ตลาดออฟฟิศให้เช่า 2567 อาคารสีเขียวซัปพลายโตไม่ทันดีมานด์ ทางเลือกแรกแซงราคา ทำเล
ตลาดออฟฟิศกรุงเทพฯ ปริมณฑล ซัปพลายใหม่ปีนี้ 3.37 ล้าน ตร.ม. จาก 84 โครงการ ขยายตัว 2 เท่า แต่ก็ยังอาจจะไม่พอดีมานด์ เหตุ Corporate Net Zero Goals กลายเป็นเรื่องเร่งด่วน “อาคารสีเขียว” เงื่อนไขแรกผู้เช่าใช้ตัดสินใจ แซงราคากับทำเล
อนาวิล เจียมประเสริฐ หัวหน้าแผนกบริการงานวิจัยและให้คำปรึกษา JLL ประเทศไทย / ไมเคิล แกลนซี่
คุณไมเคิล แกลนซี่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จํากัด (JLL) กล่าวว่า กระแสอาคารสีเขียวในตลาดออฟฟิศกรุงเทพฯ ปริมณฑลจะโตต่อเนื่องตลอดปี 2024 เพราะผู้เช่าจำนวนมาก กำลังมองหาอาคารสำนักงานที่มีความยั่งยืน
ทั้งยังเน้นถึงบทบาทที่สำคัญของข้อมูลการทำงานของอาคารต่อการบรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ (Corporate Net Zero Goals) เนื่องจากองค์กรต่าง ๆ เร่งดำเนินการตามเป้าหมายดังกล่าว โดยเฉพาะองค์กรข้ามชาติซึ่งมีสัดส่วน 60% ของตลาดผู้เช่า
ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้เกิดการแข่งขันในกลุ่มผู้ให้บริการอาคารสำนักงานและการดำเนินงานที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ
ข้อมูลที่รวบรวมโดยเจแอลแอล
96% ของผู้ใช้งานอาคารในไทยที่ทำแบบสำรวจ ประสงค์ให้สินค้าและบริการในธุรกิจของตนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแบบ 100% ภายในปี 2030 ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 17% ในปี 2024 โดย ESG จะขึ้นมาเป็นความสำคัญอันดับหนึ่งในการตัดสินใจเช่าอาคารออฟฟิศ แซงเงื่อนไข ราคาค่าเช่า, โลเคชั่น
และอีก 6 ปี 50% ของผู้เช่าตลาดออฟฟิศ วางแผนเช่าอาคารสีเขียวเท่านั้น และช่วง 5 ปีที่ผ่านมา การเช่าพื้นที่สำนักงานใหม่กว่า 90% เกิดขึ้นในอาคารสีเขียว
ทั้งก่อนโควิด-19 (ปี 2019) อาคารที่ได้รับการรับรองมาตรฐานอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในกรุงเทพฯ ปริมณฑล มีซัปพลายอยู่ที่ 1.7 ล้าน ตร.ม. จาก 44 โครงการ แต่จะขยายตัวเกือบ 2 เท่าในปี 2024 เป็น 3.37 ล้าน ตร.ม. จาก 84 โครงการ
ตลาดออฟฟิศให้เช่า เน้น อาคารสีเขียว
ทั้ง 5 ปีข้างหน้า จะมีซัปพลายอาคารสีเขียว 3.9 ล้าน ตร.ม. รวม 92 โครงการ ซึ่งก็อาจจะยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้เช่าที่อยากย้ายองค์กรไปยังอาคารสีเขียว
เนื่องจาก ณ สิ้นปี 2023 มี 65% ของผู้เช่าสำนักงานมีออฟฟิศอยู่ในอาคารสีเขียว แต่อีก 6 ปีข้างหน้า จะมีมากถึง 96% ของผู้ตอบแบบสอบถาม ที่เผยว่าจะเลือกเช่าพื้นที่ในอาคารสีเขียว
มองระยะยาวไปถึงปี 2030 ความมุ่งมั่นในการลดการปล่อยคาร์บอนของบริษัทจะมีผลต่อการตัดสินใจต่ออายุสัญญาเช่าอีกด้วย และยังคาดว่าความต้องการพื้นที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ ยังมีส่วนในการพิจารณาต่ออายุสัญญาเช่ากว่า 70% ภายในปีดังกล่าว
ถือเป็นสัญญาณสำคัญที่จะทำให้เจ้าของและนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์หันมาให้ความสำคัญกับความยั่งยืน ซึ่งไม่ใช่แค่เพื่อโลกของเราเท่านั้น แต่เพื่อผลกำไรของพวกเขาเองด้วยเช่นกัน
โดยผู้ประกอบการอาคารออฟฟิศให้เช่าจะสามารถประหยัดต้นทุนได้มากถึง 6% ของรายได้ต่อปี ผ่านการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและการลดของเสียในอาคารสีเขียว เมื่อเทียบกับอาคารสำนักงานปกติ
อย่างกรณีศึกษาอื่น ๆ จากลูกค้าของเจแอลแอล ประเทศไทย ที่เป็นแบบอย่างความสำเร็จด้านอาคารสีเขียว ได้แก่ One Bangkok, Park Silom, Park Ventures และ Sathorn Square อาคารเหล่านี้นับเป็นตัวอย่างด้านความยั่งยืน
โดยได้รับการรับรองอย่าง LEED และ WELL ซึ่งเป็นเครื่องแสดงถึงความมุ่งมั่นด้านสิ่งแวดล้อม การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และการออกแบบที่ยั่งยืน
กรณีศึกษาเช่นว่า แสดงให้เห็นถึงผลกระทบเชิงบวกของ ESG ต่อประสิทธิภาพการดำเนินงาน ความพึงพอใจของผู้เช่า และความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมในตลาดออฟฟิศให้เช่าของกรุงเทพฯ ปริมณฑล
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /

