เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เป็นมากกว่าโรงภาพยนตร์ วันนี้กำลังเดินเกมรุก 2 ธุรกิจใหม่ Alternative Content และ Event

การขับเคลื่อนธุรกิจของ “เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์” หรือ MAJOR ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจของนักการตลาดทุกระดับ จากธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจนเรียกได้ว่า “ถูกแช่แข็ง” ให้จอดำไปหลายระลอก กลับฟื้นตัวกลับมาได้แบบ V-shape อย่างรวดเร็ว และยังคงเดินหน้าสานต่อหน้าที่หัวลากนำพาธุรกิจโรงภาพยนตร์ในระดับมหภาคให้เดินหน้าต่อไปได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย

โดยมีกลยุทธ์ More Than Cinema” หรือ การเป็นมากกว่าโรงภาพยนตร์ มาเป็นอีกหนึ่งแกนหลักเพื่อยกระดับบทบาทของธุรกิจให้เพิ่มขึ้นอีกขั้น ทั้งความสำเร็จในการนำ Alternative Content” หรือคอนเทนต์ประเภทอื่น ๆ ที่หลากหลาย

นอกจากการนำภาพยนตร์มาฉายตามปกติ จนกลายเป็นกระแสฟีเวอร์แบบสุด ตลอดจนการพัฒนา Event Business” ธุรกิจการจัดอีเวนต์หรือกิจกรรมหลากหลายรูปแบบในโรงภาพยนตร์ ซึ่งล้วนได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากคิวงานที่แน่นยาวตลอดทั้งปี

Marketeer พาไปเจาะลึกถึงทิศทางและกลยุทธ์การเดินหน้าธุรกิจ สู่ภาคต่อตอนใหม่ที่จะสานต่อนิยาม “เป็นมากกว่าโรงภาพยนตร์” ของ “เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์”

ผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในสายตาของคอหนัง โรงภาพยนตร์ยังคงเป็น First Window ที่สามารถมอบประสบการณ์ในการชมภาพยนตร์ที่ดีที่สุดเสมอ ดังนั้น จึงไม่แปลกที่จะเห็นยอดขายตั๋วหนังที่เป็นกระแสหลายเรื่องยังคงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี กระแส “ภาพยนตร์ไทย” ในช่วงไตรมาสที่ 4 ในปี 2566 ที่ผ่านมา ถือได้ว่ายอดเยี่ยมมาก ๆ

เมื่อรวมกับ “ธุรกิจป๊อปคอร์น” ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งรายได้หลัก บวกกับความสำเร็จของ 2 ธุรกิจใหม่อย่าง Alternative Content Business และ Event Business ที่มีส่วนสำคัญอย่างมาก ทำให้ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ มีรายได้รวมสูงถึง 8,551 ล้านบาท เติบโตขึ้น 34% เมื่อเทียบกับปี 2565 และสามารถสร้าง ผลกำไรได้สูงถึง 1,042 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโตมากถึง 313%

สิ่งที่น่าสนใจไม่น้อยคือ Vision & Mission ในปี 2024 ของเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ได้เดินกลยุทธ์ในการสนับสนุน New Business ซึ่งประกอบไปด้วย Alternative Content Business และ Event Business ให้มาเป็นอีกหนึ่ง Pillar หลัก ซึ่งถือได้ว่าเป็นการเสิร์ฟความหลากหลายให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค และสร้างประสบการณ์แตกต่างที่น่าประทับใจได้อย่างลงตัว

Alternative Content Business” เพิ่มทางเลือกความบันเทิงที่หลากหลาย พร้อม Exclusive Content ที่มีเฉพาะเครือเมเจอร์ฯ

ภายใต้แนวคิด Customer Happiness” หรือการสร้างความสุขให้กับลูกค้ามากที่สุด ที่ยังคงใช้เป็นแกนหลักในการดำเนินธุรกิจ “เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์” ไม่หยุดที่จะเสิร์ฟคอนเทนต์หลากหลายและเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค

ทั้งไลน์อัปหนังคุณภาพทั้งหนังฮอลลีวูดและหนังไทยอัดแน่นตลอดปีที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดรายได้ชั้นดี ที่สำคัญคือการนำ Alternative Content” มาเติมเต็มส่วนที่ขาดเพื่อเพิ่มทางเลือกความสุขของผู้บริโภคได้อย่างลงตัว

โดย Alternative Content แบ่งเป็น 4 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่

  1. Animation ภาพยนตร์ในรูปแบบแอนิเมชั่น เช่น Slamdunk, Resident Evil
  2. Concert KPop และ International คอนเสิร์ตจากเกาหลี และจากต่างประเทศ เช่น BTS, Taylor Swift, Beyoncé, Billie Eilish.
  3. Live Streaming Musical Show ถ่ายทอดสดคอนเสิร์ตจากต่างประเทศ เช่น Metallica, TXT Sweet Mirage, Boy George
  4. Live Viewing Event ถ่ายทอดสดกีฬา และงานประกาศรางวัลระดับโลก ร่วมกับ True Visions เช่น Superbowl, NBA, FA Cup, Oscars

ที่น่าสนใจเป็นอย่างมากคือ ข้อมูลจากเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ระบุว่ารายได้จาก Alternative Content Business ในปี 2566 เติบโตมากขึ้นถึง 300% เทียบกับปี 2565 โดยมีคอนเทนต์ที่ประสบความสำเร็จจนกลายเป็นกระแสฟีเวอร์มากมาย อาทิ  BTS, THE FIRST SLAMDUNK,  IU, TAYLOR SWIFT, NCT และ BEYONCE โดยมีจำนวนคนดูรวมกันมากกว่า 100,000 คนเลยทีเดียว

ต้องบอกว่า Alternative Content เป็นการจับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ หรือ Gen Z ได้อย่างถูกจุด จึงไม่แปลกที่จะได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก ๆ จากกลุ่มลูกค้านักเรียน-นักศึกษา โดยเฉพาะกลุ่มแฟนคลับที่ชื่นชอบศิลปิน และมีการเหมารอบเพื่อชมร่วมกันในกลุ่มของแฟนคลับที่ชื่นชอบศิลปินนั้น ๆ

และเหนืออื่นใดการชม Alternative Content ในโรงภาพยนตร์เป็นประสบการณ์ที่แตกต่างจากการชมในรูปแบบอื่น ๆ โดยเฉพาะการชมในโรงภาพยนตร์ระบบพิเศษที่มีเฉพาะเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ไม่ว่าจะเป็น ระบบ IMAX with Laser จอยักษ์ เสียงกระหึ่ม รอบทิศทาง หรือระบบ ScreenX ฉายแบบ 3 จอ 3 ทิศทาง ให้ภาพกว้างถึง 270 องศา เสมือนนั่งชมคอนเสิร์ตติดขอบเวที ซึ่งเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ได้ลงทุนนำนวัตกรรมสุดล้ำมาสู่ประเทศไทย เพื่อส่งมอบความสุขให้ผู้ชมได้สัมผัสประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นเร้าใจแบบเต็มอรรถรสในทุกรูปแบบคอนเทนต์

ทั้งนี้ ยังได้มีการร่วมมือกับพันธมิตรไปยังนานาประเทศเพื่อต่อยอด Alternative Content ให้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นจาก อังกฤษ ฝรั่งเศส แคนาดา (IMAX)  ญี่ปุ่น เกาหลี และสิงคโปร์ เป็นต้น

สำหรับปีนี้ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ยังคงเดินหน้าส่งมอบ Alternative Content สุด Exclusive ที่มีเฉพาะเครือเมเจอร์ฯ อีกมากมาย โดยจะมีไฮไลต์ทั้ง Anime และ K-Pop ที่ต้องบอกว่ารอติดตามได้เลย!

Event Business” ความสำเร็จที่เกินคาด สู่แกนหลักใหม่ของธุรกิจ

ย้อนกลับไปยุคทองของโรงภาพยนตร์ก่อนวิกฤตโควิด-19 ใครจะคิดว่าโรงหนังจะกลายเป็นที่จัด Event ได้สมบูรณ์แบบขนาดนี้

เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ได้เดินหน้าเปิดประสบการณ์ใหม่กับกิจกรรมหลากหลายรูปแบบในโรงภาพยนตร์ ที่มากกว่าการเหมารอบชมภาพยนตร์

ไม่ว่าจะเป็นการจัดประชุมสัมมนา, Workshop, Team Building, TalkShow, จัดประชุม Live Conference ทั่วประเทศ, กิจกรรม Fan Meeting ชมละครหรือซีรีส์, จัดงานเลี้ยงวันเกิด, ขอแต่งงาน, จัดงานแต่งงาน, สถานที่ถ่ายทำโฆษณา ถ่ายละคร/รายการ, การแข่งขัน E-Sports, มินิคอนเสิร์ต, งานประกวด, ประกาศผลรางวัล, งานถ่ายทอดสด หรือการเหมารอบเพื่อจัดกิจกรรมภายในขององค์กรต่าง ๆ

และที่ได้รับความนิยมอย่างมาก คือ แบรนด์ชั้นนำต่าง ๆ เลือกใช้บริการโรงภาพยนตร์เครือเมเจอร์ฯ เป็นที่จัดงานแถลงข่าว งานเปิดตัวสินค้าหรือโครงการใหม่ ซึ่งได้ทั้งความหรูหรา สะดวกสบาย ประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่าง และที่สำคัญคือจำนวนสาขาที่มากถึง 184 สาขา 856 โรงภาพยนตร์ ครอบคลุม 63 จังหวัดทั่วประเทศ สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น

ทั้งนี้ในปี 2566 ที่ผ่านมาได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากและมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ และในปีนี้ 2567 ก็มียอดจองเข้ามาล่วงหน้าแน่นตลอดทั้งปี ซึ่งเชื่อว่าจะมีการตอบรับที่ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป ตาม Vision & Mission 2024 ของเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ดังที่กล่าวไป

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer