รองเท้า ecco แบรนด์รองเท้า Premium Casual ที่คนทั่วโลกหลงรัก

ทุกการเดินทาง ทุกไลฟสไตล์การใช้ชีวิต ต่างมีเหตุผลที่แต่ละคนมีความเป็นตัวเองอยู่เสมอแต่ไม่ว่าเหตุผลของแต่ละคนเป็นอย่างไร ไลฟสไตล์แต่ละคนเป็นแบบไหน ปฏิเสธไม่ได้ว่าเราต่างต้องการ “เพื่อนที่รู้ใจ” ที่จะเดินทางไปกับเราด้วยเสมอ เพื่อนที่รู้ใจที่ว่าไม่จำเป็นต้องเป็นคนเท่านั้น รองเท้าคือสิ่งที่คุณปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือเพื่อนที่อยู่ใกล้ชิดคุณมากที่สุด และเดินทางไปพร้อมกับคุณมากที่สุด ในมิติของผู้ผลิตรองเท้า นี่จึงเป็นก้อนความคิดสำคัญ ที่จะต้องเข้าใจปรัชญาสัมพันธ์ระหว่าง “มนุษย์”กับ “รองเท้า” เพื่อที่จะตอบโจทย์ผู้สวมใส่มากที่สุด และเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมทั่วโลกจึงยอมรับและภักดีกับ รองเท้า ecco แบรนด์รองเท้า Premium Casual ที่ติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลกมาอย่างยาวนาน

ecco ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2506 โดยที่ Karl Toolsbuy ตัดสินใจขายสมบัติทั้งหมดที่มี แล้วย้ายไปอยู่ที่หมู่บ้าน Bredebeo ในชนบทของประเทศเดนมาร์ก ที่นั่นเองที่เขาได้ก่อตั้งโรงงานแห่งแรกขึ้นจากโรงงานเล็กๆ ที่มีเพียงคูหาเดียว

ปรัชญาที่เขาเน้นย้ำ รองเท้ากับคน ต้องประสานเป็นหนึ่งเดียวกัน ดีไซน์+ฟังก์ชั่น+ความสบาย จึงกลายเป็นสูตรในการออกแบบรองเท้า ภายใต้โจทย์ที่จะต้องค้นหาความต้องการของลูกค้าอยู่เสมอ

เขาค้นพบว่ากลุ่มลูกค้ามี 2 ประเภทคือ กลุ่ม Demanding และ กลุ่ม Open-minded แน่นอนทั้งสองกลุ่มต่างต้องการในเรื่องคุณภาพของรองเท้าเหมือนกัน แต่สิ่งที่แตกต่างคือกลุ่มหลังนั้นให้ความสำคัญกับเรื่องดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ตลอดจนอารมณ์ความรู้สึกจากการสวมใส่หลอมรวมเป็นรสนิยมที่แตกต่าง

รองเท้า ecco

Innovative Foots Wear

นั่นเป็นทิศทางสร้างอัตลักษณ์ของ ecco ด้วยการผสมผสาน Innovative Foots Wear กับดีไซน์สไตล์ยุโรป แบบสแกนดิเนเวีย ที่สามารถเข้ากับการแต่งตัวได้หลากหลายทั้งในวันทำงานและวันหยุด ให้ผู้สวมใส่ได้มิกซ์แอนด์แมทช์ให้กับตัวเอง

ด้วยการออกแบบอย่างชาญฉลาด บ่งบอกถึง ความแอคทีฟ ทันสมัย เรียบหรู ได้ผลิตจากหนังแท้นุ่มคุณภาพพรีเมียม ทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกสบายตั้งแต่ส่วนของนิ้วเท้า จนฝ่าเท้า และรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้คุณเป็นคุณ ดูดีได้ในแบบที่ไม่ต้องพยายามเป็นใคร นี่คือความเป็นพรีเมียมในแบบของ ecco

ในปี พ.ศ.2521 ecco ได้ผลิตรองเท้าออกมารุ่นหนึ่ง คือ รุ่น Joke และทำยอดขายได้อย่างถล่มทลาย และกลายเป็นรองเท้า ที่มีความทนทาน และยืดหยุ่นเป็นพิเศษ ที่ผลิตด้วยกรรมวิธี Direct Injection ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่สุดในเวลานั้น ต่อมาได้นำผ้าไฮเทค ชื่อ GORE-TEX ที่มีคุณสมบัติกันน้ำ ระบายความร้อน และมีความทนทานเป็นเยี่ยม มาตัดเย็บเป็นรองเท้า ที่ช่วยให้ผู้สวมใส่มีความคล่องตัวในทุกอิริยาบถ ทุกไลฟ์สไตล์ ลุยปีนเขา หรือลุยน้ำก็ตอบโจทย์ได้ จุดนี้เป็นโพสิชันนิ่งที่คนทั่วโลกรู้จัก ecco มากขึ้น โดยเฉพาะรองเท้าสำหรับนักกอล์ฟที่ได้ทั้งเรื่องดีไซน์สวยงามกับฟังก์ชั่นที่ครบเครื่อง

ความเป็นพรีเมียมของแบรนด์ ecco ตอกย้ำด้วยการสร้างโรงงานผลิตและโรงฟอกหนังเป็นของตนเอง จุดนี้ทำให้การควบคุมการผลิตทุกๆ ขั้นตอนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้กระเป๋าแบรนด์ดังอันดับต้นๆ ของโลก ยังเลือกโรงงานของ ecco ให้เป็นส่วงหนึ่งในการเลือกใช้หนังในการผลิตสินค้า ยิ่งทำให้แบรนด์ ecco เป็นเครื่องหมายการค้าระดับพรีเมียมเป็นที่ยอมรับสากล แบรนด์ ecco จึงค่อยๆ เติบโตพร้อมกับตลาดที่กว้างขึ้น ขยายสาขา เพิ่มโรงงานการผลิตไปต่างประเทศจากฐานยุโรปกระจายสู่เอเชีย ทั้งโปรตุเกส อินโดนีเซีย ฮอลแลนด์ สโลวาเกีย จีน และไทย

สำหรับรองเท้า ecco ประเทศไทยเริ่มเข้ามาทำตลาดตั้งแต่ปี 2537 ที่มีโรงงานผลิตที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปัจจุบันแบรนด์ ecco ค่อนข้างเป็นที่รู้จักในกลุ่ม Niche Market แม้จะไม่เยอะ แต่ก็เป็นกลุ่มที่ความภักดีกับแบรนด์มาก โดยปีนี้ได้เปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด “Spring/Summer 2015” เอาใจกลุ่มเป้าหมายคนทำงานรุ่นใหม่ที่มีแนวโน้มให้ความสำคัญต่อการดูแลสุขภาพเท้ามากขึ้น รวมทั้งการเลือกรองเท้าที่สวมใส่สบาย ดีไซน์เรียบหรู สามารถใช้งานได้หลากหลายโอกาส

การออกแบบคอลเลคชั่นนี้จะเน้นผสมผสานความเป็นธรรมชาติ เรียบง่าย อ่อนโยน และความสบาย เพื่อสร้างความสมดุลให้กับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ไม่หยุดนิ่งของผู้คนในปัจจุบัน

โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากทิวทัศน์อันสวยงามของประเทศแถบสแกนดิเนเวียนซึ่งเป็นต้นกำเนิดของแบรนด์ ecco สะท้อนผ่านการดีไซน์ที่เรียบหรู โทนสีสบายตา เช่น สีพาสเทลของฤดูใบไม้ผลิ สีฟ้าครามของน้ำทะเล สีทรายอ่อนๆ และสีดำของท้องฟ้ายามค่ำคืน ในเมืองโคเปนเฮเกน และที่สำคัญ รองเท้า ecco ยังคงใส่ใจในคุณภาพการผลิตด้วยเทคโนโลยีทันสมัย เลือกใช้วัสดุหนังแท้เกรดพรีเมียม เพื่อมอบความรู้สึกนุ่ม เบา สบายเท้าให้ผู้สวมใส่ได้ตลอดทั้งวัน