ซิกเว่ เบรกเก้ เขาคนนี้จะเปลี่ยนโลกทรู สู่ Outside In สไตล์ที่สนุกขึ้น

ผมคุยกับคุณศุภชัย เจียรวนนท์ ว่า “สิ่งที่ทำได้ และทำได้ดีที่สุดคือ ดูทรู คอร์ปอเรชั่น” ซิกเว่ เบรกเก้ กล่าวในวันพบเพื่อนสื่อครั้งแรกในฐานะ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หลังจากขึ้นดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568 ควบคู่ไปกับประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจโทรคมนาคมและดิจิทัล เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือซีพี ที่ถูกแต่งตั้งก่อนหน้านั้น

การเข้ามาสู่เส้นทางประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ถือเป็นเส้นทางที่นำพาให้ซิกเว่ ได้กลับมาสู่ธุรกิจโทรคมนาคมอีกครั้ง หลังจากที่เขาเคยสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญพลิกแบรนด์ดีแทคกลับมามีชีวิตชีวาในอดีต

และเขาคือผู้อยู่เบื้องหลังการควบรวมดีแทค และทรู เป็นหนึ่งเดียวกันจนกลายเป็นบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น ในทุกวันนี้

 

ซิกเว่ยอมรับว่าในวันนี้เป็นการกลับมาบนโลกโทรคมนาคมและดิจิทัลที่เปลี่ยนไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง

เขายอมรับว่า 10 ปีที่ผ่านมา ดิจิทัลได้เปลี่ยนสังคมไปจากเดิมจากการเปลี่ยนแปลงในหลาย ๆ ประเทศ และการเปลี่ยนแปลงนี้กำลังเกิดขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

และไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการเป็นผู้นำในโลกโทรคมนาคมและเทคโนโลยีในภูมิภาคนี้

 

การควบรวมองค์กรเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา เป็นทรู คอร์ปอเรชั่น ในปัจจุบัน ซิกเว่ให้ความเห็นว่าจะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงไปสู่ภารกิจที่สำคัญในการสร้างการเติบโต้ด้านผลกำไร และนวัตกรรมต่าง ๆ ที่สร้างโอกาสให้ขึ้นเป็นผู้นำโทรคมนาคมและเทคโนโลยีชั้นนำระดับภูมิภาคได้ในอนาคต

แต่ถ้ามองย้อนหลังไป 2 ปีที่หลังควบรวม เฉพาะในกลุ่มโทรคมนาคม ทรู คอร์ปอเรชั่นยังคงไม่สามารถสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันทิ้งห่างคู่แข่งคนสำคัญอย่าง AIS ได้

เขายอมรับว่าที่ผ่านมา AIS ถือเป็นองค์กรที่มีความได้เปรียบทางการแข่งขัน และมีการปรับตัวอยู่เสมอ

และยังเป็นช่วงเวลาการท้าทายที่สูงจากพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าเปลี่ยนไป จนการให้บริการทั่วไปอาจไม่ตอบโจทย์ที่แท้จริง

“การควบรวมเป็นทรู คอร์ปอเรชั่นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา คือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ประทับใจ เนื่องจากการควบรวมถือเป็นเรื่องที่ยาก และท้าทาย เห็นได้จาก 60% ของบริษัทโลกที่ควบรวมกัน ไม่ประสบความสำเร็จ

 และ อยากให้รอดูอีก 2 ปีข้างหน้าจะแสดงให้เห็นผลลัพธ์​ที่สำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งใจไว้”

 

ส่วนวันนี้การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นคือการเติบโตของรายได้และผลกำไร ที่เป็นบวกในไตรมาส 1/2568  รวมถึงการสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้า บนความพึงพอใจที่เพิ่มขึ้น

แต่ยังการเปลี่ยนแปลงที่ ซิกเว่ มองว่ายังมองสามารถทำได้มากกว่านี้

เพราะ 100 วันต่อจากนี้ในฐานะประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ของเขาคือ การสร้างการเติบโตด้านรายได้ใน Q3/2568 เพิ่มขึ้น 2-3% และ  EBITDA (กำไรก่อนหักดอกเบี้ย) เติบโต 8-10%

บน KPI ที่ซิกเว่วางให้กับตัวเองคือ การสร้างความพึงพอใจให้กับ ผู้ถือหุ้น, ลูกค้า และพนักงาน บนการเติบโตของขาธุรกิจ พรีเพด โพสต์เพด และออนไลน์

ภายใต้เบื้องหลังของเป้าหมายที่ซิกเว่ได้วางไว้ ประกอบด้วยภารกิจ 3 ประกาศที่สำคัญ บนหัวใจหลัก Inside Out ได้แก่

1. ภารกิจด้านลูกค้า

มุ่งพาทรู คอร์ปอเรชั่น เป็นแบรนด์ที่ลูกค้าเชื่อใจ ไม่โกหก และให้ความเคารพลูกค้า เพื่อขึ้นเป็นแบรนด์ผู้นำในการสร้างความไว้วางใจ

ซิกเว่มองว่า ประสบการณ์ของลูกค้าไม่ได้มีเพียงแค่การแข่งขัน แต่ต้องประกอบด้วยการตีความความหมายของคำว่าลูกค้าในแง่ต่าง ๆ

ทั้งรูปแบบการสร้างประสบการณ์ของลูกค้าระหว่างทรูและดีแทคเป็นหนึ่งเดียวกัน บนช่องทางที่หลากหลาย ทั้งแอปพลิเคชัน ศูนย์บริการ และร้านค้า เพื่อให้บริการเป็นหนึ่งเดียว และนำ AI มาใช้ในการบริการลูกค้าในด้านต่าง ๆ เพื่อสร้างประสิทธิภาพในการให้บริการและความพึงพอใจเพิ่มขึ้น

และยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาเครือข่ายให้มีความน่าเชื่อถือ ใช้งานได้ดี และรองรับอนาคต ในรูปแบบ Network Modernization เพื่อเป็นจุดแข็งที่แตกต่างจากคู่แข่ง

ซึ่งเครือข่ายในรูปแบบ Network Modernization เป็นรูปแบบการนำเครือข่ายของทรูและดีแทค ให้บริการเป็นเครือข่ายเดียวกัน และที่ผ่านมาได้มีการนำร่องทดลองในจังหวัดภูเก็ต ก่อนที่จะต่อยอดไปจังหวัดต่าง ๆ ครบ 77 จังหวัดภายในเดือนกันยายน 2568 นี้

รวมถึงให้ความสำคัญในการรักษาฐานธุรกิจโทรคมนาคม สร้างการเติบโตในกลุ่มธุรกิจดิจิทัล บนการพัฒนาการให้บริการเครือข่ายต่อเนื่อง และนำเสนอผลิตภัณฑ์บริการดิจิทัลใหม่ ๆ ที่เหมาะสมตรงกับลูกค้าเฉพาะบุคคลเพิ่มขึ้น

2. ภารกิจด้านเทคโนโลยี

“AI เป็นเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ จากนี้ต่อไป ทรู คอร์ปอเรชั่น ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี AI ทั้งในเรื่อง AI for all Thais พัฒนาบริการ AI โมเดล ในรูปแบบต่าง ๆ ที่ช่วยลดค่าใช้จ่าย และเข้าถึงคนไทยในวงกว้าง และเกิดการใช้งานจริง”

สำหรับในองค์กรทรู คอร์ปอเรชั่น ได้นำพัฒนาบริการ AI ช่วยวิเคราะห์ คาดการณ์ และนำเสนอสินค้าและบริการที่เกินความคาดหวังของลูกค้าเฉพาะบุคคลเพื่อสร้างความพึงพอใจให้เพิ่มขึ้น

และซิกเว่ ยังมองว่า AI เป็นเทคโนโลยีที่สร้าง Smart City ที่สามารถเชื่อมต่อทุกคน ทุกสิ่ง ในรูปแบบ IoT (Internet of Thing) เช่น เซนเซอร์ต่าง ๆ  ไฟจราจร กล้อง CCTV ด้วยบริการอินเทอร์เน็ตและการประมวลผลผ่าน AI

 

3. ภารกิจด้านทีม

“ต้องการสร้างทรู คอร์ปอเรชั่นให้มีวัฒนธรรมองค์กรที่มองลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญ ที่มีความลุ่มหลงในลูกค้า มองลูกค้าเป็นศูนย์กลางในรูปแบบ Outside In ที่เขาเคยสร้างวัฒนธรรมนี้มาแล้วในดีแทค และแฮปปี้ ดีแทค”

เพราะองค์กรจะก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืนต้องคำนึงถึงพนักงานที่มีใจอยากทำงานและเติบโตไปพร้อม ๆ กับองค์กร จากประสบการณ์ที่เคยทำงานในหลากหลายประเทศ ได้พบว่าสิ่งที่พนักงานทุกคนต้องการคือ อยากได้รับการเคารพ และอยากเป็นที่ยอมรับสังคม

บริบทของผู้นำในวันนี้จึงไม่ใช่เป็นผู้นำที่อยู่ในออฟฟิศ และออกคำสั่ง แต่ต้องเป็นผู้ฟัง ทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดี สามารถตรวจสอบได้ เพื่อเป็นแรงดึงดูดให้พนักงานทำงานเป็นทีมมุ่งสู่เป้าหมายความสำเร็จร่วมกัน

อย่างไรก็ดี สำหรับการกลับมาในธุรกิจโทรคมนาคมอีกครั้งของซิกเว่ ยังมีความท้าทายจากทิศทางการผ่านของทรู คอร์ปอเรชั่น จาก Telecom Company สู่ Tech Company บน Could First และ AI First ที่ต้องร่วมแข่งขันกับ Tech Company อื่น ๆ ทั่วมุมโลก ไม่เพียงเฉพาะ AIS ที่เป็นคู่แข่งเดิมในตลาดเท่านั้น
และการเปลี่ยนสู่ Tech Company เป็นหนึ่งเหตุผลในการสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดให้เกิดขึ้นในอนาคต ผ่านบริการใหม่ ๆ และการจับมือร่วมกับพันธมิตรที่โดดเด่นในด้านต่าง ๆ เพื่อให้บริษัทกับลูกค้า

ซึ่งต่างจากการเป็น Telecom Company ที่รายได้ที่เกิดจากการบริการดาต้าและโครงข่ายเท่านั้น

ส่วนปี 3 ของการควบรวมแบรนด์ดีแทคจะหายไปหรือไม่ ซิกเว่ ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ เพราะขั้นตอนนี้ยังคงอยู่ในกระบวนการศึกษาเชิงกลยุทธ์

แต่ที่แน่นอนการมาของ ซิกเว่ เบรกเก้ จะทำให้ทรู คอร์ปอเรชั่น มีสีสันมากขึ้น จากหัวใจหลักของผู้นำที่ชื่อซิกเว่ คือ การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ความสนุก พนักงานร่วมกันทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ผ่านการเชื่อมโยงกับลูกค้าและตลาด

และเป็นความสนุกที่แตกต่างจากที่เคยทำไว้กับดีแทค ♦

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer