นันยาง เปลี่ยนกลยุทธ์ขอลุยตลาดบนเส้นทางที่เลิกกดดันตัวเอง
จะกี่ปีการตลาดยังคงมีการแข่งขันดุเดือดเช่นเดิม เพราะเมื่อเม็ดเงินในกระเป๋าของผู้บริโภคมีอยู่อย่างจำกัด และนันยางจะทำอย่างไรให้ลูกค้ายอมจ่ายเพื่อซื้อรองเท้าคู่ใหม่
ในปีที่ผ่านมา ตลาดรองเท้านักเรียน มูลค่า 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็น รองเท้าผ้าใบ 60% รองเท้านักเรียนหญิง (รองเท้า PVC) 35% และอื่น ๆ 5%
ในตลาดนี้เป็นตลาดที่มีผู้เล่นในตลาด 10-15 ราย
และนันยางเป็นหนึ่งในผู้เล่นหนึ่งที่มีส่วนแบ่งตลาด 45% ของตลาดรองเท้านักเรียนผ้าใบทั้งหมด
โดยยอดขายของนันยางมาจากช่องทาง
Traditional Trade 70%
Modern Trade 20%
Online 10%

การมีส่วนแบ่งตลาดมากถึง 45% ของนันยาง มาจากกลยุทธ์การตลาดผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งการตลาด การขาย การสื่อสาร ต่อเนื่องทั้งปี
แม้ตลาดนี้จะมีช่วงขายหลักอยู่สองช่วง คือ ช่วงปิดเทอมใหญ่ที่มีสัดส่วนยอดขาย 80% และปิดเทอมเล็กอีก 20% จากตลาดรองเท้านักเรียนทั้งหมด
จากกลยุทธ์การตลาดอย่างต่อเนื่องของนันยาง ดร. จักรพล จันทวิมล กรรมการผู้จัดการ บริษัท นันยางมาร์เก็ตติ้ง จำกัด ให้ข้อมูลว่าในปีที่ผ่านมานันยางมีการเติบโตมากถึง 13.7% สูงกว่าอัตราการเติบโตรวมของตลาดที่เติบโตเพียงประมาณ 3%

และในปีนี้ ดร. จักรพล วางเป้าหมายว่าจะพานันยางเติบโต 3-5% เป็นการเติบบนอัตราเด็กที่เกิดน้อยลงทุกปี
การพานันยางเติบโตในตลาดรองเท้าผ้าใบนักเรียนในปีนี้ ดร. จักรพล วางกลยุทธ์พร้อมเพิ่มกลยุทธ์เพื่อรุกขยายโอกาสทางการตลาดในทุกช่องทางและยังคงเน้นเป้าหมายหลักที่กลุ่มนักเรียน รองลงมา ได้แก่ นักกีฬา คนทำงาน และผู้ใช้งานอเนกประสงค์
การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหลักที่เป็นกลุ่มนักเรียนของนันยางในช่วง Black to School ก่อนเปิดเทอมภาคเรียนที่หนึ่ง นันยางได้วางกลยุทธ์การสื่อสารผ่านแคมเปญ “พอดีไม่เหมือนกัน”
ซึ่งแคมเปญนี้เป็นการต่อยอดจากสื่อสารการตลาดของนันยางในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ผ่านแนวคิด การแสดงจุดยืนยุติปัญหาการบูลลี่ในโรงเรียน ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากทุกภาคส่วนโดยเฉพาะนักเรียนทั่วประเทศ
ส่วนแคมเปญ “พอดีไม่เหมือนกัน” เป็นแคมเปญนันยางต้องการเชื่อมโยงกับปัญหาทางด้านจิตใจของเด็กนักเรียนไทย เพราะข้อมูลจากกรมสุขภาพจิต พบสถานการณ์สุขภาพจิตของเยาวชนไทย ในช่วงปี 2563-2567 มีความเครียดสูง ร้อยละ 24.83 มีภาวะเสี่ยงซึมเศร้า ร้อยละ 29.51 และเสี่ยงฆ่าตัวตายสูงถึง ร้อยละ 20.35 ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าวัยอื่น ๆ สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากความเครียด ความเหนื่อยล้า ซึ่งถือเป็นปัญหาที่ต้องเร่งให้ความช่วยเหลือ และยังทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทำให้นันยางต้องการนำเรื่องสุขภาพจิตของเด็กไทยมาเป็นเครื่องการสื่อสารเพื่อเป็นกระบอกเสียงให้ทุกคนที่กำลังรู้สึกแย่จากตัดสินและตำหนิตัวเองมากเกินไป หรือนำตัวเองไปเปรียบเทียบกับเพื่อน ๆ ได้มีที่ปรึกษาในการบรรเทาปัญหาดังกล่าว และเป็นการสื่อสารที่แตกต่างจากคู่แข่งอื่น ๆ ที่เข้าถึงอินไซด์ของผู้บริโภค
ซึ่งแคมเปญ “พอดีไม่เหมือนกัน” นันยาง จะประกอบด้วยกิจกรรมออนกราวด์ด้วยการจัดพื้นที่ลิโด้ สยามสแควร์ ให้ถ่ายรูปรอยเท้าตัวเอง เพื่ออวดรอยเท้าพอดีไม่เหมือนกันของทุกคน ตั้งแต่ 26 เมษายน- 5 พฤษภาคม 2567
การสร้างสรรค์เพลง พอดีไม่เหมือนกัน ที่มีเนื้อหาให้กำลังใจและหันกลับมาดูแลใจตัวเอง และที่สำคัญที่สุดคือการพัฒนา
และการเปิดแพลตฟอร์ม “ดูใจตน วอลเล็ต” ผ่านเว็บไซต์ www.พอดีไม่เหมือนกัน.com เพื่อเป็นช่องทางให้วัยรุ่นเข้ามาทำแบบประเมินทางจิตวิทยาเพื่อสำรวจใจดีกับตัวเอง และเป็นช่องทางการรับฟัง เข้าใจ และให้คำแนะนำแก่ผู้ที่กำลังเผชิญหน้ากับการกดดันตนเอง ให้กลับมาใจดีกับตัวเองให้มากขึ้น
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
