“สนใจซื้อประกันเพิ่มไหมคะ” หลายคน ๆ คนคงเคยได้ยินและเบื่อหน่ายกับคำถามเหล่านี้จนต้องสั่นหัวและเดินออกมา หรือแม้กระทั่งซื้อไปแล้วก็มิได้รับการบริการที่ดีจากตัวแทนเท่าไรนอกจากการตามเบี้ยประกันทุกสิ้นเดือนหรือทุกไตรมาส
คำถามเหล่านี้ หรือความสงสัยเหล่านี้ผู้ซื้อประกันทุกคนคงเคยเป็น เมืองไทยประกันชีวิตได้เล็งเห็นถึงปัญหาเหล่านี้จึงได้เปิดตัว MTL Smile Service บริการที่ครบถ้วนและตอบโจทย์ลูกค้าผ่านช่องทางที่หลากหลาย ตั้งแต่ก่อนการเสนอขาย ระหว่างการเสนอขาย หรือหลังการขาย และเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในปัจจุบันโดยไม่มีการยัดเยียดการขายเกิดขึ้น
สาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เมืองไทยฯ ยังคงเดินหน้าด้วยการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง จึงได้ทำการสำรวจและพบกว่าลูกค้าต้องการการดูแลแบบครบวงจรทั้ง คน+Digital เราจึงได้เปิดตัว MTL Smile Service ที่จะมาสร้างประสบการณ์ใหม่ด้านการบริการที่เหนือระดับและครบวงจร ผสมผสานการดูแลลูกค้าผ่านทีมงานคุณภาพและเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่สามารถเข้าถึงและเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด”
โดย MTL Smile Service จะประกอบไปด้วย
- MTL Smile Care:
เป็นการดูแลดูแลและให้บริการแก่ลูกค้าอย่างครบวงจรโดยเป็นแห่งแรกของธุรกิจประกันชีวิตกับรูปแบบการบริการที่คลอบคลุมตั้งแต่ขั้นตอนการให้คำแนะนำก่อนการซื้อกรมธรรม์ประกันภัย ไปจนถึงขั้นตอนการซื้อกรมธรรม์ประกันภัย
ตลอดจนการให้บริการหลังการขาย โดยทีมงานจะดูแลให้คำปรึกษาด้านประกันชีวิตและสิทธิประโยชน์ต่างๆ และทำงานร่วมกับช่องทางการขายต่างๆ ของบริษัทฯ ไม่ว่าจะเป็นช่องทางตัวแทน ช่องทางธนาคาร และช่องทางการขายอื่นๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการดูแลและให้บริการลูกค้า
นอกจากนี้ ทีม “MTL Smile Care” ยังให้บริการในด้านการให้คำปรึกษาและดูแลอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น การตรวจสุขภาพ การเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนตัว การเรียกร้องสินไหมพร้อมติดตามผลการพิจารณาสินไหมสุขภาพ การประเมินค่าใช้จ่ายก่อนรักษาจริงกรณีจะเข้ารับการผ่าตัดรักษา
เพื่อให้ผู้เอาประกันได้วางแผนค่ารักษาพยาบาลและทราบความคุ้มครองก่อนเข้ารับการผ่าตัดจริง ตลอดจนการออกเยี่ยมดูแลผู้เอาประกันในกรณีเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล และเข้าเยี่ยมเยียนลูกค้าเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในโอกาสต่างๆ รวมถึงการให้คำแนะนำเมื่อกรมธรรม์ครบกำหนด
โดยปัจจุบันทีมงาน MTL Smile Care กว่า 500 คน พร้อมให้บริการอย่างเต็มที่ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด
- MTL Smile Tech:
เมืองไทยฯ ได้พัฒนาฟังก์ชั่นบน Smile Service Application ด้วยนวัตกรรมด้านการบริการแบบ Face to Face ในรูปแบบของ “Video Call” ซึ่งเป็นเจ้าแรกของธุรกิจประกันชีวิต ที่ลูกค้าจะได้สัมผัสในอีกรูปแบบของการบริการ
เพียงกดสัญลักษณ์รูปกล้องวิดีโอใน Smile Service Applicationก็สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่แบบทั้งภาพและเสียงได้ Real Time เพื่อความอุ่นใจในขณะใช้บริการ โดยให้บริการตอบข้อซักถามเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัยทุกประเภท
และเกี่ยวกับขั้นตอนการใช้งานของ Smile Service Application โดยลูกค้าสามารถใช้บริการเมนู Video Call ได้ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30 – 17.00 น. ยกเว้นวันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
- MTL Smile Touch:
เมืองไทยฯ พัฒนาช่องทางการเข้าถึงที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การให้บริการผ่านศูนย์บริการลูกค้าทั่วประเทศทั้งในห้างสรรพสินค้าและโรงพยาบาลชั้นนำ และบริการ Call Center 1766 เมืองไทย Smile ตลอด 24 ชั่วโมง
โดยล่าสุดได้เพิ่มศูนย์บริการลูกค้าทางโทรศัพท์ ได้เพิ่มบริการเมืองไทย Customer Contact Center ภาษาต่างประเทศ โทร. 1766 กด 9 สำหรับภาษาอังกฤษ กด 1 ภาษาจีน กด 2 และภาษาญี่ปุ่น กด 3 ในวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30 – 17.00 น. ยกเว้นวันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
- MTL Smile Club:
Loyalty Program ที่มีอายุถึง 14 ปีของเมืองไทยฯ โดยในปีนี้จะมีกิจกรรมที่หลายหลายอย่าง “เมืองไทย Smile Club ลุ้นโชค ช้อป ชิม ชิล” ลุ้นรางวัลรวมถึง 14 ล้านบาท รวมถึงกิจกรรม “Good Health Get Point ยิ่งสุข ยิ่งได้” สำหรับลูกค้าที่สมัครสมาชิกเมืองไทย Smile Club และซื้อสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพตามที่บริษัทฯ กำหนด ก่อนปี 2561 โดยไม่มีการเคลมสุขภาพตลอดปี 2561 จะได้รับคะแนนสะสม Smile Point เพิ่มพิเศษตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด
นอกจากนี้ยังสานต่อกิจกรรม “เมืองไทย Smile Society : ให้โอกาสรัก ให้โอกาสชีวิต” ด้วยการร่วมบริจาคคะแนนสะสม Smile Point สนับสนุนการสมทบทุนซื้อเครื่องช่วยหายใจ เพื่อผู้ป่วยเด็กโรคป่วยเรื้อรังของระบบทางเดินหายใจ ในมูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี
ประกันชีวิตยังคงเติบโตได้
นอกจากให้ข้อมูลเรื่อง MTL Smile Service แล้ว คุณสาระ ยังได้กล่าวถึงตลาดประกันชีวิตดังนี้
“ตลาดประกันชีวิตในปี 2561 นี้ยังคงมีโอกาสเติบโตแต่คงเติบโตได้ในเลขหลักเดียว แต่จากตัวเลขการถือครองประกันชีวิตของคนไทยพบได้ว่ามีคนไทยที่ถือครองประกันชีวิตเพียง 39% จากประชากรทั้งหมด ซึ่งยังมีอีกจำนวนมากที่คงยังไม่มีประกันชีวิต”
ถ้าถามว่าปีนี้ประกันตัวไหนจะโต ตอบได้เลยว่าคือประกันด้านสุขภาพ เพราะคนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ซึ่งประกันด้านสุขภาพนั้นเติบโตได้ 2 หลักอย่างแน่นอน แต่ถ้านับสัดส่วนแล้วประกันสุขภาพมีสัดส่วนเพียง 10-11% เท่านั้นในตลาดประกัน โดยประกันหลักยังคงเป็นประกันแบบออมทรัพย์อยู่ซึ่งมีสัดส่วนถึง 60% ในตลาด ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดเติบโตได้เล็กน้อย
ด้านบริษัทประกันชีวิตต้องปรับตัวอย่างไรในยุคนี้ สิ่งที่ต้องปรับตัวคือ การตอบโจทย์ความต้องการรายบุคคลของลูกค้าให้ได้ ทั้งยังต้องตอบโจทย์การให้บริการต่างๆ ตั้งแต่การเสนอขาย จนถึงบริการหลังการขาย หรือแม้กระทั่งการเก็บเบี้ยประกัน ต้องมีช่องทางให้ลูกค้าเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว และจำเป็นต้องมีช่องทางที่ลูกค้าสามารถติดต่อสอบถามได้ตลอด 24 ชม.
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline

