ในช่วงที่ผ่านมา ธุรกรรมสแกนจ่ายและโอนเงินผ่านโมบายแบงก์กิ้งในประเทศไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดด สะท้อนถึงการเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคที่เข้าสู่สังคมไร้เงินสดอย่างต่อเนื่อง

จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ Marketeer รวบรวม พบว่า

ปี 2564 มีธุรกรรมสแกนจ่ายและโอนเงินผ่านโมบายแบงก์กิ้งกว่า 15,495.43 ล้านรายการ มูลค่า 57.26 ล้านล้านบาท

ปี 2565 จำนวนธุรกรรมเพิ่มขึ้นเป็น 22,126.28 ล้านรายการ มูลค่า 66.23 ล้านล้านบาท

ปี 2566 จำนวนธุรกรรมเพิ่มขึ้นเป็น 28,749.32 ล้านรายการ มูลค่า 69.34 ล้านล้านบาท

ปี 2567 จำนวนธุรกรรมเพิ่มขึ้นเป็น 34,910.03 ล้านรายการ มูลค่า 72.58 ล้านล้านบาท

ส่วนไตรมาส 1/2568 มีจำนวนธุรกรรม 9,321.47 ล้านรายการ มูลค่า 18.95 ล้านล้านบาท

ไตรมาส 2/2568 มีจำนวนธุรกรรม 9,300.67 ล้านรายการ มูลค่า 18.78 ล้านล้านบาท

 

แม้จำนวนและมูลค่าธุรกรรมในไตรมาส 2 จะลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2568 แต่เมื่อมองไปที่จำนวนผู้ใช้โมบายแบงก์กิ้งกลับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ปี

ปี 2564 จำนวน 84.29 ล้านบัญชี

ปี 2565 จำนวน 96.70 ล้านบัญชี

ปี 2566 จำนวน 107.24 ล้านบัญชี

ปี 2567 จำนวน 117.84 ล้านบัญชี

ไตรมาส 1/2568 จำนวน 122.47 ล้านบัญชี

ไตรมาส 2/2568 จำนวน 126.74 ล้านบัญชี

 

สิ่งนี้สะท้อนว่า ผู้คนยังคงเปิดใช้บัญชีและพร้อมเข้าถึงบริการดิจิทัลมากขึ้น แต่ปริมาณการใช้งานจริงกลับไม่ได้เร่งตัวอย่างก้าวกระโดดตามไปด้วย

สิ่งที่เกิดขึ้นจึงไม่ใช่แค่คำถามว่า ‘คนไทยสแกนจ่ายน้อยลงหรือไม่’ แต่เป็นโจทย์ใหญ่กว่านั้นว่า โมบายแบงก์กิ้งและธุรกรรมดิจิทัลจะก้าวข้ามการเติบโตเชิงปริมาณไปสู่การใช้งานจริงที่มีคุณค่าและยั่งยืนได้อย่างไร


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer