ทุเรียนไทย อัพเดทสถานการณ์ล่าสุดปี 2567 วันนี้เราอยู่ตรงไหน ?
ในไม่กี่ไตรมาสที่ผ่านมาเวียดนามส่งออกทุเรียนไปจีนแซงหน้าประเทศไทยทั้งแบบสดและแบบฟรีซ เพราะไทยมีผลผลิตน้อยจากสภาพอากาศเล่นงาน จากที่เคยเป็นผู้ส่งออกทุเรียนไปจีนมากที่สุด
และมาเลเซียก็กลายเป็นผู้ผลิตทุเรียนมูซานคิงที่ขึ้นชื่อในสายตาของต่างชาติ
แล้วทุเรียนไทย อยู่ตรงไหน?
ในอดีตเราอาจจะนิ่งนอนใจกับการเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำอุดมสมบูรณ์ เพาะปลูกอะไรก็ดี จึงภูมิใจกับข้าวไทย อาหารไทย รวมไปถึงผลไม้ไทย
แต่อาจชะล่าใจไปว่า ความภาคภูมิใจของเรานั้น วันหนึ่งเพื่อนบ้านก็อาจทำตามสูตรความสำเร็จของประเทศไทยได้เช่นกัน โดยเฉพาะเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ใกล้เคียงกันมาก
เมื่อพูดถึงผลไม้ จันทบุรีคือจังหวัดที่ทรงอิทธิพลเพราะเป็นแหล่งเพาะปลูกผลไม้ขึ้นชื่อของไทย โดยเฉพาะ King of Fruit ที่มีมูลค่ามากอย่างทุเรียน แหล่งผลิตที่ส่งออกผลิตผลจำนวนมาก ได้แก่ จังหวัดชุมพร และจันทบุรี
คุณอุกฤษฏ์ วงษ์ทองสาลี ประธานหอการค้าจังหวัดจันทบุรี เล่าให้ Marketeer ฟังว่า ทุเรียนมีการแข่งขันที่สูงมาก คนหันมาปลูกทุเรียนเพื่อจำหน่าย ส่งผลให้ตลาดทุเรียนเฉพาะในจังหวัดจันทบุรี มีมูลค่าสูงถึง 130,000 ล้านบาท มากกว่ามูลค่าตลาดน้ำดื่มเท่าตัว และมากกว่าตลาดเชนร้านอาหารที่เป็น Quick Service Restaurant หรือ QSR สองเท่า
ทุเรียนเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของไทย เพราะมีสัดส่วนส่งออกมากถึง 70% ขณะที่เหลือบริโภคภายในประเทศเพียง 30%
และถ้ามองภาพรวมในปีที่ผ่านมา 70% ของทุเรียนที่ส่งออกทั่วโลกคือทุเรียนไทย โดยมีตลาดสำคัญคือประเทศจีนที่เป็นผู้บริโภคทุเรียนมากที่สุดในโลก
ซึ่งสัดส่วนการส่งออกทุเรียนไทยไปยังผู้บริโภคชาวจีนส่งออกไปยังประเทศจีน และชาวจีนที่อาศัยอยู่ในประเทศต่างๆ มีมากถึง 70% ของตลาดทุเรียนโลก
อย่างไรทุเรียนไทยก็ยังยืนหนึ่งด้านชื่อเสียง
ไม่ได้น่ากังวลเมื่อมีเพื่อนบ้านพยายามปลูกทุเรียน และผลักดันมาสู้กับไทย เพื่ออยากจะชิงมาร์เก็ตแชร์ในตลาดทุเรียนที่มีมูลค่ามหาศาลและส่งออกไปได้ทั่วโลก เนื่องจากทุเรียนไทยได้สร้างความเข้าใจในผลไม้ชนิดนี้ไว้แล้ว
“ให้นึกภาพตามว่า ประเทศไทยก็ปลูกสตรอว์เบอร์รี่ แต่พอนึกถึงสตรอว์เบอร์รี่ที่อร่อยที่สุด ที่ควรลิ้มลองสักครั้ง เราจะนึกถึงประเทศเมืองหนาว ทุเรียนก็เช่นกัน แม้เพื่อนบ้านส่งออกทุเรียนแซงหน้าไทย แต่เรื่องปริมาณเทียบไม่ได้กับคุณภาพ เมื่อนึกถึงทุเรียน คนก็ยังคงยกให้ทุเรียนไทยเป็น Top of mind brand อยู่”
ที่เห็นได้ชัดคือทุเรียนสายพันธุ์มูซานคิงที่มาเลเซียพยายามจะโปรโมตในประเทศจีนว่าเป็นพันธุ์ที่อร่อยที่สุด เนื้อสัมผัสค่อนข้างมีความ creamy กว่าสายพันธุ์อื่น ซึ่งจังหวัดเดียวในประเทศไทยปลูกทุเรียนมูซานคิงมากกว่ามาเลเซียทั้งประเทศ
ชาวจีนจะมองว่าหมอนทองเป็นพรีเมียมแมส ซึ่งมีจำหน่ายในประเทศจีนเกินกว่า 60% แต่มูซานคิงอยู่ระดับ Top-tier เพราะความนิยมของคนจีน คือ ชอบทุเรียนที่มีเนื้อสัมผัสนิ่มไปจนถึงเละ และหวานจัด มูซานคิงจึงตอบโจทย์ที่สุด แต่ยังมีจำหน่ายน้อย
เมื่อก่อนคนจีนไม่ได้รู้จักพันธุ์ทุเรียนนัก เพิ่งมาเริ่มในช่วงหลังที่การขนส่งดีขึ้น ทำให้ทุเรียนถูกส่งไปหลากหลายสายพันธุ์มากขึ้น จึงทำให้คนได้ลิ้มลองและแยกความแตกต่างของแต่ละชนิดได้
ซึ่งการจะขยายการเติบโตของตลาด ต้องหาน่านน้ำใหม่ ๆ จากเดิมที่ทุกประเทศแข่งกันเจาะตลาดจีน ก็ต้องเปลี่ยนไปหาตลาดใหม่ เช่น Asian-Overseas หรือ Chinese-Overseas
การส่งทุเรียนสดยังเป็นข้อได้เปรียบของทุเรียนไทย ที่ทำให้ชาวจีนรับประทานทุเรียนจากไทยเป็นหลัก เพราะประเทศคู่แข่ง เช่น มาเลเซียและเวียดนาม เพิ่งได้รับอนุญาตให้ส่งออกทุเรียนสดไปจีน จากที่ผ่านมามีแค่ไทยที่ได้รับอนุญาตให้ส่งออกทุเรียนสดไปจีนเพียงอย่างเดียว สร้างผลกระทบต่อตลาดทุเรียนไทย
“การส่งทุเรียนสดต้องเรียนรู้กรรมวิธีการแพ็กที่ต้องรักษาสินค้า ความสด ความอร่อย คงคุณภาพไว้ให้นานที่สุด ซึ่งการจะพัฒนาเทคโนโลยีนี้มาให้ได้ทัดเทียมไทยเรา คู่แข่งต้องใช้เวลา 1-2 ปี หรืออาจใช้เวลาเร็วกว่านั้น ซึ่งน่ากังวลหากไทยไม่สามารถอาศัยช่องว่างที่มีนี้ เร่งสปีดตีห่างคู่แข่งให้ขาดรอยได้ อาจถูกตีเสมอ และเมื่อถึงเวลานั้น ไทยจะเหนื่อยมาก”
หลังได้รับอนุญาตให้ส่งทุเรียนสดได้ เพื่อนบ้านก็เร่งทำการตลาด โฆษณาทุเรียนในประเทศตนเป็นสายพันธุ์ทุเรียนที่อร่อยที่สุด
“สิ่งที่น่ากังวลไม่ใช่ปริมาณการส่งออกหรือคุณภาพ เพราะอย่างไรไทยยังได้เปรียบเรื่องดิน ที่แตกต่างจากเพื่อนบ้าน แต่การทำการตลาดต่างหาก สิ่งนี้ที่น่ากังวล”
กุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ไทยยังรักษาการเป็นผู้นำในตลาดได้ คือ ต้องทำการตลาดอย่างจริงจังและใส่ใจมากกว่านี้ เพราะตลาดทุเรียนมีมูลค่ามากพอให้ภาครัฐให้ความสำคัญและทำการตลาดในสเกลใหญ่
สิ่งสำคัญคือการ Educate ผู้บริโภคให้รู้จักสายพันธุ์ ทุเรียนไทย ที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย รองรับทุกความต้องการของผู้บริโภคที่แตกต่างกัน
การที่ผู้ประกอบการนำทุเรียนไปสร้างสรรค์เป็นเมนูต่าง ๆ จำหน่าย ช่วยขับเคลื่อน Domestic consumption ในอีกทางหนึ่งได้ นำพาผลไม้ไทยเป็นตัวชูโรงเศรษฐกิจ ดังเช่นเซสชั่นการท่องเที่ยวได้
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
