต่อไป แต่กลายเป็นอาวุธสำคัญของ SME ที่ต้องการความอยู่รอดและการเติบโต
งานสัมมนา SME X INFLUENCER ครั้งที่ 5 : ไลฟ์ยุคใหม่ ขายยังไงให้ปังทุกแพลตฟอร์ม ที่จัดโดย บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ ร่วมกับสมาคมการค้าปลีกและเอสเอ็มอีทุนไทย สะท้อนชัดถึงทิศทางของยุค Live Commerce ที่มาแรง ตั้งแต่เทศกาลเจนนี่ ที่สะท้อนชัดว่า ผู้บริโภคพร้อมซื้อจากคนที่ “เขาเห็นทุกวัน” มากกว่าจากโฆษณาที่เห็นเพียงครั้งเดียว
นี่จึงเป็นจังหวะสำคัญของ SME ที่กล้าลงสนาม และใช้ “ไลฟ์” เป็นกลยุทธ์หลัก ไม่ใช่แค่เครื่องมือเสริม

จาก Pain Point ส่วนตัว สู่สินค้าขายดีในเซเว่น
หนึ่งในเคสที่สะท้อนพลังของ Live Commerce ได้ชัดเจน คือเรื่องราวของ กษมา ศิลาชัย ผู้ก่อตั้งทิชชู่เปียกแบรนด์ ViVa ที่วางจำหน่ายในเซเว่น อีเลฟเว่น ทั่วประเทศกว่า 2 ปี และก้าวขึ้นเป็นสินค้าขายดีอันดับ 1 ในหมวดผ้าเปียกและทิชชู่เปียกของเซเว่นฯ ในเวลารวดเร็ว
แม่จูนเริ่มต้นจากการเป็นแม่ค้าออฟไลน์ ก่อนพัฒนาตัวเองจนก้าวสู่โลกออนไลน์อย่างจริงจัง ทั้งยังเคยเป็นเจ้าของสินค้าหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นครีมซอง เครื่องสำอาง ลิปซอง ดินสอเขียนคิ้ว น้ำปลาร้าส้มป่อย
จุดเริ่มต้นของ ViVa มาจาก Pain Point ของตัวเอง ใช้ทิชชู่เปียกมาตลอด และเคยแพ้สินค้านำเข้า เลยอยากทำผ้าเปียกคุณภาพดี ราคาจับต้องได้ และผลักดันให้เป็นสินค้าคนไทย ผลิตในไทย
ไลฟ์ให้ปังไม่ได้เริ่มที่เทคนิค แต่เริ่มที่สินค้า สำหรับแม่จูน สูตรความสำเร็จของการไลฟ์ขายของไม่ได้ซับซ้อน แต่ต้องทำให้ครบ สินค้าต้องดีจริง เข้าใจลูกค้าอย่างลึก และต้องขยันไลฟ์อย่างสม่ำเสมอ
เมื่อสินค้าดี ลูกค้าจะกลับมาเอง และกลายเป็น “เสียงบอกต่อ” ที่ทรงพลังที่สุดบนไลฟ์ กลยุทธ์สำคัญคือ ขายในสิ่งที่ถนัดและใช้จริง จนเกิดเป็นปรากฏการณ์ “หม้อแม่จูน” ซึ่งเริ่มจากการทำกินเองในครอบครัว สู่การบอกต่อของเพื่อนอินฟลูเอนเซอร์ และทำยอดขายได้กว่า 2,000 หม้อต่อวัน
“ไลฟ์คือพื้นที่ของความจริงใจ ผู้ซื้อยุคนี้ตัดสินใจด้วยความรู้สึก ต้องทำให้เขาเห็นภาพ เชื่อใจ และรู้สึกว่าคุ้มค่าในเวลาสั้นที่สุด”
เชน-ธนา กับ “ทฤษฎีโกงความรู้สึก”
อีกมุมหนึ่งของ Live Commerce มาจาก ธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ อมาโด้ เขามองว่า “ไลฟ์” คือศาสตร์ที่ต้องเข้าใจทั้งอารมณ์และตัวเลข ไม่ว่าจะเป็น Conversion, จำนวนผู้ชมเฉลี่ย หรือช่วงเวลาที่ผู้ชม “พร้อมควักเงินจริง”
เชนเรียกแนวคิดนี้ว่า “ทฤษฎีโกงความรู้สึก” เพื่อทำให้ผู้ชม “หยุดดู–อยากรู้–อยากซื้อ” ผ่านเทคนิคจังหวะการพูด การย้ำจุดขาย และการสร้าง “ความกลัวตกกระแส” หรือ FOMO อย่างถูกจังหวะ
เช่น ปล่อยคำว่า “เหลือ 10 ชิ้นสุดท้าย” ในจังหวะที่กราฟจำนวนผู้ชมกำลังขึ้น เพื่อดึงพลังตัดสินใจของลูกค้า

เขาสรุปว่าในวันนี้ ไลฟ์คือหน้าร้าน SME ต้องคิดเหมือนกำลังเปิด “ห้างออนไลน์ของตัวเอง” และออกแบบกลยุทธ์ให้เหมาะกับแต่ละแพลตฟอร์ม เพราะ TikTok, Facebook, YouTube และ Marketplace มีพฤติกรรมผู้ซื้อและอัลกอริทึมที่ต่างกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ Live คือเครื่องมือที่ต้นทุนต่ำ แต่สร้างผลลัพธ์สูงที่สุดในยุคนี้
โดย 3 แนวคิดสำคัญของเชนคล้าย ๆ กับแม่จูน คือ
1.สินค้าต้องดีจริง เพราะไลฟ์ขยายทั้งข้อดีและข้อเสียแบบเรียลไทม์
2.เข้าใจแพลตฟอร์ม + เข้าใจลูกค้า + เข้าใจจังหวะขาย คือหัวใจของการเติบโตระยะยาว
3.ความสม่ำเสมอสำคัญกว่าความปังชั่วคราว ไลฟ์คือการสร้างความไว้วางใจสะสม ไม่ใช่การหวังยอดครั้งเดียว
แม้ความสำเร็จจะเริ่มจากหน้าจอมือถือ แต่การก้าวสู่โมเดิร์นเทรดอย่างเซเว่น อีเลฟเว่น ยังเป็นหมุดหมายสำคัญของ SME ที่ต้องยกระดับมาตรฐานสินค้า และระบบบริหารจัดการให้พร้อมเติบโต
ไลฟ์ ไม่ใช่แค่ช่องทางขาย แต่คือสนามพิสูจน์ของสินค้า ความเข้าใจลูกค้า และความสม่ำเสมอที่สร้างความเชื่อใจแบบเรียลไทม์
ในวันที่ผู้บริโภคซื้อจากคนที่เห็นทุกวัน SME ที่ใช้ “ไลฟ์” เป็นกลยุทธ์หลัก จะได้เปรียบทั้งการเติบโตและการอยู่รอดในระยะยาว
