ตลอดทั้งปี 2567 บมจ.ศุภาลัย ลุยเปิดโครงการแนวราบหลายแห่ง แต่ภาพรวมยอดขายยังไม่หวือหวา ก่อนจะจบปีจึงส่งโครงการคอนโดในทำเลศักยภาพสูง กระตุ้นไตรมาสสุดท้าย ปักธง 4 ทำเลทอง ได้แก่ เจริญนคร, สาทร-ราชพฤกษ์, ภูเก็ต และ อ.หัวหิน ตอกเสาเข็มโครงการใหม่ 4 โครงการคอนโดมิเนียม มูลค่ารวม 5,800 ล้านบาท
ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของธนาคารในครึ่งปีแรก ทำให้ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวตามไปด้วย แต่ในปัจจุบันเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวของตลาดที่ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว ดีมานด์ที่อยู่อาศัยคอนโดฯเพิ่มขึ้น ทั้งสำหรับการอยู่อาศัยเองและเพื่อการลงทุน
ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นับจากช่วงโควิด-19 ต้นทุนที่ดินและค่าก่อสร้างปรับตัวขึ้น แต่ในช่วงต้นปีมาราคาที่ดินปรับตัวอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมยิ่งขึ้น โครงการของศุภาลัยจึงมีราคาต่ำกว่าคู่แข่งในระดับหมื่นบาทต่อตารางเมตร
โดยในไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 นี้ ศุภาลัยปักธงลงเสาเข็ม 4 โครงการคอนโดมิเนียมใหม่ บน 4 ไพร์มโลเคชันที่มีศักยภาพสูงทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ จ.ภูเก็ต และ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มูลค่าโครงการรวม 5,800 ล้านบาท เพื่อตอบโจทย์เทรนด์และไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยในปัจจุบัน ได้แก่ SUPALAI TYME เจริญนคร, SUPALAI BLU สาทร-ราชพฤกษ์, SUPALAI SENSE เขารัง ภูเก็ต และ SUPALAI KRAM เขาเต่า
ทั้ง 4 โครงการใหม่ไม่ได้เพียงตอบสนองความต้องการที่อยู่อาศัยแบบเรียลดีมานด์เท่านั้น แต่ยังรองรับแนวโน้มการลงทุนของผู้ซื้อที่มองหาคอนโดมิเนียมเพื่อการปล่อยเช่าให้เป็นรายได้เสริม(Passive Income) ซึ่งเป็นแนวทางการลงทุนที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน
นอกจากนี้ ศุภาลัยยังมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการที่มีความยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีการออกแบบพื้นที่ใช้สอยในลักษณะ Multifunctional Space อีกทั้งโครงการใน จ.ภูเก็ต ยังคำนึงถึงความต้องการของกลุ่มคนรักสัตว์เลี้ยง (Pet Lover) ทั้ง 4 โครงการนี้จะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้บริโภคในทุกมิติ
คุณไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมสถานการณ์คอนโดมิเนียมในปี 2568 มีแนวโน้มจะกลับมาดีขึ้น เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคยังคงมีอยู่ แต่ปัจจุบันผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยังคงชะลอการเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ ทำให้ซัพพลายในตลาดคอนโดฯ กรุงเทพฯ อยู่ในภาวะขาดแคลน
ด้วยสถานการณ์นี้ศุภาลัยจึงเดินหน้าเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ใหม่ 2 โครงการบนทำเลศักยภาพ คือ “SUPALAI TYME เจริญนคร” ราคาเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท และ “SUPALAI BLU สาทร-ราชพฤกษ์” ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท ซึ่งจะตอบสนองต่อความต้องการโดยเฉพาะในด้านเทรนด์ผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับการหาที่อยู่อาศัยที่มีความคุ้มค่า ตอบโจทย์ฟังก์ชันการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับเงินที่ลงทุน
อีกทั้งยังมองหาห้องพักที่มีการออกแบบให้สามารถปรับเปลี่ยนตามการใช้งานได้หลากหลาย ไม่เพียงแค่การทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) แต่ยังรวมถึงการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมีคุณภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทำเลไพร์มโลเคชันทั้ง เจริญนคร และ สาทร-ราชพฤกษ์ ที่ล้อมรอบไปด้วยแหล่งอำนวยความสะดวกและสามารถเดินทางเชื่อมต่อทุกเส้นทางได้รวดเร็ว
ขณะที่ในส่วนภูมิภาค ศุภาลัย ได้ปักหมุดพัฒนา 2 โครงการใหม่ในจ.ภูเก็ต และ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นเมืองที่มีความโดดเด่นทั้งด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว โดย จ.ภูเก็ต เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม นอกจากนี้ยังมีอุตสาหกรรมการบริการและการค้ารวมถึงโครงสร้างพื้นฐานที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ศุภาลัยกลับมาเปิดตัวคอนโดฯ ใหม่ในรอบ 10 ปี กับ “SUPALAI SENSE เขารังภูเก็ต” ราคาเริ่มต้น 2.69 ล้านบาท คอนโดฯเลี้ยงสัตว์ได้แห่งแรกของศุภาลัยในภูเก็ต พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการครบครัน ท่ามกลางธรรมชาติของเขารัง
ด้าน อ.หัวหิน อันมีชื่อเสียงในฐานะสถานที่พักผ่อนสุดชิลล์ริมทะเลใช้เวลาเดินทางไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ซึ่งนอกจากจะดึงดูดนักท่องเที่ยวแล้ว ยังมีผู้ที่ต้องการหาที่อยู่อาศัยในทำเลที่มีคุณภาพและสะดวกสบาย จึงทำให้กลุ่มลูกค้ามีความหลากหลาย ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่มองหาที่พักอาศัยหรือการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ โครงการล่าสุด “SUPALAI KRAM เขาเต่า” Private คอนโดมิเนียม ใกล้ชายหาดเพียง 400 เมตร เงียบสงบและผ่อนคลายกับทัศนียภาพอ่างเก็บน้ำ เขาเต่า ในราคา 2 ห้องนอน เริ่มต้นเพียง 3.59 ล้านบาท
ด้านคุณชัยจักร วทัญญู ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายสร้างสรรค์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้ ศุภาลัย มีโปรดักซ์ไฮไลท์ที่น่าจับตามองถึง 4 โครงการคอนโดมิเนียม ซึ่งโดดเด่นด้วยดีไซน์ที่แตกต่างและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตั้งแต่ฟังก์ชันการใช้งานที่ลงตัวกับทุกไลฟ์สไตล์
- SUPALAI TYME เจริญนคร จากแรงบันดาลใจของสายน้ำผสานเสน่ห์แห่งเจริญนคร คอนโดมิเนียม High Rise สูง 28 ชั้น (รวมดาดฟ้า) 461 ยูนิต ขนาดพื้นที่โครงการ 3 ไร่ ห้องพักหลายขนาดตั้งแต่ 1-3 ห้องนอน ขนาด 35-118 ตารางเมตร และห้อง Duplex Living 2-3 ห้องนอน 92-163.5 ตารางเมตร อีกทั้งครบครันด้วย Connecting Rooftop Facilities Floors ส่วนกลางชั้นบนสุดที่เชื่อมต่อกิจกรรมหลากหลาย ชมวิวแม่น้ำได้ 180 องศา อาทิ Tyme Sky Lounge & Pool, Rock Climbing, Kids Sand Pit และ Roof Garden ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพใกล้ CBD เชื่อมต่อถนนสำคัญหลายสาย อาทิ เจริญนคร, สาทรและพระราม 3
- SUPALAI BLU สาทร-ราชพฤกษ์ บนถนนราชพฤกษ์ สูง 32 ชั้น (ไม่รวมดาดฟ้า) จำนวน 771 ยูนิต ขนาดพื้นที่โครงการ 4 ไร่กว่า พร้อมแบบห้องหลากหลาย ตั้งแต่ 1-3ห้องนอน ขนาด 29-122.5 ตารางเมตร รองรับการใช้ชีวิตกับดีไซน์แบบ Multifunction Living ที่ออกแบบพื้นที่ให้ตอบโจทย์ทุกการอยู่อาศัย เติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์ด้วย Full Facilities จัดเต็มส่วนกลางที่มากถึงกว่า 20 รายการ อาทิ BLU Aqua Pool สระว่ายน้ำไซส์เท่าสระโอลิกปิก, Stella Lounge,Sky Jogging Track และ Galaxy Theater
- SUPALAI SENSE เขารัง ภูเก็ต คอนโดมิเนียม Pet Friendly เลี้ยงสัตว์ได้แห่งแรกของศุภาลัย ประกอบด้วยอาคารชุดพักอาศัย จำนวน 2 อาคาร อาคาร A 9 ชั้น จำนวนห้องพัก 105 ยูนิต , อาคาร B สูง 8 ชั้น จำนวน 116 ยูนิต กับรูปแบบห้องพัก 1-2 ห้องนอน ขนาด 35–73 ตารางเมตร
ได้แรงบันดาลใจมาจาก “Modern Mediterranean” ความโค้งมน ผสมกับเส้นสายของแนวคลื่นและหาดทราย โดยอาคาร A และอาคาร B เชื่อมต่อกันด้วยพื้นที่ส่วนกลางและสระว่ายน้ำ Infinity Edge Lap Pool ยาว 21 เมตร พร้อม Jacuzzi พักผ่อนสายตากับวิวธรรมชาติ อาทิ Lobby แบบแยกอาคาร พร้อมทั้งพื้นที่ Semi Outdoor, วิวสระ Shallow Pool ที่เตียงอาบแดด ตอบโจทย์คนรักสัตว์ด้วย Pet Playground พื้นที่ Outdoor สำหรับสัตว์เลี้ยง
- SUPALAI KRAM เขาเต่า Private คอนโดมิเนียม Low Rise สูง 5 ชั้น จำนวน 4 อาคาร สุดเอ็กซ์คลูซีฟเพียง 84 ยูนิต ที่ออกแบบมาเพื่อการพักผ่อน บนพื้นที่โครงการกว่า 3 ไร่ ใกล้ชิดทะเลและอ่างเก็บน้ำเขาเต่า กับรูปแบบห้องพัก 2 ห้องนอนทั้งโครงการ ขนาด 53-82.5 ตารางเมตร ผังอาคารจัดวางแบบล้อมพื้นที่สระว่ายน้ำ Freeform ขนาดใหญ่ ให้ความเป็นส่วนตัวและทุกอาคารชม Pool View & Garden View
ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ต้องการจุดเปลี่ยน เนื่องจากที่ผ่านมาในช่วงสามไตรมาสที่ผ่านมาไม่มีปัจจัยบวกมาช่วยกระตุ้น ทั้งประเด็นดอกเบี้ยแพง อัตราการโดนปฏิเสธมาก แต่เริ่มเห็นแนวโน้มที่ดีขึ้นในช่วงจบครึ่งปีแรก สำหรับ 4 โครงการคอนโดมิเนียมใหม่นี้เปิดตัวในไตรมาสสุดท้าย คาดว่าจะเป็นช่วงที่มียอดขายดีที่สุดในปี และหากได้รับการสนับสนุนจากการลดอัตราดอกเบี้ยอาจจะช่วยกระตุ้นได้อีก ปีหน้าวางแผนเปิดโครงการใหญ่ ระดับแสนต่อตารางเมตร ณ สุขุมวิท คุณไตรเตชะ กล่าว




