
เอเชียเป็นทวีปกว้างใหญ่กินพื้นที่มหาศาลและเต็มไปด้วยประเทศมากมาย โดยบริเวณที่ร้อนสุดทั้งด้วยจากอุณหภูมิและในเชิงเปรียบเทียบ แถมมีนัยสำคัญอย่างมากต่ออุตสาหกรรมพลังงาน ต่อเนื่องไปถึงเศรษฐกิจคือตะวันออกกลาง

แม้เป็นแหล่งน้ำมันใหญ่สุดในโลกซึ่งแน่นอนว่าสร้างความมั่งคั่งให้หลายประเทศ แต่ตะวันออกลางก็เหมือนพื้นที่ต้องคำสาป เพราะเต็มไปด้วยความขัดแย้งอันเสี่ยงต่อการกระทบกระทั่ง โดยเมื่อความขัดแย้งเหล่านี้ปะทุก็จะส่งโดยตรงต่อราคาน้ำมันทุกครั้งไป

เริ่มจากความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอียิปต์กับซีเรียในปี 1973 ซึ่งเป็นชนวนเหตุให้เกิดสงครามยมคิปปูร์ และต่อมากลุ่มประเทศอาหรับ นำโดยซาอุดีอาระเบียเข้าร่วมด้วย จากนั้นฝ่ายหลังก็ระงับการส่งน้ำมันไป สหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น เพื่อตอบโต้ที่หนุนอิสราเอล
สถานการณ์ดังกล่าวบานปลายกลายเป็นวิกฤตโลก ส่งผลให้น้ำมันขาดแคลนอย่างหนัก และราคาพุ่งขึ้นไปถึง 300% แต่ขณะเดียวกันก็จุดประกายให้บริษัทยานยนต์ทั่วโลกพร้อมใจกันคิดค้นและผลิตรถขนาดเล็กที่ประหยัดน้ำมันออกมา เช่น รุ่น Fiesta ของ Ford

อีก 6 ปีให้หลังก็เกิดสถานการณ์ในตะวันออกกลางที่กระทบต่อราคาน้ำมันอีก โดยปี 1979 ฝ่ายอยาโตเลาะห์ โคไมนี่ ผู้นำมุสลิมสายอนุรักษนิยมเคร่งครัดในอิหร่าน ก่อการปฏิวัติโค่นล้มกษัตริย์ โมฮัมเหม็ด เรซา ปาห์ลาวี จนฝ่ายหลังต้องหนีออกจากประเทศไปสหรัฐฯ
เหตุการณ์ต่อเนื่องที่ตามมาคือ การบุกยึดสถานทูตสหรัฐฯ ในอิหร่านที่ภายหลังสหรัฐฯ เปิดปฏิบัติการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่สถานทูตอย่างลับผ่านการสร้างหนังหลอก และถูกนำมาทำเป็นหนังเรื่อง Argo และปริมาณน้ำมันในตลาดโลกลดลง 4% ซึ่งทำให้ราคาน้ำมันทั่วโลกแพงขึ้น 2 เท่า

ข้ามมาปี 1990 ความขัดแย้งในตะวันออกกลางก็ปะทุขึ้นมาอีก โดยอิรักส่งทหารรุกรานคูเวต ซึ่งต่อมาบานปลายเป็นสงครามอ่าวเปอร์เซียที่สหรัฐฯ ในยุคของประธานาธิบดี จอร์จ เอช บุช เป็นแกนนำ

จากการที่อิรักกับคูเวตต่างก็เป็นประเทศที่แหล่งน้ำมันและผลิตน้ำมัน สงครามครั้งนี้จึงพาให้น้ำมันของสองประเทศนี้หายไปจากตลาดโลก และตลอดการสู้รบราคาน้ำมันก็เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า
สงครามอ่าวเปอร์เซียยังเป็นครั้งแรกที่คนทั่วโลกได้เห็นการสู้รบและโจมตีสด ๆ จากสมรภูมิ ถือเป็นการปฏิวัติวงการสื่อและการรายงานข่าวแบบถ่ายทอดสด ซึ่งสถานีโทรทัศน์ที่แจ้งเกิดจากวิกฤตโลกครั้งนี้ก็คือ CNN

หลังจากนั้นก็ไม่เกิดความขัดแย้งใหญ่ ๆ ในตะวันออกกลาง ที่กระทบต่อราคาน้ำมันอีก ท่ามกลางความพยายามของยักษ์ในภูมิภาคอย่าง ซาอุฯ ที่หันไปลงทุนในกิจการอื่น ๆ เช่น กีฬา และพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว เพื่อลดการพึ่งพาน้ำมัน

ส่วนเมืองใหญ่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อย่างดูไบก็พัฒนาต่อเนื่อง จนเป็นที่หมายลำดับต้น ๆ ของนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนัก และปี 2022 กาตาร์ ก็เป็นประเทศแรกในภูมิภาคที่ได้จัดฟุตบอลโลก

แต่แล้วความขัดแย้งก็ปะทุขึ้นอีกครั้ง โดยต้นตุลาคมปี 2023 กลุ่มฮามาสในปาเลสไตน์เปิดฉากโจมตีอิสราเอล และอิสราเอลโต้กลับอย่างรุนแรง โดยเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
ด้านไทยแม้อยู่ห่างไกลจากพื้นที่สู้รบแต่กลับได้รับผลกระทบด้วย เพราะแรงงานที่ไปทำงานในอิสราเอลเสียชีวิตจากการโจมตีของกลุ่มฮามาส และยังมีอีกมากที่ถูกจับเป็นตัวประกัน

ส่วนผลกระทบต่อราคาน้ำมันคาดกันว่า หากการสู้รบยืดเยื้อและบานปลาย การส่งออกและลำเลียงน้ำมันจากตะวันออกลางอาจสะดุดจนราคาในตลาดโลกพุ่งไปทะลุ 100 ดอลลาร์ (ราว 3,600 บาท) ต่อบาร์เรล
ขณะเดียวกันก็จะทำให้โลกเกิดการแบ่งขั้วมากขึ้น การลำเลียงสินค้าทางเรือทั้งขาเข้าและออกจากตะวันออกกลางสะดุด จนราคาสินค้าแพงขึ้น
ด้านคนหนุ่มสาวชาวอิสราเอลจำนวนมากที่เป็นกำลังทหารสำรองและทำงานอยู่ต่างประเทศต้องกลับบ้านเกิดไปสู้รบ/dw, reuters, cnbc, dw, wikipedia, cnn
–
