สำหรับใครที่เคยเดินทางไปท่องเที่ยวบ่อย ๆ คงต้องคุ้นชินกับอาหารต่างประเทศบ้าง ซึ่งแน่นอนว่าอาหารแต่ละอย่างไม่ได้เป็นแค่สิ่งที่คนเรารับประทานเพื่อความอิ่มเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งที่ช่วยสื่อถึงวิถีชีวิต วัฒนธรรม และความภูมิใจของคนในท้องถิ่นอย่างลึกซึ้ง
และหลายต่อหลายครั้งที่เราลองเมนูจากต่างประเทศที่กลายมาเป็นสินค้าแบรนด์ดัง แต่กลับกินกันแบบสไตล์ของเรา วันนี้เลยจะมาแชร์วัฒนธรรมการกินเมนูเหล่านี้อย่างไรให้เหมือนคนท้องถิ่นจริง ๆ
พิซซ่าสไตล์อิตาเลียน

ในประเทศทั่วโลกส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอิตาลี พิซซ่ามาร์การิต้าจะเป็นพิซซ่าที่ขายดีเป็นอันดับหนึ่ง เนื่องจากพิซซ่าดั้งเดิมเหล่านี้ทำครั้งแรกในเนเปิลส์และได้รับการเผยแพร่ไปทั่วเมืองใหญ่ ๆ ของอิตาลี และในที่สุดก็กลายเป็นพื้นฐานของพิซซ่าทุกที่ในประเทศทั่วโลก
ดังนั้น ชาวอิตาลีหลายคนจึงคิดว่าพิซซ่ามาร์การิต้าเป็นพิซซ่าที่แท้จริงเพียงชนิดเดียว เพราะยิ่งน้อยยิ่งมากสำหรับการรับประทานส่วนผสมที่เรียบง่ายและสดใหม่
และหลายคนมักติดนิสัยการรับประทานพิซซ่ากับซอสมะเขือเทศแบบอเมริกัน แต่ถ้าไปอิตาลี คนท้องถิ่นจะเน้นกินแบบเรียบง่าย โดยพิซซ่าจะมีหน้าบาง ๆ รสชาติจากซอสมะเขือเทศสด ชีสคุณภาพดี และใบโหระพา ไม่ใส่ซอสเพิ่ม ไม่โรยพริกน้ำตาล แค่ใช้มือดึงเป็นชิ้น ๆ แล้วรับประทานเลย จึงจะถือว่าเป็นการเคารพวัตถุดิบ
แต่มีพิซซ่าชนิดหนึ่งของอิตาลีที่นิยมใช้กรรไกรตัด นั่นก็คือ พิซซ่าอัลทาลิโอ ซึ่งเป็นพิซซ่าที่นิยมรับประทานในช่วงตอนกลางวัน เพราะมีหน้าตาทอปปิ้งที่หลากหลาย
ราเมนจากญี่ปุ่น

เมื่อเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น เราจะเห็นได้ว่าประเทศญี่ปุ่นมีราเมนหลากชนิดและมีความแตกต่าง รวมไปถึงความหลากหลายของซุปที่แตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่นทั่วญี่ปุ่น
ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ราเมนจะมีเบสน้ำซุปหลัก ๆ อย่างราเมนโชยุที่ทำมาจากซีอิ๊วเป็นหลัก มิโซะราเมนที่ทำมาจากส่วนผสมของน้ำสต๊อกมิโซะ เครื่องเทศ และเครื่องปรุงรสอื่น ๆ ชิโอะราเมนที่ทำมาจากน้ำซุปใสที่เบาบางและปรุงรสด้วยเกลือ และสุดท้ายทงคตสึราเมนที่ทำมาจากน้ำซุปไพตันคลาสสิกที่ขุ่นและค่อนข้างข้น
แม้ว่าราเมนของแต่ละที่ในญี่ปุ่นจะแตกต่างกัน แต่วิธีการรับประทานราเมนของทุกที่ในญี่ปุ่นเหมือนกัน นั่นก็คือ การซดราเมนเสียงดังในญี่ปุ่น ซึ่งการกระทำสิ่งนี้ไม่ได้ถือว่าเป็นการเสียมารยาทแต่อย่างใด แต่กลับเป็นมารยาทที่ดี
เนื่องจากเป็นการแสดงถึงการชื่นชมรสชาติของเชฟ และยังช่วยให้กลิ่นและรสของน้ำซุปเข้าจมูกเต็มที่ ทำให้รับประทานได้อร่อยขึ้น อีกทั้งชาวญี่ปุ่นนิยมรับประทานราเมนอย่างรวดเร็ว เพราะถือว่าการวางตะเกียบเพื่อพูดคุยกันนาน ๆ จะทำให้เส้นอืดซึ่งเป็นสิ่งไม่ดี
ชีสฝรั่งเศส
รู้หรือไม่ ชาวฝรั่งเศสมีความชื่นชอบชีสเป็นอย่างมาก เพราะชีสมีบทบาทสำคัญในวัฒนธรรมการทำอาหารฝรั่งเศส ซึ่งถือได้ว่ากว่า 96 เปอร์เซ็นต์ของชาวฝรั่งเศสทุกคนรับประทานชีส และเกือบครึ่งหนึ่งรับประทานชีสเหล่านี้ทุกวัน
โดยประเพณีดั้งเดิมกำหนดว่าชีสควรเสิร์ฟในจำนวนคี่ โดยปกติจะเป็นสาม ห้า หรือเจ็ด และมักจะเสิร์ฟทั้งชิ้นหรือเป็นชิ้นใหญ่เพื่อให้ยังคงความชุ่มชื้นและรักษารสชาติไว้
โดยชีสในวัฒนธรรมฝรั่งเศสไม่ใช่แค่ของกินเล่น แต่คือศิลปะของรสชาติ ซึ่งในฝรั่งเศสมักรับประทานชีสกับขนมปังบาแก็ต ไม่ใช่แครกเกอร์หวาน และนิยมจิบไวน์ควบคู่ โดยเลือกไวน์ให้เข้ากับรสของชีสแต่ละประเภท โดยเฉพาะไวน์แดงที่มักจะเข้ากับชีสส่วนใหญ่ได้ดีที่สุด รวมไปถึงการหั่นชีสก็มีวิธีเฉพาะ เพื่อไม่ให้เสียสมดุลของรสชาติ
กาแฟอิตาลี

แน่นอนว่าชาวอิตาลีให้ความสำคัญกับกาแฟเป็นอย่างมาก เพราะกาแฟเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมอิตาลีมานาน จนเรียกได้ว่าถ้าจะดื่มกาแฟเอสเปรสโซแบบดั้งเดิมต้องเป็นของอิตาลีเท่านั้น
เนื่องจากการดื่มกาแฟในอิตาลีเป็นมากกว่าแค่รสชาติที่ดี แต่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันที่ฝังรากลึกอยู่ในวัฒนธรรมอิตาเลียนอย่างสมบูรณ์
และถ้าอยากดื่มกาแฟแบบคนอิตาลี ต้องลองเริ่มต้นยามเช้าด้วยเอสเปรสโซ่ 1 ช็อต และดื่มเร็ว ๆ ที่เคาน์เตอร์ร้าน รวมไปถึงไม่สั่งลาเต้ในตอนบ่าย เพราะคนอิตาลีมองว่ากาแฟใส่นมควรกินเฉพาะช่วงเช้าเท่านั้น
เนื่องจากบางคนให้ความเห็นว่าการดื่มนมหลังรับประทานอาหารยามบ่ายจะทำให้ปวดท้องได้ ในขณะที่บางคนให้ความเห็นว่าสิ่งนี้มีพื้นฐานมาจากประเพณีเก่า ๆ ของการดื่มนมทันทีที่คนส่งนมมาให้หน้าบ้านเพื่อไม่ให้เน่าเสีย
นอกจากนี้ กาแฟเย็นคือของนักท่องเที่ยวเท่านั้น เพราะเมนูนี้ถือเป็นอะไรที่คนท้องถิ่นแทบไม่ดื่มเลยทีเดียว
ขนมปังเยอรมัน

ตามธรรมเนียมแล้ว อาหารเช้าของเยอรมันขึ้นชื่อเรื่องความหลากหลาย ส่วนผสมคุณภาพสูง และความสดใหม่ ไม่ว่าจะเป็นไส้กรอกที่มักทำมาจากร้านขายเนื้อท้องถิ่นที่คัดสรรมาอย่างดี หรือน้ำผึ้งที่ทำมาจากคนเลี้ยงผึ้งโดยตรง
โดยเฉพาะขนมปัง เพราะในวัฒนธรรมเยอรมัน ขนมปัง (Brot) มีความหลากหลายและรสเข้ม ไม่เน้นความนุ่มฟูและความหวานแบบที่เราคุ้นเคย
เนื่องจากคนเยอรมันชอบขนมปังรสเปรี้ยว ที่เคี้ยวแล้วแน่น และมักรับประทานคู่กับชีส หรือเนย ซึ่งการรับประทานขนมปังของชาวเยอรมันนี้ถือได้ว่าเป็นมื้อหลัก โดยเฉพาะมื้อเช้า ซึ่งไม่ใช่แค่ของรับประทานเล่น
บทสรุป
เป็นที่เห็นได้ชัดแล้วว่า วัฒนธรรมการรับประทานอาหารของแต่ละที่นั้นไม่ใช่แค่กิน แต่เป็นความเข้าใจ เพราะการรับประทานอาหารแบบคนท้องถิ่นไม่ใช่แค่ทำตามสไตล์ แต่คือการเรียนรู้และเคารพในวัฒนธรรมของผู้คนนั่นเอง
เรื่อง: ภริดา มุทิตาภรณ์
ที่มา:
–
