ตลาดร้านอาหารไทยเริ่มกลับมาฟื้นตัวช่วงปลายปี 2025 หลังซบเซาหนักในครึ่งปีแรก โดยแรงส่งสำคัญมาจากโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” ที่ช่วยดันยอดขายร้านทั่วประเทศโตเฉลี่ยถึง 4 เท่า ขยายฐานลูกค้าใหม่ และเพิ่มรายได้ให้ไรเดอร์อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะร้านรายย่อยและร้านในเมืองรองที่ฟื้นตัวเร็วกว่ากรุงเทพฯ
คุณยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai กล่าวว่า ครึ่งปีแรก 2025 ถือเป็นช่วงต่ำสุดของธุรกิจร้านอาหาร ยอดขายต่อร้านหดตัวแรงถึง -14% ในไตรมาส 2 จากกำลังซื้อที่อ่อนแรงและต้นทุนที่สูง แต่หลังเข้าสู่ครึ่งปีหลัง ตลาดเริ่มกลับมาอยู่ในแดนบวก โดย Q3 โต +1% และ Q4 (ข้อมูลเดือนตุลาคม–พฤศจิกายน) โต +5% ซึ่งสะท้อนแรงฟื้นตัวชัดเจนจากมาตรการคนละครึ่ง พลัส
ข้อมูลจาก Wongnai POS และแพลตฟอร์ม LINE MAN พบว่า ร้านเปิดใหม่ในครึ่งปีหลังเพิ่มขึ้น 3% แต่สัดส่วนร้านที่ปิดตัวยังสูงถึง 50% ใกล้เคียงครึ่งปีแรก สะท้อนการแข่งขันรุนแรงท่ามกลางภาวะต้นทุนเพิ่มขึ้น
🟥 คนละครึ่ง พลัส ดันยอดขายโตเฉลี่ย 4 เท่า–ร้านเล็กพุ่งแรงสุดถึง 5.9 เท่า
มาตรการดังกล่าวปลดล็อกกำลังซื้อได้จริง โดยมีตัวเลขสำคัญดังนี้
- 65% ของร้านในโครงการเลือกขายบน LINE MAN โดยยอดขายคนละครึ่งบนแพลตฟอร์มคิดเป็น 63% สูงที่สุดในตลาด
- เกิดยอดออเดอร์รวมกว่า 8 ล้านออเดอร์ภายใน 3 สัปดาห์
- ยอดขายร้านค้าทั่วประเทศโตเฉลี่ย 4.2 เท่า สูงสุดกว่า 10 เท่า ในบางพื้นที่
- ร้านค้าได้ลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น 22% ความถี่สั่งซื้อเพิ่ม 15% และมูลค่าบิลโต 30%
- ร้าน “รายย่อยต่ำกว่า 10,000 บาทต่อเดือน” โตสูงสุดถึง 5.9 เท่า ขณะที่ร้านขนาดกลางโต 2 เท่า
- รายได้ไรเดอร์เพิ่มขึ้น 15–25% ตามจำนวนออเดอร์ที่สูงขึ้น
เมนูยอดนิยมสูงสุดในช่วงแคมเปญ ได้แก่ ชาไทย, ตำปูปลาร้า, ชาเขียวนม, โกโก้ และตำป่า ขณะที่เมนู “จัดหนัก” เช่น แซลมอน ทุเรียนหมอนทองแกะเนื้อ กุ้งเผา ปูไข่นึ่ง และหมูหัน ทำบิลสูงสุดแตะ 1,700 บาท สะท้อนโอกาสที่ผู้บริโภคใช้สิทธิ์เพื่อทดลองเมนูราคาสูง
🟥 ต่างจังหวัดฟื้นตัวแรง แซงกรุงเทพฯ หลายเท่า
ช่วง Q4/2025 (ตุลาคม–พฤศจิกายน):
- ยอดขายต่อร้านในต่างจังหวัดโตเฉลี่ย +7% (จาก -11% ใน Q2)
- กรุงเทพฯ โตเพียง +2% (จาก -16% ใน Q2)
จังหวัดที่เติบโตโดดเด่นที่สุดเมื่อเทียบก่อนโครงการ ได้แก่
- จันทบุรี +9.4 เท่า
- หนองบัวลำภู +9.3 เท่า
- อุตรดิตถ์ +8.9 เท่า
- อุดรธานี +8 เท่า
- เชียงราย +7 เท่า
เมืองท่องเที่ยวฟื้นชัด เช่น เชียงใหม่ +9%, พัทยา +12% และภูเก็ต +7%
🟥 กรุงเทพฯ ฟื้นช้าสุด—บรรทัดทองหนักที่สุดในเมือง
แม้ภาพรวมฟื้นตัว แต่หลายย่านในกรุงเทพฯ ยังติดลบอยู่:
- ย่าน CBD (สาทร–สีลม–สุขุมวิท): จาก -19% ใน Q2 ฟื้นมาอยู่ที่ -1%
- บรรทัดทอง: ติดลบหนักที่สุด จาก -35% ใน Q2 และยังติดลบ -21% ช่วงปลายปี
- ร้านในห้าง: กลุ่มเดียวที่กลับมาเป็นบวก จาก -21% ใน Q2 พลิกเป็น +1% ในช่วงตุลาคม–พฤศจิกายน
🟥 พฤติกรรมผู้บริโภคปี 2025: “เลือกกินคุ้มค่า” และสองเทรนด์ใหญ่ “ติดแซ่บ–มัตจะ” ครองปี
- เมนูบิลต่ำกว่า 500 บาทได้รับผลกระทบน้อยกว่า ลด -12% ใน Q2 ก่อนฟื้นเป็น +5%
- เมนูบิลสูงกว่า 500 บาทจาก -14% ใน Q2 ฟื้นเป็น +4% บ่งชี้ว่าผู้บริโภคยังระมัดระวังการใช้จ่าย
เทรนด์รสชาติ 2025
- เมนู “ติดแซ่บ” เช่น ส้มตำ–ยำ–หม่าล่า มียอดค้นหากว่า 16 ล้านครั้ง ทั่วประเทศ
- “ตำปูปลาร้า” ครองแชมป์เมนูยอดสั่งอันดับ 1 ของปี ด้วยยอดเสิร์ฟกว่า 8 ล้านจาน
- ฝั่งเครื่องดื่ม “มัตจะ” โตแรงกว่า 300% ยอดสั่งกว่า 6.5 ล้านแก้ว ดันชาเขียวนมเย็นขึ้นแท่นอันดับ 1 แทนกาแฟดำ
🟥 ปี 2026 ยังท้าทาย—ต้องจับตาหลังแรงกระตุ้นรัฐหมดลง
LINE MAN Wongnai คาดว่าแม้ตลาดปลายปี 2025 จะส่งสัญญาณบวกชัดเจน แต่ภาวะเศรษฐกิจยังเปราะบาง และความสามารถในการใช้จ่ายยังผันผวน ปี 2026 จึงต้องจับตาเป็นพิเศษว่าตลาดร้านอาหารจะรักษาโมเมนตัมได้เพียงใดเมื่อมาตรการกระตุ้นรัฐสิ้นสุด
คุณยอดย้ำว่า บทเรียนจากปีนี้พิสูจน์บทบาทของแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ในฐานะ “โครงสร้างพื้นฐานของร้านอาหารไทย” ที่ช่วยกระจายรายได้สู่ร้านค้าทั่วประเทศโดยเฉพาะร้านรายย่อย และเป็นแรงหนุนสำคัญให้ระบบนิเวศอาหารไทยเดินหน้าต่อในช่วงเศรษฐกิจท้าทาย

