ในช่วง 2-3 ปีมานี้ ร้านขายของใช้ในชีวิตประจำวันหรือที่เรียกว่าไลฟ์สไตล์ช้อปเกิดขึ้นในบ้านเราอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในไทยหรือถูกนำเข้ามาจากต่างประเทศ จนทำให้วันนี้มีรวมๆ กันไม่น้อยกว่า 10 แบรนด์

โดยมีแบรนด์หลักๆอยู่ 2 แบรนด์ที่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปเป็นอย่างดี ได้แก่ มินิโซ และ โมชิโมชิ ส่วน ไดโซะ ไม่ได้รวมอยู่ในกลุ่มนี้ เพราะขายสินค้าราคาเดียวทั้งหมด ต่างจากร้านไลฟ์สไตล์ช้อปที่มีสินค้าหลากหลาย

ปัจจุบันตลาดไลฟ์สไตล์ช้อปถูกคิดเป็นสัดส่วน 12% จากตลาด Specialty Store มูลค่า 46,000 ล้านบาท ปีที่ผ่านมาเติบโต 23% ส่วนปีนี้ก็คาดว่าจะโตไม่ต่างกัน

เมื่อตลาดยังมีทิศทางที่เติบโตต่อเนื่องประกอบกับไลฟ์สไตล์ช้อปยังอยู่ในกระแสของผู้โภคมูมูโซไลฟ์สไตล์ช้อปที่มีต้นกำเนิดจากเมืองจีน แต่ชูความเป็นเกาหลีด้วยภาพลักษณ์ที่ดึงดูดกว่า และปัจุบันมีอยู่กว่า 600  สาขาในกว่า 150 เมืองทั่วโลก จึงเป็นรายล่าสุดที่ขอกระโดดเข้ามาแจม

กว่าจะเข้าสู่ไทยใช้เวลาเจรจากับบริษัทแม่กว่า 6 เดือน ก่อนที่จะได้รับสิทธิ์แฟรนไชส์ 10 ปี พร้อมตั้ง บริษัท มูมูโซ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งก่อนนี้ได้ทำธุรกิจเกี่ยวกับร้านอาหาร สกินแคร์ และ เฟอร์นิเจอร์

มูมูโซชูจุดแข็งของสินค้าที่มีดีไซน์มินิมอลสไตล์เกาหลี คุณภาพดี และราคาที่เข้าถึงผู้บริโภคได้ทุกกลุ่ม มีสินค้าประมาณ 3,000 รายการ นำเข้าจากจีน 100% ครอบคลุมตั้งแต่สินค้าสำหรับเด็กเสื้อผ้า ของใช้ในครัวกระเป๋า เครื่องเขียน สกินแคร์และเครื่องสำอาง

สินค้าจะมีหมุนเวียนเข้าออกเดือนละประมาณ 100 รายการ ส่วนสินค้าในไทยเองหมดสิทธิ์เข้าร้าน เนื่องจากนโยบายของบริษัทแม่ ยกเว้นเครื่องดื่มที่สามารถนำมาขายเองได้ ด้วยพฤติกรรมของคนไม่เหมือนกันการนำเข้าอาจไม่ตอบโจทย์

วางกลุ่มเป้าหมายมีอายุระหว่าง 15 – 50 ปี ตั้งแต่ระดับนักเรียน นักศึกษา บุคคลทั่วไป นักท่องเที่ยวและนักเดินทางที่ต้องการสินค้าสำหรับใช้ชีวิตประจำวัน    

เริ่มเปิดสาขาแรกในศูนย์การค้าเดอะมอลล์โคราชเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2017 ก่อนจะขยายจนมี 7 สาขา โดยที่สาขาล่าสุดเป็นแฟรนไชส์แห่งแรกซึ่งเปิดที่ จ.พิษณุโลก

มียอดขายเฉลี่ย 100,000 บาท/วัน/ร้าน ยอดใช้จ่าย 300 บาท/บิล ทราฟฟิค 2,000 คน/วัน/ร้าน เป็นหญิง 70% ชาย 30%

ปกรณ์ ศุภวราพงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนากลยุทธ์ บริษัท มูมูโซ (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า ในระยะแรกจะเน้นขยายในต่างจังหวัดก่อนที่จะเข้าในกรุงเทพ เนื่องจากต้องการทดลองตลาด ศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภค ว่ามีผลตอบรับมากน้อยแค่ไหน เพื่อปูทางก่อนที่จะขยายไปสู่แฟรนไชส์

สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการเริ่มเปิดที่ต่างจังหวัด คือ พฤติกรรมของผู้บริโภคทั้งในต่างจังหวัด และกรุงเทพไม่ได้มีความแตกต่างกันเลย ดังนั้นความท้าทายจึงอยู่ที่ว่า จะตลาดจะเติบโตได้มากน้อยแค่ไหน เทรนด์จะไปเร็วไหม และจะสามารถสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ทันสมัย และสามารถตอบโจทย์ของผู้บริโภคหรือไม่

ภายในปีหน้าวางแผนเปิดอีก 20 สาขาแบ่งเป็นบริษัทเปิดเองกับแฟรนไชส์อย่างละครึ่งเลือกทำเลที่มีคนพลุกพล่านและไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้างเสมอไปเช่นในหมู่บ้านขนาดใหญ่ท่ารถตู้เป็นต้นโดยวางแผนจะไปยังหัวเมืองขนาดใหญ่เช่นเชียงใหม่และหาดใหญ่

วางโมเดลไว้ 3 ขนาด 80-150 ตารางเมตร มีสินค้า 1,000-1,500 รายการ ลงทุน 3 ล้านบาท, 150-200 ตารางเมตร มีสินค้า 3,000 รายการ ลงทุน 5 ล้านบาท และ 300 – 500 ตารางเมตร เป็นแฟลชิฟ สโตร์ที่จะเปิดในกรุงเทพ อยู่ในห้างแต่อยู่ระหว่างเจรจาของพื้นที่ โดยภายใน 5 ปีวางแผนขยาย 100 สาขา

ตั้งเป้าคืนทุน 1.5 ปี/สาขา ส่วนรายได้ปีนี้ตั้งเป้า 200 ล้านบาท ปีหน้า 1,500 ล้านบาท และ 5 ปีเกือบ 5,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามปกรณ์บอกว่าไลฟ์สไตล์ช้อปยังมีจุดอ่อนอยู่ที่ผู้บริโภคมีรอยัลตี้ต่ำ คู่แข่งเยอะ และสินค้าสามารถหาซื้อที่ไหนก็ได้ มูมูโซจึงจะมีระบบ CRM ที่ไว้เป็นส่วนลด และเอาไว้ศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคไปในตัว โดยจะได้มาเมื่อซื้อสินค้าครบ 300 บาท หรือซื้อบัตร 200 บาท ปัจจุบันมีฐานสมาชิกแล้ว 10,000 ราย เมื่อถึงสิ้นปีคาดหวังจะเพิ่มเป็น 50,000 ราย


อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer