ปีที่ผ่านมาผู้บริหารค่ายรถยนต์ทุกค่ายต่างเริงร่ากับยอดขาย เพราะบทสรุปภาพรวมตลาดรถยนต์เมืองไทยในปี 2560 ที่ผ่านมามีมูลค่า 870,000 คัน เติบโตถึง 12%
เหตุผลหลักๆ เพราะยาพิษโปรโมชั่นรถคันแรกคืนเงิน 1 แสนบาทที่มี 1 กฎเหล็กคือห้ามซื้อ – ขาย เปลี่ยนมือใน 5 ปีได้สิ้นสุดลง โดยมีรถที่อยู่ในโครงการดังกล่าวถึง 1.2 ล้านคัน
นั้นหมายความว่าช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีประชากร 1.2 ล้านคนที่ถูกแช่แข็งด้วยกฎห้ามให้รถเปลี่ยนมือเจ้าของ ทำให้ไม่สามารถขายรถคันเก่าแล้วเอาเงินไปซื้อรถคันใหม่ได้
ตลาดรถยนต์ เมืองไทย

แล้วเมื่อหมดระยะเวลารถคันแรก คนเริ่มขายรถคันเก่าซื้อรถคันใหม่ในปีที่แล้ว ตลาดรถปี 2560 ที่เพิ่งผ่านไป จึงกลับมาลืมตาอ้าปากเติบโตอีกครั้งด้วยยอดขาย 870,000 คัน
ที่น่าสนใจ เมื่อเป็นการเติบโตครั้งแรกในรอบ 5 ปี ค่ายรถก็ไม่รอช้ารีบฉกฉวยโอกาสในปีนี้ พร้อมกับประกาศเป็นเสียงเดียวกัน มั่นใจตลาดรถยนต์ปี 2561 จะมียอดขายรวมกันทะลุ 930,000 คันอย่างแน่นอน
แล้ว “โอกาส” ที่ว่าก็คือ…การกระตุ้นให้แก่คนไทยทั่วประเทศซื้อรถคันใหม่ ด้วยสารพัดวิธี ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี Plug in Hybrid และ EV car ของกลุ่มค่ายแบรนด์หรูอย่าง BMW และ Mercedes Benz ที่ผลิตรถรุ่นใหม่เทคโนโลยีไฮเทค แล่นเข้าโชว์รูมให้ลูกค้าเลือกซื้ออย่างต่อเนื่อง
ในขณะที่ค่ายรถยนต์ระดับ Mass ถึงจะยังไม่ได้ผลิตรถระบบ Plug in Hybrid แบบเต็มสูบเหมือนอย่างค่ายรถหรู ทำให้เวลานี้ตลาดหลักก็ยังคือรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป
เพราะฉะนั้น “ไม้ตาย” ที่จะถูกขับเคลื่อนยอดขายในตลาด Mass ไม่ใช่รถที่มีเทคโนโลยีที่อัพเกรดเครื่องยนต์ไปสู่รถพลังงานไฟฟ้า แต่คือสารพัดโปรโมชั่นที่ร้อนแรงที่ปูพรมลากยาวตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นดอกเบี้ยอัตรา 0 – 2% ดาวน์เริ่มต้นที่ 7,000 – 8,000 บาท,ผ่อนเดือนละ 3,000 – 4,000 บาท
แล้วดูจะได้ผลชะงักเมื่อข้อมูลจาก Toyota ระบุว่าครึ่งปีแรก 2561 ตลาดรถยนต์มียอดขายรวมกัน 5 เดือน 401,264 คัน เติบโตถึง 18% หากเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน
เหตุผลที่ต้องใช้โปรโมชั่นขับเคลื่อนเพราะ ณ เวลานี้ถึงจะมีกระแสข่าวว่าเศรษฐกิจดีขึ้น ทั้งส่งออกที่เติบโต, ภาคธุรกิจท่องเที่ยวที่ดีขึ้น, ทำให้ค่า GDP 3 เดือนแรกปี 2018 อยู่ที่ 4.8% เติบโตในรอบ 5 ปีเลยทีเดียว
แต่ในแง่ลบหาก Insight ไปที่ชนชั้นล่างซึ่งก็คืออีกหนึ่งฐานลูกค้าหลักในตลาดรถยนต์ยังมีกำลังซื้ออ่อนแอ โดยเฉพาะเกษตรกรที่ราคาสินค้าเกษตรยังไม่ฟื้นตัวและยังมีภาวะหนี้ครัวเรือนที่ยังสูง
การระดมโปรโมชั่นของค่ายรถยนต์ก็เพื่อให้ลูกค้าระดับล่างสามารถเป็นเจ้าของรถได้ง่ายขึ้น ในขณะที่ลูกค้าระดับกลางที่เป็นกลุ่มมนุษย์เงินเดือนพอมีกำลังซื้อก็จะตัดสินใจควักเงินจ่ายเป็นเจ้าของรถคันใหม่แบบไม่ต้องคิดอะไรเยอะ
สิ่งที่ต้องติดตามต่อไปนั้นคือการดึง Demand ด้วยโปรโมชั่นร้อนๆ ของค่ายรถยนต์ในสภาวะเศรษฐกิจที่ดูซับซ้อนแบบนี้ จะทำให้เกิด NPL หรือหนี้เสียอยู่ที่ตัวเลขเท่าไร
เพราะในช่วง 1 -2 ปีที่ผ่านมา บริษัทศูนย์ข้อมูลเครดิตแห่งชาติระบุว่าภาพรวม NPL (หนี้เสีย) ของธนาคารพาณิชย์ประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 405,328 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 13%
และหากลงลึกข้อมูลไปอีก จะพบว่ามีสินเชื่อรถยนต์เป็นอีกหนึ่งสินเชื่อที่เร่งเร้าก่อให้เกิด “หนี้เสีย” จนธนาคารพาณิชย์เอง ก็ต้องขวัญผวาอยู่ไม่ใช่น้อย
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
