MK วิถีผู้นำที่ไม่เคยหยุดเปลี่ยนแปลงตัวเอง วิเคราะห์สถานการณ์ MK วันนี้หม้อสุกี้เดือดแค่ไหน

เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ ฤทธิ์ ธีระโกเมน ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MK กรุ๊ป และลูกสาว-ลูกชาย ทานตะวัน (EVP-CMO สายงานการตลาด และธีร์ ธีระโกเมน (EVP-COO สายงานปฏิบัติการ) 2 ผู้บริหารรุ่นใหม่พร้อมกันมาตอกย้ำความเป็นผู้นำที่ไม่เคยหยุดการเปลี่ยนแปลงตัวเอง ในงาน THAIFEX – Anuga Asia 2024

หลังวิกฤตโควิด-19 ปี 2564 MKกรุ๊ป มีรายได้ 11,368.01 ล้านบาท กำไร 130.98 ล้านบาท

ในปี 2566 พลิกกลับมาทำรายได้ที่ 16,661 ล้าน บาทกำไร 1,682 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการเปลี่ยนแปลงตัวเองในหลาย ๆเรื่องอย่างต่อเนื่อง

ท่ามกลางการแข่งขันของตลาดสุกี้ที่มีคู่แข่งเกิดขึ้นมากมายทั้งที่มองเห็นและยังมองไม่เห็นเป็นตัวผลักดันสำคัญที่ทำให้ยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนธุรกิจของMKกรุ๊ปเปลี่ยนไป

ปี 2566 MK มีการประกาศการเปลี่ยนโลโก้บริษัท เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์และวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจที่เริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างเงียบ ๆ มานาน

และในที่สุดผู้บริหารของMKก็ใช้เวทีของงาน “Thaifex-Anuga Asia 2024 ประกาศ 6 ไฮไลท์พอร์ตธุรกิจใหม่เป็นครั้งแรกเพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพทางธุรกิจที่สามารถแตกไลน์ออกไปนอกเหนือเครือร้านอาหาร แต่ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่คุณค่าของอุตสาหกรรมอาหารครบวงจร ตลอดจนธุรกิจอื่น ๆ ทั้งในประเทศและพร้อมไปสู่ต่างประเทศ

6 ไฮไลท์พอร์ตธุรกิจใหม่

1. แฟรนไชส์ร้านอาหารไทยพร้อมก้าวไปสู่เวทีโลก ถือเป็นโอกาสสำหรับผู้ที่สนใจอยากเป็นเจ้าของธุรกิจร้านอาหารไทยในต่างประเทศ International Franchise หนึ่งในหน่วยธุรกิจของ MK Group พร้อมเปิดรับคู่ค้าที่จะมาร่วมผนึกกำลังขยายสาขา โดยจะช่วยดูแลในทุกขั้นตอนทั้งการวางแผน การฝึกอบรม ไปจนถึงการขนส่งวัตถุดิบ เพื่อคงคุณภาพและมาตรฐาน

2. โลจิสติกส์ One Stop Services สำหรับธุรกิจทุกประเภท โดยการผนึกกำลังกันระหว่างMK Group ที่มีประสบการณ์อย่างยาวนานในธุรกิจอาหารกับ Senko Group Holding ผู้นำด้านโลจิสติกส์ในประเทศญี่ปุ่น ที่มีอายุกว่า 100 ปี สู่ M-Senko Logistics ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์แบบ One Stop Services สำหรับธุรกิจทุกประเภท

3. สินค้าเพื่อสุขภาพสำหรับทุกคน ที่สร้างรายได้ให้เกษตรกรไทย โดย Mark One Innovation Center ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ เอ็มเค เวลเนส (MK Wellness) สินค้าทางเลือกเพื่อสุขภาพของคนไทย และสนับสนุนเกษตรกรไทย พร้อมเปิดรับตัวแทนจำหน่ายเพื่อขยายตลาดสู่ต่างประเทศ โดยมีสินค้าเพื่อสุขภาพที่หลากหลาย

4. ซอสรสชาติไทยต้นตำรับที่ครองใจผู้บริโภคอย่างยาวนาน จากจุดเริ่มต้นของน้ำจิ้มสุกี้MK สู่ผลิตภัณฑ์น้ำจิ้มสุกี้MK แบบขวด ชู  ที่วันนี้พร้อมส่งออกไปเกาหลี อังกฤษ แคนาดา และสหรัฐอเมริกา และตั้งเป้าขยายการเติบโตส่งออกในหลายประเทศทั่วโลก

นอกจากนี้ ยังมีอีก 2 กลุ่มธุรกิจที่ต่อยอดความสำเร็จจากความเชี่ยวชาญในธุรกิจอาหาร คือ บริการ OEM/ODM ภายใต้บริษัท IFS เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่มองหาซัปพลายอาหาร ครอบคลุมสินค้าอาหารหมวด เกี๊ยว, ชุบแป้งทอด, ติ่มซำ, บะหมี่ และอื่น ๆ ตามความต้องการของลูกค้า ให้บริการโซลูชันอาหารครบวงจร

ตั้งแต่ให้คำปรึกษา ออกแบบผลิตภัณฑ์ การผลิตและหาบรรจุภัณฑ์ การวิเคราะห์ ทดสอบคุณภาพ ไปจนถึงการจดแจ้งทะเบียนอาหาร และบริการด้านโลจิสติกส์ และบริการอาหารจากครัวกลางคุณภาพมาตรฐานสากล อย่างMK Food Service สำหรับลูกค้าองค์กรที่กำลังมองหาบริการอาหารพร้อมรับประทาน

แผนงานร้านอาหารในประเทศ

MK Restaurants (ร้านสุกี้เอ็มเค) 450 สาขา (สัดส่วนร้านสาขาบุฟเฟต์คงเดิม 10 สาขา) เป้าปี 2024 เปิด 15-20 สาขาใหม่

Yayoi Restaurant (ร้านยาโยอิ) 200 สาขา เป้า 15 สาขา

ร้านแหลมเจริญ ซีฟู้ด 45 สาขา เป้าฯ 10 สาขา

มูลค่าลงทุนขยายสาขาทั้งหมดประมาณ 350-400 ล้านบาท และบริษัทจะเปิดตัวแบรนด์ร้านอาหารใหม่ปี 2024 ประมาณ 1-2 แบรนด์ หนึ่งในนั้นเป็นแบรนด์ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาจากประเทศญี่ปุ่น

ส่วนในต่างประเทศ ปัจจุบันมี เอ็มเคสุกี้   ในประเทศญี่ปุ่น  25 สาขา เวียดนาม 5 สาขา ลาว 3 สาขา

แบรนด์มิยาซากิ ในลาว 1สาขา

ส่วนร้านแหลมเจริญซีฟู้ด  มีในมาเลเซีย  3 สาขา  กำลังวางแผนขยายสาขาของแหลมเจริญ ซีฟู้ด ในประเทศมาเลเซีย อีก 5 สาขา

ลุยซอสพริก ตลาดแสนล้าน

‘น้ำจิ้มสุกี้’ ยังเป็นตลาดที่ผู้บริโภคมี Brand loyalty ‘น้ำจิ้มสุกี้MKแบบขวด’ หลังจัดจำหน่ายที่ร้านสุกี้เอ็มเคทุกสาขา และร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศไทย รับรู้ยอดขายหลังเปิดตัวมา 4-5 เดือน อยู่ที่ประมาณ 4-5 แสนขวด

โดยมูลค่าตลาดซอสพริกทั่วโลกประมาณ 100,000 ล้านบาท โอกาสสำหรับผลิตภัณฑ์ยังมีอีกมาก ปี 2024 บริษัทพร้อมส่งออกน้ำจิ้มสุกี้MKแบบขวด ไปเกาหลี, อังกฤษ, แคนาดา, สหรัฐอเมริกา ตลอดจนมุ่งเจาะกลุ่มธุรกิจ HORECA (Hotel, Restaurant, Cafe-Catering)

บริษัทประเมินว่าหลังทำตลาดส่งออกสำเร็จ ยอดผลิตจะขยายเพิ่มอีกเท่าตัว และมองหาโอกาสเปิดตัวน้ำจิ้มแบบขวดรสใหม่ ๆ ที่มีเสิร์ฟอยู่ในร้านอาหารเครือบริษัทต่อไปในอนาคต

กระจายความเสี่ยง ลดลงทุนด้วยโมเดลแฟรนไชซอร์

หนึ่งในหน่วยธุรกิจสำคัญของบริษัท ปี 2024 คือการขยายพอร์ตร้านสุกี้เอ็มเค และ ร้านแหลมเจริญ ซีฟู้ด ในตลาดต่างประเทศ โดยจะเป็นการปล่อยแฟรนไชซี (Franchisee) และมีร่วมลงทุนในบางสาขากับพาร์ตเนอร์ที่ไว้วางใจกัน

MKGroup ในฐานะแฟรนไชซอร์ (Franchisor) จะช่วยดูแลในทุกขั้นตอนทั้งการวางแผน การฝึกอบรม ไปจนถึงการขนส่งวัตถุดิบ เพื่อคงคุณภาพและมาตรฐานการบริการตามแบบฉบับของต้นตำรับ จึงสามารถมั่นใจในความแข็งแกร่งของแบรนด์ และศักยภาพที่พร้อมจะเติบโตไปด้วยกันกับร้านอาหารในเครือ

สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ ปัจจุบันไม่ถึงร้อยล้านบาทต่อปี แต่ด้วยแผนงานต่าง ๆ ข้างต้น บริษัทประเมินว่าจะทำให้สัดส่วนดังกล่าวเติบโตไปถึง 10% ในอนาคต

เมื่อปี พ.ศ. 2505 ป้าทองคำ เมฆโต ได้ซื้อกิจการMK ต่อมาจากมาคอง คิงยี (Makong King Yee) ชาวฮ่องกง

ในปี พ.ศ. 2529 ร้านสุกี้เอ็มเค สาขาแรกในห้างเซ็นทรัล ลาดพร้าว

ปี 2567  ในประเทศไทย สุกี้ MK มีร้านอาหารในเครือรวมกว่า 700 สาขา ในต่างประเทศ 37 สาขา

จากซิงเกิลแบรนด์ ปัจจุบันปรับตัวเป็นมัลติแบรนด์เต็มตัว

The Next Chapter ของMK กรุ๊ป กับยุทธศาสตร์ครั้งใหม่น่าติดตามมาก ๆ

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer